กสม.ชี้ จนท.กรมบังคับคดีทำงานหนัก-โอทีน้อยเป็นการละเมิดสิทธิฯ

กสม.เผยเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีภาระงานหนัก ไม่ได้รับค่าตอบแทนล่วงเวลาที่เหมาะสม กระทบสิทธิพักผ่อนและการสร้างครอบครัว เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ชี้ ก.พ.เร่งแก้ไขเพิ่มค่าตอบแทน-สวัสดิการ

01 ธ.ค.2565 - นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เปิดเผยว่า ตามที่ กสม.ได้รับเรื่องร้องเรียนเมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 จากประชาชนผู้ไปติดต่อราชการกับสำนักงานบังคับคดีจังหวัดระยอง กรมบังคับคดี โดยเห็นว่าเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานดังกล่าวมีภาระงานมาก ต้องปฏิบัติงานนอกเวลาราชการโดยไม่ได้รับค่าตอบแทน และพบว่าเจ้าหน้าที่บางส่วนแม้จะต้องทำงานหนัก แต่ยังไม่ได้บรรจุเข้ารับราชการ ประกอบกับการได้รับรายได้น้อยส่งผลกระทบต่อการสร้างครอบครัว จึงขอให้ตรวจสอบ

กสม.พิจารณาแล้วเห็นว่า บุคคลมีสิทธิที่จะมีสภาพการทำงานที่ยุติธรรมและน่าพึงพอใจ โดยเฉพาะการได้รับค่าตอบแทนที่เป็นธรรม เท่าเทียมกันสำหรับงานที่มีคุณค่าเท่ากัน มีความเป็นอยู่ที่เหมาะสมสำหรับตนเองและครอบครัวในการดำรงชีวิต ตลอดจนมีสิทธิในการพักผ่อน มีเวลาว่าง และข้อจำกัดที่สมเหตุผลในเรื่องเวลาทำงาน และมีวันหยุดเป็นครั้งคราวโดยได้รับค่าตอบแทน ดังที่กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม (ICESCR) ให้การรับรองไว้ ประกอบกับการจัดระเบียบข้าราชการพลเรือนนอกเหนือจากต้องมุ่งเพื่อผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐแล้ว จะต้องเป็นไปเพื่อให้ข้าราชการพลเรือนมีคุณภาพชีวิตที่ดีด้วย โดยเป็นหน้าที่ของส่วนราชการที่จะต้องเพิ่มพูนประสิทธิภาพและเสริมสร้างแรงจูงใจแก่ข้าราชการพลเรือนเพื่อให้ข้าราชการพลเรือนมีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีขวัญกำลังใจในการปฏิบัติราชการให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ ดังที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 34 และ 72 และหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีด้วย

แม้กรมบังคับคดีจะตระหนักถึงปัญหาภาระงานที่ไม่สอดคล้องกับจำนวนเจ้าหน้าที่และปัญหาค่าตอบแทนของเจ้าหน้าที่สำนักงานบังคับคดีจังหวัดระยอง รวมถึงสำนักงานบังคับคดีประจำจังหวัดทั่วประเทศเป็นอย่างดี และได้พยายามดำเนินการแก้ไขปัญหามาโดยตลอดภายใต้ข้อจำกัดด้านงบประมาณ กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยอยู่ระหว่างศึกษาการจัดทำร่างพระราชบัญญัติพนักงานบังคับคดี เพื่อปรับปรุงวิธีการได้มาและการดำรงตำแหน่งของเจ้าพนักงานบังคับคดี ให้การทำงานของเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพและจริยธรรมชั้นสูง เพื่อก่อให้เกิดกระบวนการบังคับคดีที่มีประสิทธิภาพและเป็นมาตรฐานสากล อีกทั้งยังรักษาไว้ซึ่งเจ้าพนักงานบังคับคดีที่มีประสบการณ์ทำงานสูง และสร้างขวัญกำลังใจในการทำงานโดยได้กำหนดหลักการในการได้รับเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ซึ่งจะได้ปรึกษาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป

แต่ทั้งนี้ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าสภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีที่ผ่านมาและปัจจุบันยังคงมีภาระงานหนักและมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นตามสภาพเศรษฐกิจ ซึ่งไม่สอดคล้องกับค่าตอบแทนที่ได้รับ โดยเจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติงานนอกเวลาราชการเพื่อให้งานที่ได้รับมอบหมายแล้วเสร็จตามกรอบระยะเวลามากกว่า 5 ชั่วโมงต่อวัน แต่สามารถเบิกค่าตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการได้เพียงไม่เกินวันละ 3 ชั่วโมงต่อวัน อีกทั้งมีเพียงข้าราชการในตำแหน่งนิติกรเท่านั้นที่สามารถได้รับเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งพิเศษตามระเบียบของข้าราชการพลเรือน แต่ก็ยังมีเงื่อนไขและข้อจำกัดหลายประการ เช่น เงื่อนไขที่ต้องผ่านหลักสูตรการฝึกอบรมการพัฒนานักกฎหมายภาครัฐ ทำให้บางส่วนยังไม่ได้รับเงินเพิ่มที่ควรได้ กรณีนี้จึงกระทบต่อสิทธิในความเป็นอยู่ที่เหมาะสมสำหรับตนและครอบครัวในการดำรงชีวิต ตลอดจนสิทธิในการพักผ่อน มีเวลาว่าง ซึ่งไม่สอดคล้องตามหลักสิทธิมนุษยชนสากลตลอดจนหลักการจัดระเบียบข้าราชการพลเรือนตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 อันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานบังคับคดีจังหวัดระยองและเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัดของกรมบังคับคดี

ด้วยเหตุผลข้างต้น กสม. ในคราวประชุมด้านการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิมนุษยชน เมื่อวันที่ 28 พ.ย.2565 จึงมีข้อเสนอแนะมาตรการในการป้องกันหรือการแก้ไขการละเมิดสิทธิมนุษยชนตลอดจนแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน สรุปได้ดังนี้

1. มาตรการในการป้องกันหรือแก้ไขการละเมิดสิทธิมนุษยชน ให้กรมบังคับคดีสำรวจข้อมูล ข้อจำกัด และดำเนินการแก้ไขปัญหากรณีข้าราชการตำแหน่งนิติกรบางส่วนที่ยังไม่สามารถได้รับเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ และประสานสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ.) เพื่อขอคำแนะนำและดำเนินการจัดทำข้อมูลเพื่อเสนอเรื่องพิจารณาเพิ่มเติมตำแหน่งอื่นนอกเหนือจากข้าราชการตำแหน่งนิติกรให้ได้รับเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ และรวมถึงกรณีขอเพิ่มเติมตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษให้ได้รับเงินเพิ่มของพนักงานราชการตามกระบวนการที่สำนักงาน ก.พ. ให้คำแนะนำด้วย

นอกจากนี้ให้สำนักงาน ก.พ. ทบทวนข้อจำกัด และปรับปรุงการเข้าถึงการได้รับการอบรมหลักสูตรนักกฎหมายภาครัฐหรือหลักสูตรอื่นที่เทียบเท่าซึ่ง ก.พ. กำหนดหรือรับรองไว้เป็นส่วนหนึ่งในคุณสมบัติของข้าราชการพลเรือนตำแหน่งนิติกรที่ขอรับการคัดเลือกให้ได้รับเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ รวมทั้งให้ข้อมูลแก่กรมบังคับคดีในการจัดเตรียมข้อมูลเพื่อเสนอพิจารณาเพิ่มเติมตำแหน่งให้ได้รับเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ตลอดทั้งกรณีการจัดทำร่างพระราชบัญญัติเจ้าพนักงานบังคับคดี พ.ศ. .... ด้วย

2. มาตรการในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ให้กรมบังคับคดีเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหากรณีลักษณะงานไม่สอดคล้องกับค่าตอบแทนเพื่อเสริมสร้างขวัญกำลังใจต่อผู้ปฏิบัติงาน อาทิ การร่างพระราชบัญญัติเจ้าพนักงานบังคับคดี พ.ศ. ... เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตามกระบวนการ ขั้นตอน และกรอบระยะเวลาที่เหมาะสมตามกฎหมายกำหนด รวมทั้งให้คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน และคณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ พิจารณาเรื่องที่เสนอให้มีการปรับปรุง หรือเพิ่มเติมสวัสดิการ ค่าตอบแทน ตำแหน่ง อัตรากำลังของกรมบังคับคดีและหน่วยงานภาครัฐอื่นใด โดยคำนึงถึงข้อเท็จจริงเรื่องความยาก ง่าย ความหนักเบาของภาระงานของเจ้าหน้าที่หน่วยงานนั้น ๆ ทั้งนี้ ให้มีความสอดคล้อง และเทียบเท่ากับงานในลักษณะเดียวกันกับหน่วยงานอื่นด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กสม. มีมติสอบ 'คุก VIP' ส่อละเมิดสิทธิ เรียกหน่วยเกี่ยวข้องแจง

'กสม.' มีมติตรวจสอบ กรณีพบห้องวีไอพีของผู้ต้องขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ส่อเลือกปฏิบัติละเมิดสิทธิ จ่อเชิญหน่วยเกี่ยวข้องให้ข้อมูล

‘ปลัดคลัง’ เผยสรรพากรรายงานแนวทางเก็บคดีหุ้นชิน 1.76 หมื่นล้านวันนี้  อสส.มีอำนาจสืบทรัพย์ แม้อยู่ต่างประเทศ

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีศาลฎีกามีคำพิพากษากลับในคดีภาษีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะโจทก์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการที่กรมสรรพากรเรียกเก็บภาษีจากการขายหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มห

กสม. บี้กลาโหม เลิกทำบัญชีดำ-ไอโอคนเห็นต่าง ชี้ละเมิดสิทธิ

กสม. ตรวจสอบปมหน่วยมั่นคง จัดทำบัญชีกลุ่มเป้าหมายบุคคลและองค์กรเฝ้าระวัง พร้อมใช้ IO โจมตี ชี้ละเมิดสิทธิ มีมติให้กลาโหมยกเลิก

กรรมการสิทธิฯ ออกแถลงการณ์ กังวล 'สว.อังคณา' ถูกข่มขู่คุกคามเพราะความเห็นต่าง

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เผยแพร่แถลงการณ์ เรื่อง ขอให้ทุกฝ่ายเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่าง และไม่ยอมรับการสร้างความเกลียดชัง โดยมีรายละเอียดดังนี้

'ฟูอาดี้' ให้กำลังใจ 'อังคณา' ยืนยันการใช้เสียงเป็นอาวุธ ละเมิดสิทธิ โจมตีแบบไม่เลือกเป้าหมาย

'ฟูอาดี้' ให้กำลังใจ 'สว.อังคณา' ยืนยันการใช้เสียงเป็นอาวุธ ละเมิดสิทธิมนุษยชนชัดเจน เหตุเป็นการโจมตีแบบไม่เลือกเป้าหมาย ชี้สงครามยุคนี้คือการช่วงชิงเครือข่าย ยก 'อิสราเอล' มีอำนาจ-กำลังทหาร แต่พ่ายแพ้บนเวทีระหว่างประเทศ มองบวก สิ่งที่ปลอบใจ 'ไทย' ได้คือ 'กัมพูชา' ไม่สามารถสร้างความชอบธรรมเวทีโลกได้ เหตุอาชญากรรมข้ามชาติ