อดีตทูตนริศโรจน์ เล่าสมัยเคยทำงานที่ลาว บอกพวกแซะเลิกอคติ การระดมทุนช่วย รพ.

23 ต.ค.2565-นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก Fuangrabil Narisroj ว่า ผมเคยทำงานที่ลาว 2 วาระ ครั้งแรกเมื่อปี 2550-2554 และครั้งที่ 2 เมื่อปี 2558-2560

งานในหน้าที่ส่วนนึงก็คือดูแลเกี่ยวกับความช่วยเหลือสปป.ลาวในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา และด้านการแพทย์ เพราะไทยเราถือว่า สปป.ลาวเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีความสำคัญที่สุดในทางยุทธศาสตร์ และมีความเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกันทางประวัติศาสตร์และสายเลือดแบบตัดกันไม่ขาด 

ถึงแม้ไทยกับ สปป.ลาวจะมีระบอบการปกครองที่แตกต่างกัน แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาหรืออุปสรรคขวางกั้นสัมพันธไมตรีระหว่างไทยและลาวได้เลย การช่วยเหลือสปป.ลาวนั้น นอกเหนือจากในส่วนของภาครัฐบาลที่ดำเนินการช่วยเหลือผ่าน กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ ( หรือเดิมชื่อ กรมวิเทศสหการ)  หน่วยงานจากกระทรวงทบวงกรมอื่นๆแล้ว  ในส่วนของ “สถาบัน” ก็มีส่วนช่วยเหลือสปป.ลาวอย่างต่อเนื่องเสมอมา โดยเฉพาะ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตน์ ฯ นั้น ทรงห่วงใยและพระราชทานสิ่งของช่วยเหลือ โรงเรียนและโรงพยาบาลต่างๆในสปป.ลาวตลอดมามิได้ว่างเว้น และทุกครั้งที่สถานเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดำเนินการนำสิ่งของช่วยเหลือ อุปกรณ์ทางการแพทย์ อุปกรณ์การศึกษา ไปให้พี่น้องชาวลาวตามเมือง ตามแขวง ต่างๆ ไม่ว่าหนทางจะยากลำบากแค่ไหน เราก็ต้องฝ่าฟันกันไปให้ถึง

สถานทูตไทยที่เวียงจันทน์มีพาหนะสำหรับการบุกเข้าไปในถิ่นทุรกันดารของลาว เป็นรถจี๊ป 4WD และรถตู้บรรทุกของ เส้นทางที่เข้าไปทุลักทุเลสุดๆ จนทำให้รถจี๊ป 4WD และรถตู้พังต้องซ่อมตลอดหลังจากบุกป่าฝ่าดงกันเข้าไป และเมื่อเราได้มอบสิ่งของความช่วยเหลือแล้ว เราก็ยังต้องเฝ้าติดตามและให้ฝ่ายลาวรายงานผลที่ได้รับการช่วยเหลือให้เราทราบ ซึ่งเมื่อทุกอย่างสัมฤทธิ์ผลแล้ว พี่น้องชาวลาวได้ใช้ประโยชน์จากสิ่งของที่เรามอบให้ แค่นี้หัวใจเราก็ “ฟู” ด้วยความปิติแล้ว

ผมยังจำภาพโรงพยาบาลในเมืองและแขวงต่างๆที่ไทยเราเคยไปช่วยเหลือได้ติดตา สภาพอาคารและอุปกรณ์ทางการแพทย์บางอย่างนั้น ถูกใช้มาตั้งแต่สมัยอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศส คือมันเก่าและล้าสมัยมาก !!! ผมเคยไปสัมภาษณ์ชาวบ้านคนลาวตามเมืองต่างๆ เขาเล่าให้ฟังว่า เพราะความที่ลาวขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ทำให้ในหลายๆครั้งเกิดเหตุการเสียชีวิตทั้งๆที่ไม่ควรเสีย ทั้งนี้เป็นเพราะขาดอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น ชาวลาวที่มีฐานะส่วนใหญ่ถ้าเกิดเจ็บไข้ได้ป่วยก็เลือกที่เข้าไปรักษาตัวที่ฝั่งไทย

ดังนั้น โรงพยาบาลตามแนวตะเข็บชายแดนไทยลาว หรือ แม้แต่ไทยพม่า ไม่ได้รับเฉพาะคนไข้ชาวไทยเท่านั้น แต่ต้องรับคนไข้จากประเทศเพื่อนบ้านด้วย  เวลาพวกเขาบาดเจ็บบากหน้ามาพึ่งเรา เราก็ทิ้งเขาไม่ได้ เพราะคำว่า “มนุษยธรรม” นั่นเอง ซึ่งตรงนี้งบประมาณที่ภาครัฐจัดให้ รพ.ต่างๆตามแนวตะเข็บชายแดนไม่เพียงพอแน่นอน และก็ได้ความช่วยเหลือสนับสนุนบริจาคจากภาคเอกชนนั่นแหละที่ช่วยกันพยุงทำให้ปัญหานี้ทุเลาลงไปได้

ดังนั้น เวลาผมอ่านที่มีคนเขียนแซะกระแนะกระแหนใครก็ตามที่มีจิตศรัทธาทำกิจกรรมเพื่อช่วยระดมทุนบริจาคช่วยเหลือ รพ.ทั้งฝั่งไทยและในประเทศเพื่อนบ้านอย่าง สปป.ลาว แล้ว ผมในฐานะคนที่เคยทำงานในพื้นที่มาก่อน รู้สึกจิตตกครับว่า ทำไมพวกเขาถึงมีมุมมองที่คับแคบมาก บางครั้งก็ไปเอาเรื่องทางการเมืองมาโยงด้วยอคติเพื่อเตะตัดขาคนที่เขาตั้งใจทำกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือคนอื่น วางอัตตาและอคติกันลงบ้างเถอะครับ โลกจะสวยงามยิ่งขึ้น !

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘ศุลกากร’ยันส่งออกน้ำมันไปลาวไม่ได้พุ่งจนผิดสังเกต

‘ศุลกากร’ แจงข้อมูลส่งออกน้ำมันไป สปป.ลาว ตรงกันทุกหน่วยงาน ยืนยันหลังตรวจสอบทุกด่านพบปริมาณไม่ได้เพิ่มขึ้นจนผิดสังเกต ย้ำชัดไทยงดส่งออกน้ำมันไปกัมพูชาแล้ว 100% ตั้งแต่ ก.ค. 2568 พร้อมขอความร่วมมือคู่ค้าไทยงดส่งต่อน้ำมันไปประเทศที่สาม

TOA บริจาคเงิน 10 ล้านบาท เร่งฟื้นฟู รพ.หาดใหญ่ ส่ง ‘ทีโอเอ อาสา’ ผนึกกำลังทหาร ปูพรมแจกถุงยังชีพ และทีมวิศวกรลงพื้นที่ประเมินความเสียหาย ช่วยพี่น้องชาวใต้เต็มพิกัด

บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA ตอกย้ำผู้นำอุตสาหกรรมสีทาอาคารอันดับหนึ่งของไทย และผู้เชี่ยวชาญเคมีภัณฑ์ก่อสร้าง เดินหน้าโครงการ TOA ทิ้งกัน สู้ภัยน้ำท่วม

เตือนประชาชนระวัง 'โรคหัด' หลังพบแพร่ระบาด บริเวณชายแดนเพื่อนบ้าน

รัฐบาลเตือนประชาชนระวัง 'โรคหัด' หลังพบแพร่ระบาดบริเวณชายแดนเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.เชียงราย เผยปี 68 พบผู้ป่วยสะสมแล้วพันกว่าราย