‘ดร.มานะ’ ตีแสกหน้า ‘คอร์รัปชันในโครงการปืนสวัสดิการตำรวจ’

31 ต.ค.2565-ดร. มานะ นิมิตมงคล เลขาธิการ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “คอร์รัปชันในโครงการปืนสวัสดิการตำรวจ” ระบุว่า  ทำไมคนไทยถึงมีปืนในครอบครองจำนวนมาก ทำไมปืนเถื่อนจึงหาซื้อได้ง่ายทางอินเตอร์เน็ต ตำรวจขโมยปืนหลวงเพิ่งมีจริงหรือ แล้ว “ปืนสวัสดิการตำรวจ” มาเกี่ยวข้องได้อย่างไร คำตอบที่เหมือนกันทุกประเด็นคือ ผลประโยชน์ที่เกิดจาก “คอร์รัปชัน”  

โครงการปืนสวัสดิการฯ เริ่มเรื่องด้วยการเสนอขอของ สตช. ไปยังกระทรวงมหาดไทย และเมื่อผู้ใดต้องการซื้อปืน กระบวนการออกใบอนุญาตจะให้ซื้อ ให้ครอบครอง ให้พกพา จะอยู่ในอำนาจของ กรม จังหวัดและอำเภอ แล้วแต่กรณี คอร์รัปชันที่เกิดขึ้นอย่างเป็นระบบโดยอาศัยอำนาจและขั้นตอนของราชการ สามารถทำเงินเป็นกอบเป็นกำให้กับเจ้าหน้าที่รัฐบางคนในหลายระดับ หลายหน่วยงาน รวมถึงพ่อค้าปืนและผู้ซื้อปืน

1.ปี 2563 มีการอนุมัติโครงการปืนสวัสดิการตำรวจ มีทั้งปืนสั้น – ปืนยาวรวมกันอย่างน้อย 127,116 กระบอก ในเวลาต่อมาปืนเหล่านี้เปิดให้เจ้าหน้าที่รัฐทุกสังกัด รัฐวิสาหกิจทุกแห่ง รวมถึงข้าราชการบำนาญก็มีสิทธิซื้อได้ด้วย ปืนเหล่านี้ขายถูกกว่าราคาปืนทั่วไปในตลาดราวครึ่งหนึ่ง เพราะได้ลดหย่อนค่าธรรมเนียมและภาษีในการนำเข้า 2. เมื่อ 28 ตุลาคม 2565 พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. แถลงข่าวการระงับโครงการปืนสวัสดิการฯไม่มีกำหนด เนื่องจากพบเจ้าหน้าที่รัฐบางหน่วยใช้ใบอนุญาตให้ซื้อปืน (ป.3) ไปวนซื้อปืนมาจำหน่ายนอกระบบ กลายเป็นปืนเถื่อนหรือไม่ก็ลักลอบจำหน่ายออกนอกประเทศ

3. “สินบนโควตาปืน” เอกชนรายใดที่ต้องการโควตานำเข้า/จำหน่ายปืนตามโครงการนี้ ต้องจ่ายใต้โต๊ะให้ผู้มีอำนาจบางคน ในอัตรา 5,000 – 8,000 บาทต่อกระบอก ตามชนิดปืน 4. “สินบนใบ ป.3 – ป.4” ผู้ซื้อปืนต้องยื่นขอใบอนุญาตซื้อปืน (ป.3) ใบอนุญาตให้มีและใช้ปืน (ป. 4) ตามขั้นตอนจากหน่วยงาน “ฝ่ายปกครอง” โดยทั่วไปร้านขายปืนจะเป็นผู้ดำเนินการให้ โดยเรียกเก็บค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายจำนวนหนึ่ง รวมเงินใต้โต๊ะให้เจ้าหน้าที่บางคนอีก 3,000 – 10,000 บาทต่อกระบอก ขึ้นอยู่กับชนิดปืนและประวัติว่าบุคคลนั้นมีปืนมาแล้วกี่กระบอก

5. ผู้ซื้อปืนฯ บางรายสมัครใจซื้อโดยไม่รับของ แต่ฝากไว้ขายกับร้านปืน บางรายขายปืนเมื่อหมดระยะบังคับห้ามโอนห้ามขายต่อ ส่วนมากขายผ่านร้านที่ตนซื้อและเป็นปืนที่ไม่ผ่านการใช้งาน 6. เจ้าหน้าที่รัฐบางคนที่ครอบครองปืนหลวงหรือปืนสวัสดิการก็ตาม เมื่อขัดสนเงินทองก็เอาปืนไปจำนำ หากสุดวิสัยก็ปล่อยขาดหรือขายไปแล้วทำเรื่องแจ้งหาย โดยยอมชดใช้และรับโทษทางวินัยหากเป็นปืนหลวง ซึ่งกินเวลานานกว่าเรื่องจะแดงขึ้นมาและการสอบสวนพิจารณาเสร็จสิ้น

โครงการปืนสวัสดิการ มีมาหลายครั้งแล้วในรอบหลายสิบปี ครั้งนี้คำแถลงของท่านรอง ผบ.ตร. ให้หยุดโครงการฯ จึงเป็นก้าวที่กล้าหาญและถูกต้อง เพื่ออนาคตที่ปลอดภัยของสังคมจากอาชญากรรมที่ใช้ปืนเป็นอาวุธ จำเป็นที่คนไทยต้องร่วมกันติตตาม กดดันให้ผู้มีอำนาจและผู้นำของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรับแสดงความรับผิดชอบ แก้ไขปัญหาที่มีในโครงการปืนสวัสดิการตำรวจให้หมดไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'โจ๊ก' ยื่นอุทธรณ์คำสั่งให้ออกจากราชการ ปูดแผนผังแก๊ง 4x100 สยบปีกพระพรหม

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เดินทางมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.ตร.) กรณี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ร

'บิ๊กต่าย' เซ็นแบ่งงานรองผบ.ตร. 'ธนา-สราวุฒิ' แทน 'บิ๊กโจ๊ก-บิ๊กรอย'

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.) มีคำสั่ง ตร.ที่ 176/2567 ลงวันที่ 17 เม.ย. 2567 เรื่องกำหนดลักษณะงานและการมอบอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบให้รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ตำรวจแจ้ง 5 จุดจอดรถ เล่นน้ำสงกรานต์พระประแดง 21 เม.ย.

จุดจอดรถ  สงกรานต์พระประแดง วันอาทิตย์ ที่ 21 เม.ย.67 ระบุว่า  มีจุดจอดรถยนต์ รองรับประชาชนที่จะเดินทางมาร่วมกิจกรรมสงกรานต์พระประแดง

จับแหม่มหัวหน้าแก๊ง วางแผนปล้น 200 ล้าน ลักพาตัวลูกไฮโซดัง

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.), พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น.