14 พ.ย.2564 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มธรรมศาสตร์พิทักษ์ธรรม ออกแถลงการณ์ต่อกรณีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเรื่องล้มล้างระบอบการปกครอง ระบุว่า
"ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 ให้การกระทำของแกนนำกลุ่มราษฎรเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง และสั่งห้ามมิให้กระทำการในลักษณะดังกล่าวต่อไป ซึ่งก่อให้เกิดกระแสต่อต้านคัดค้านข้อวินิจฉัยจากกลุ่มผู้สนับสนุนการกระทำดังกล่าว มีการวิจารณ์และนำเสนอความเห็นที่มีตรรกะบิดเบือน ตัดทอนข้อความให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน รวมถึงกระทำการคุกคามต่อศาลรัฐธรรมนูญทั้งทางตรงและทางอ้อม นั้น
กลุ่มธรรมศาสตร์พิทักษ์ธรรม ขอสนับสนุนและแสดงความชื่นชมต่อการปฏิบัติหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการ และบุคลากรทุกท่าน ที่ได้ใช้ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ และวิจารณญาณที่ดี เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งความเป็นชาติไทยที่มั่นคง สร้างหลักการในการใช้สิทธิเสรีภาพที่ถูกต้อง และเป็นแนวทางให้กับสังคมในการอยู่ร่วมกันอย่างมีสันติสุข เป็นประชาธิปไตย มีความเสมอภาค และภราดรภาพ
การเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงทางสังคมนั้น สามารถกระทำได้ด้วยแนวทางและวิธีการที่ถูกต้อง โดยไม่ฝ่าฝืนกฎหมาย และไม่ล่วงละเมิดสิทธิของผู้อื่น สังคมย่อมขับเคลื่อนไปตามความเหมาะสม ตามกาลเวลา เป็นการอยู่ร่วมกันด้วยความเข้าใจ เคารพ และสงบสุข แต่เป็นที่น่าเสียใจที่กลุ่มผู้เคลื่อนไหวดังกล่าวมิได้ยึดปฏิบัติในหลักการนี้ กลับพยายามใช้ความรุนแรง ใช้ถ้อยคำก้าวร้าวหยาบคาย ลบหลู่ละเมิดสถาบัน เผาทำลายพระบรมฉายาลักษณ์และทรัพย์สินราชการ
โดยการเคลื่อนไหวอย่างเป็นกระบวนการที่มีขบวนการอันประกอบด้วย พรรคการเมือง นักการเมือง นักวิชาการ นายทุนทั้งในประเทศและทุนต่างชาติให้การสนับสนุน มีการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารเพื่อให้ร้ายป้ายสี สร้างความเกลียดชังและแตกแยก สร้างงานวิชาการ วิทยานิพนธ์ด้อยคุณค่าแต่กอปรด้วยวาทะกรรมด้อยค่า ล้มล้างบ่อนเซาะสถาบันสูงสุดซึ่งเป็นการบ่อนทำลายประเทศชาติอย่างร้ายแรง เผยแพร่แนวคิดนั้นไปยังเยาวชนผ่านระบบการศึกษาและสื่อสารสังคมออนไลน์
การกระทำเช่นนี้หาใช่การปฏิรูปซึ่งมีความหมายถึงการกระทำให้ดีขึ้นแต่อย่างใด แต่กลับกล่าวอ้างว่าเป็นการปฏิรูป โดยเข้าใจว่าสังคมไทยเป็นสังคมด้อยปัญญามิสามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างการปฏิรูปและการล้มล้างได้ ซึ่งกลุ่มฯ ขอยืนยันว่า “การล้มล้างมิใช่การปฏิรูป” ทั้งนี้ กลุ่มฯ ขอคัดค้านบุคคลหรือคณะบุคคลใดๆ ที่มีเจตนาร้ายฝ่าฝืนคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ อันอาจทำให้ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชนคนไทยได้รับความเสียหายอย่างเต็มกำลังแม้นต้องสละชีพ
กลุ่มฯ ขอให้กำลังใจแก่ศาลรัฐธรรมนูญและผู้ปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย รักษาความยุติธรรมให้แก่ประชาชนและสังคมไทย ประเทศไทยได้ชื่อว่าเป็นแผ่นดินทองที่มีรากฐานทางวัฒนธรรมมายาวนาน มีขนบธรรมเนียมประเพณีที่งดงาม ขอคนไทยทุกคนได้ช่วยกันสร้างแผ่นดินแห่งนี้ให้มั่นคง เจริญรุ่งเรือง เป็นบ้านเกิดเมืองนอนแก่คนรุ่นหลังสืบต่อไป"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มติเอกฉันท์! ศาลรธน. ไม่รับคำร้อง 'เรืองไกร' กล่าวหารัฐสภาแก้ รธน.ล้มล้างการปกครอง
‘ศาลรธน.’ มีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้อง ‘เรืองไกร’ ปมกล่าวหาประธานรัฐสภา–สมาชิกรัฐสภาใช้สิทธิล้มล้างการปกครอง ชี้การประชุมร่วมแก้รัฐธรรมนูญยังไม่ปรากฏพฤติการณ์เข้าข่ายมาตรา 49 แม้อัยการสูงสุดไม่ดำเนินการแต่ผู้ร้องมีสิทธิเข้าศาลโดยตรงก็ตาม
คนเสื้อแดงกินแห้ว! ศาล รธน. ไม่รับวินิจฉัย ปม MOA 'ภูมิใจไทย-ปชน.'
ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องในคดีที่นายนิยม นพรัตน์ (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 กล่าวอ้างว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ผู้ถูกร้องที่ 1) และนายณัฐพงษ์
ลุ้นกันยาวๆ 24 ธ.ค.ศาล รธน.นัดไต่สวนพยานคดี 'ภูมิธรรม-ทวี' จุ้นคดีฮั้ว สว.
ศาล รธน.นัดไต่สวนพยานคดีสถานะ 'ภูมิธรรม-ทวี' จุ้นคดีฮั้วเลือก สว. 24ธ.ค.นี้ พร้อมไม่อนุญาต 'สราวุธ' ถอนตัวจากการพิจารณาคดี
ตีตก 2 คำร้อง! ศาล รธน. ไม่วินิจฉัย MOA ตั้งรัฐบาลอนุทิน เหตุไม่มีหลักฐานชัดล้มล้างการปกครอง
ศาล รธน.ตีตกปม MOA "ณัฐพงษ์-อนุทิน" ให้ สส.ปชน-ภท. โหวตนายกฯ เหตุไม่มีหลักฐานชี้ชัดใช้สิทธิล้มล้างปกครอง เป็นการประกาศเจตจำนงร่วมทางการเมือง
'ราชทัณฑ์' พร้อมส่งตัว 'แส จิ้นเจียง' เจ้าพ่อพนันชเวก๊กโกให้รัฐบาลจีนดำเนินคดี
“ราชทัณฑ์” พร้อมส่งตัว “แส จิ้นเจียง“ ผู้ต้องหาชาวจีน เจ้าพ่อพนันชเวก๊กโกให้รัฐบาลจีนดำเนินคดี หลัง “ศาลรัฐธรรมนูญ” วินิจฉัย “พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน” ไม่ขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญ ระบุ อยู่ระหว่างรับประสานงาน “อัยการ-ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ“ ยืนยัน ผู้ต้องหาเป็นบุคคลสำคัญเกี่ยวกับความมั่นคง ต้องดูแลความปลอดภัยเต็มที่ ป้องกันชิงตัวผู้ต้องหา
ระทึก! ศาลรัฐธรรมนูญสั่งไต่สวนพยานบุคคลคดี 'ภูมิธรรม-ทวี' ใช้อำนาจแทรกแซง
ศาลรัฐธรรมนูญสั่งไต่สวนพยานบุคคล คดี สว. ร้อง 'ภูมิธรรม-ทวี' ใช้อำนาจแทรกแซงการเลือก สว.โดยมิชอบ

