ครป.เรียกร้องสอบสลายม็อบเอเปก พร้อมชดเชยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ

19 พ.ย.2565 - คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) โดยนายเมธา มาสขาว เลขาธิการครป. ได้เผยแพร่แถลงการณ์ครป. ต่อกรณีรัฐใช้ความรุนแรงกับราษฎร หยุด APEC 2022 ระบุว่า จากกรณีที่กลุ่มราษฎรหยุด APEC 2022 ได้จัดให้มีการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธที่บริเวณลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร และผู้ชุมนุมได้ประกาศเดินไปยังศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อยื่นหนังสือต่อผู้นำที่มาประชุมเอเปค เรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากการเป็นประธานการประชุม เนื่องจากไม่มีความชอบธรรมที่จะเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ให้ยกเลิกนโยบายเศรษฐกิจเศรษฐกิจสีเขียวที่กลุ่มทุนผูกขาดกำหนดและชี้นำ และเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ลาออกจากนายกรัฐมนตรี แล้วยุบสภา และจัดให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว แต่ปรากฎว่าผู้ชุมนุมถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนใช้กำลังเข้าสลาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการใช้กระสุนยางที่ดวงตา การทำร้ายร่างกายผู้ชุมนุม ผู้สื่อข่าว และพระสงฆ์ และมีการจับกุมผู้ชุมนุมและผู้สื่อข่าวจำนวน 25 คน

คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) เห็นว่าการชุมนุมและเดินขบวนของผู้ชุมนุมเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออกโดยสงบ ปราศจากอาวุธ ซึ่งได้รับการคุ้มครองตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองที่รัฐไทยได้ให้สัตยาบันไว้ และยังได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 นอกจากนั้นผู้ชุมนุมยังได้แจ้งการชุมนุม ตามพระราชบัญญัติชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ซึ่งผู้ชุมนุมไม่ได้ทำผิดเงื่อนไขที่ตกลง หรือที่กำหนดไว้ หากเจ้าหน้าที่เห็นว่าผู้ชุมนุมไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ตกลง หรือกำหนดไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลผู้ชุมนุมสามารถร้องขอต่อศาลเพื่อสั่งให้ยุติการชุมนุม หากผู้ชุมนุมไม่ปฏิบัติตาม จึงจะมีอำนาจในการสลายการชุมนุม โดยต้องปฏิบัติตามหลักสากล

การเข้าสลายการชุมนุมโดยใช้ความรุนแรงและจับกุมผู้ชุมนุมและผู้สื่อข่าวจึงขัดต่อกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 และ ครป.ยังมีคำถามว่าการใช้กำลังสลายการชุมนุมครั้งนี้เป็นการปฏิบัติอย่างผิดขั้นตอน มิได้เป็นไปตามหลักสากล ไม่เป็นสัดส่วน และใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุหรือไม่

ครป.เห็นว่า กรณีดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในการบริหารจัดการกับการชุมนุม ทั้งที่สามารถจัดการให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี

ที่สำคัญอีกประการก็คือ การชุมนุมทางการเมืองระหว่างการประชุมครั้งสำคัญทั่วโลกเป็นที่รับรู้และยอมรับการชุมนุมว่าเป็นเรื่องปกติเพราะเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออกโดยสงบ ปราศจากอาวุธ ที่กติการะหว่างประเทศให้การรับรอง อีกทั้งยังเป็นดัชนีที่สำคัญที่ชี้ให้เห็นว่า ประเทศนั้นมีความเป็นประชาธิปไตยมากน้อยเพียงใด เคารพสิทธิมนุษยชนมากน้อยแค่ไหน หรือเป็นอำนาจนิยมโดยสมบูรณ์เฉกเช่นพม่าที่ล้าหลังอย่างมิอาจปฏิเสธได้

ในกรณีนี้ รัฐยังมีทางเลือกที่ดีกว่านี้ได้ โดยการให้ผู้ชุมนุมเดินทางเข้าไปยื่นหนังสือก็จะไม่มีภาพของการใช้ความรุนแรง และรัฐบาลเองก็จะได้รับเสียงชื่นชมในสายตาของประชาคมโลก ดังนั้น ครป. จึงขอเรียกร้องต่อรัฐบาลและสังคมไทยดังนี้

ประการที่หนึ่ง ขอให้สังคมร่วมกันประณามรัฐบาลและผู้ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ความรุนแรง และการจับกุมผู้ชุมนุมและผู้สื่อข่าว ที่ขัดต่อกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 และขัดต่อกฎหมายจากการสลายการชุมนุมโดยไม่เป็นไปตามกฎหมาย และไม่เป็นไปตามหลักสากล

ประการที่สอง ขอให้องค์กรที่อิสระและเป็นกลาง ได้แก่ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริงการสลายการชุมนุมครั้งนี้ โดยเฉพาะประเด็นการสลายการชุมนุมโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ควบคุมฝูงชนไม่ได้ขออำนาจศาล บริเวณที่มีการสลายการชุมนุมมิได้ถูกประกาศตามพระราชกฤษฎีกาในสถานการณ์ฉุกเฉินเพราะอยู่นอกเขตรัศมี 5 กิโลเมตร การใช้กระสุนยางข้ามขั้นตอนและทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิต

ประการที่สาม ให้รัฐบาลสั่งการให้เจ้าหน้าที่ปล่อยตัวผู้ที่ถูกจับกุมโดยไม่มีเงื่อนไขโดยทันที เนื่องจากการจับกุมโดยมิชอบ และหยุดสั่งดำเนินคดีกลั่นแกล้งคุกคามแกนนำภาคประชาชนทันที

ประการที่สี่ รัฐบาลต้องดูแล และชดเชยเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุมโดยมิชอบด้วยกฎหมาย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คปท.บุกกรมราชทัณฑ์ จี้นำ นช.ทักษิณ-ป่วยทิพย์ กลับมาลงโทษ

ที่กรมราชทัณฑ์ อ.เมือง จ.นนทบุรี กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ร่วมกับ ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และ กลุ่มกองทัพธรรม 150 คน นำโดย นายพิชิต ไชยมงคล

เคาะนิรโทษกรรม นับคดีตั้งแต่ 1 ม.ค.48-ปัจจุบัน เรียกแกนนำม็อบถกหาเหตุจูงใจ

นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม กล่าวภายหลังการประชุม กมธ. ว่า การประชุม กมธ. วันนี้ มีมติว่า ในสัปดาห์หน้า จะมีการเชิญบุคคลที่ส่วนใหญ่มีบทบาท

นี่เพิ่งแค่เริ่มต้น! คปท. ลั่นไม่เคยคิดว่าแพ้ มั่นใจยุทธศาสตร์เคลื่อนไหวถูกทาง

แกนนำ คปท.ลั่นไม่เคยคิดว่าแพ้จริงๆ  เรารู้ประมาณ ประเมินให้ออก เคลื่อนให้ถูก ธงชัด  ยุทธศาสตร์เรามันชัดก่อนชุมนุมแล้ว

‘พีมูฟ’ ลั่นไม่ย้ายพ้นรั้วทำเนียบฯ ขอปักหลักทวงคำตอบ 3 ปมใหญ่

‘พีมูฟ’ ยัน ไม่ย้ายพ้นรั้วทำเนียบ ตามประกาศบช.น.ปักหลัก ทวงคำตอบ หยุดบีบปชช.รับโฉนดชุมชน บี้บิ๊กป๊อดนั่งหน.โต๊ะถกปัญหา

นายกฯ ไม่รู้หลายม็อบบุกทำเนียบฯ 5 ก.พ. ยันพร้อมรับฟังทุกปัญหา

กลุ่มแอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย, กลุ่มพีมูฟ และเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) ต่างนัดมาชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 5 ก.พ.นี้