
4 ก.ย. 2565 – นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า สำนักสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย 3 คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีหนังสือเรียกให้สมาคมฯไปพบในวันจันทร์ที่ 5 ก.ย.65 นี้ เวลา 13.30 น.เพื่อให้ถ้อยคำประกอบคำร้อง กรณีที่ร้องเรียนให้ดำเนินการไต่สวนสอบสวนเอาผิด ส.ส.ที่มีหลักฐานยืนยันว่ารับเงินหรือทรัพย์สินจากบุคคลอื่น โดยการโอนบัญชีธนาคารผ่านระบบ internet banking ของธนาคารนับแสนบาทต่อเดือน
ทั้งนี้สืบเนื่องจากการที่สื่อมวลชนได้เผยแพร่ข้อมูลจากกรณีไลน์หลุด ซึ่งมีเนื้อหาและภาพที่ระบุให้เห็นว่า มีรายชื่อ ส.ส.พรรคเล็ก เซ็นต์ชื่อรับเงินกันหลายคนจากบุคคลซึ่งไม่ปรากฎชื่อ และมีภาพหลักฐานสลิปการโอนเงินไปยังบุคคลปลายทาง ซึ่งเป็นชื่อของหัวหน้าพรรคการเมืองเล็กๆ รวมทั้งหัวหน้ากลุ่มการเมืองด้วยโดยจ่ายกันเป็นรายเดือนๆละ 100,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
หลักฐานดังกล่าวสามารถบ่งชี้ได้ว่านักการเมืองต่าง ๆ มีพฤติการณ์การรับเงินกันจริง แต่ไม่ปรากฏว่าเป็นการโอนรับกันเพื่อวัตถุประสงค์ใด หรือเพื่อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์บางอย่างกัน หรือยินยอมหรือกระทำการใดอันทำให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการอันเป็นการครอบงำหรือชี้นำ กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม หรือไม่
นอกจากนั้น ยังมีข้อพิรุธว่า ส.ส.บางคนอ้างว่าเงินที่ได้รับโอนมาดังกล่าวนำไปใช้ในการลงพื้นที่ ดูแลชาวบ้านนั้น จะถือเป็นรายได้หรือรายรับของพรรคการเมืองตาม ม.62(5) และหรือ (7) ของ พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2561 หรือไม่ และได้มีการประกาศให้ประชาชนทราบตาม ม.65 และหรือได้มีการปฏิบัติตาม ม.67 ครบถ้วนแล้วหรือไม่ และหรือมีการจัดทำและลงรายการทางบัญชีรายรับ-รายจ่ายของพรรคการเมืองตาม ม.59 หรือไม่ ฯลฯ แต่หากไม่ใช่ก็อาจถือได้ว่าเป็นเงินที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายทันที ซึ่งอาจเข้าข่ายความผิดตาม ม.72 ประกอบ ม.126 ของกฎหมายพรรคการเมือง ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเท่าใดก็ได้ขึ้นอยู่กับศาลกำหนด
ที่สำคัญการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายฝ่าฝืน ม.28 ประกอบ ม.92(3) ของ พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2561 ซึ่งมีโทษถึงขั้นยุบพรรคการเมืองดังกล่าวได้อีกด้วย ที่บัญญัติห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทําการใดอันทําให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่ สมาชิกกระทําการอันเป็นการควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํา กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทําให้ พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อมนั่นเอง
ในวันดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จะได้นำพยานหลักฐานที่ไม่เคยปรากฎในสื่อมาก่อน ไปมอบให้ กกต.เพิ่มเติม เพื่อให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ เพื่ออัปเปหิ เหล่า ส.ส.หรือหัวหน้าพรรคการเมืองตามหลักฐานดังกล่าวต่อไป นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กกต.ชี้ผู้สมัคร พรรคส้ม ถูกจับยังไม่เข้าลักษณะต้องห้าม
กกต.กทม. แจงผู้สมัคร ส.ส. เขต 33 ปชน. ถูกจับข้อหาฟอกเงิน–ยาเสพติด ยังไม่เข้าลักษณะต้องห้าม หากศาลยังไม่ตัดสินเด็ดขาด พร้อมย้ำการเปลี่ยนผู้สมัครทำได้เฉพาะกรณีลาออก ตาย หรือมีคำพิ
'กกต.' สรุปยอดลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า 9 วัน เกือบ 7 แสนราย
กกต. สรุปตัวเลขผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้ง หรือเลือกต้องล่วงหน้าในเขตเลือกตั้ง นอกเขตเลือกตั้งและนอกราชอาณาจักร
'สมชัย' บอกชัด เบอร์พรรค-เบอร์คน คนละเบอร์อย่าด่า 'กกต.' ฝ่ายเดียว ต้องด่าใครบ้าง
ความวุ่นวายสับสนในเรื่องเบอร์พรรคกับเบอร์ผู้สมัครเขตของพรรคเป็นคนละเบอร์ ทำให้เป็นความยากลำบากแก่ประชาชนในการจดจำ ลำบากต่อ พรรคในการหาเสียง
เปิดขั้นตอนหย่อนบัตร8ก.พ.69 บัตร3ใบเลือกตั้งพ่วงประชามติ
ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูกาลการเลือกตั้งทั่วไปเพื่อเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) อย่างเป็นทางการ โดยในครั้งนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทยที่จะมีการเลือกตั้ง สส. พร้อมกับการทำประชามติหนึ่งเรื่องในวันเดียวกัน โดยกำหนดจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 17.00 น. ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
กกต. สรุปสมัครปาร์ตี้ลิสต์ 1.5 พันคน 73 แคนดิเดตนายกฯ
กกต. สรุปภาพรวมสมัคร สส. บัญชีรายชื่อวันแรก 1,502 คน ส่วน 34 พรรค เสนอแคนดิเนตนายกฯ 73 คน ขณะที่สมัครแบบแบ่งเขต 2 วัน รวม 3,199 คน
กกต. พอใจรับสมัครปาร์ตี้ลิสต์ 52 พรรคฉลุย มั่นใจ 8 ก.พ. มีเลือกตั้งแน่
'กกต.' เผยรับสมัครปาร์ตี้ลิสต์วันแรกราบรื่น 52 พรรคยื่นครบ เสนอแคนดิเดตนายกฯ 32 พรรค 68 คน เดินหน้าตรวจนโยบายเข้มตามกฎหมาย มั่นใจเลือกตั้ง 8 ก.พ.69 จัดได้ทั่้วประเทศ

