รัฐบาลตั้งเป้าลดเจ็บ-ตายเทศกาล 'ปีใหม่-สงกรานต์' 5%

รัฐบาลเล็งลดอุบัติเหตุทางถนนปีใหม่-สงกรานต์ 2566 ไม่น้อยกว่า 5% เร่งประชาสัมพันธ์เพื่อการเตรียมพร้อมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก่อนถึงเทศกาล ควบคู่ 5 มาตรการลดปัจจัยเสี่ยง

14 ธ.ค.2565 - น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เพื่อลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจากอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ ปี 2566 รัฐบาลโดยคณะกรรมการนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ ได้มีแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลและช่วงวันหยุด พ.ศ. 2566 ซึ่งจัดทำโดยศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) ที่จะบูรณาการการทำงานของหน่วยงานต่างๆ อย่างเข้มข้น เพื่อลดจำนวนอุบัติเหตุทางถนน ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตให้เป็นไปตามเป้าหมาย

สำหรับแผนบูรณาการฯ มีเป้าหมายทั้งระดับภาพรวมของประเทศ หน่วยงาน และพื้นที่ ซึ่งทุกระดับจำนวนครั้งการเกิดอุบัติเหตุ จำนวนผู้เสียชีวิตและจำนวนผู้บาดเจ็บ(admit) จะต้องลดลงไม่น้อยกว่า 5% เมื่อเทียบกับสถิติในช่วงเทศกาลปีใหม่เฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง และจำนวนผู้เสียชีวิตในพฤติกรรมเสี่ยง อาทิ ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ดื่มแล้วขับ ไม่สวมหมวกนิรภัย และไม่คาดเข็มขัดนิรภัยลดลงไม่น้อยกว่า 5% เมื่อเทียบกับสถิติในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง

มีแนวทางการดำเนินงานตามแผนบูรณาการฯ แบ่งเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงก่อนเทศกาลจะมาถึงจะมีการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ในชื่อการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่ปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมีการเตรียมความพร้อม ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดอุบัติเหตุ ซึ่งเทศกาลปีใหม่จะเริ่มรณรงค์ระหว่าง 1 - 21 ธ.ค.2565 ส่วนเทศกาลสงกรานต์ 1 มี.ค. - 3 เม.ย.2566 และช่วงดำเนินงานตามมาตรการ ปีใหม่ดำเนินการระหว่าง 22 ธ.ค.2565- 11 ม.ค.2566 สงกรานต์ ระหว่าง 4 - 24 เม.ย.2566

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับการดำเนินมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุ มี 5 ด้าน ประกอบด้วย 1.ด้านการบริหารจัดการ เช่น จัดตั้งศูนย์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ พ.ศ. 2566 ระดับส่วนกลาง จังหวัด กรุงเทพมหานคร อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ดำเนินการมาตรการเชิงรุก ได้แก่ การประชาคมชุมชน/หมู่บ้าน มาตรการเคาะประตูบ้าน ด่านครอบครัว ด่านชุมชน และการจัดกิจกรรมทางศาสนา 1 อำเภอ 1 กิจกรรม

2.ด้านลดปัจจัยเสี่ยงด้านถนนและสภาพแวดล้อมเช่นสำรวจ ตรวจสอบลักษณะกายภาพของถนน จุดเสี่ยง จุดอันตราย จุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งจุดที่เกิดอุบัติเหตุใหญ่ และปรับปรุงแก้ไขให้มีความปลอดภัย 3.ด้านลดปัจจัยเสี่ยงด้านยานพาหนะ เช่น กำกับ ควบคุม ดูแลรถโดยสารสาธารณะ รถโดยสารไม่ประจำทาง พนักงานขับรถโดยสาร และพนักงานประจำรถให้ถือปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายอย่างเคร่งครัด และการตรวจสอบสภาพรถตามที่กฎหมายกำหนด กวดขันกับผู้ใช้รถกระบะที่บรรทุกน้ำหนักเกิน และรถบรรทุกขนาดเล็กที่บรรทุกผู้โดยสารในลักษณะที่ไม่ปลอดภัย และเข้มงวดกับรถตู้ส่วนบุคคลหรือรถเช่าของผู้ประกอบการธุรกิจให้มีมาตรฐานด้านความปลอดภัย

4.ด้านผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย เช่น บังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเข้มงวด จริงจัง และต่อเนื่อง ดำเนินการ ตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์อย่างเข้มข้นภายใต้มาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข รณรงค์ประชาสัมพันธ์เผยแพร่แนวทางความรู้ด้านความปลอดภัยทางถนนในชุมชน/หมู่บ้าน และสถานการณ์การเกิดอุบัติเหตุทางถนน ผ่านช่องทางการสื่อสารต่าง ๆ หอกระจายข่าว เสียงตามสาย และวิทยุชุมชน และ

และ 5.การช่วยเหลือหลังเกิดอุบัติเหตุ เช่น จัดเตรียมความพร้อมของโรงพยาบาล แพทย์ พยาบาล และหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ระบบการติดต่อสื่อสาร การประสานงาน และการแบ่งมอบพื้นที่ความรับผิดชอบของหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉินในเครือข่ายและดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุทางถนน

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไทยพร้อม 100%นับถอยหลังเจ้าภาพซีเกมส์ครั้งที่ 33 จองตั๋วเข้าชมพิธีเปิดฟรี

นับถอยหลังกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ไทยเจ้าภาพพร้อม 100% 'แบมแบม' เตรียมขึ้นเวทีโชว์ รัฐบาลเชิญชวน 9 ธ.ค. นี้ จองตั๋วเข้าชมพิธีเปิดฟรี ผ่านเว็บไซต์ทางการ www.seagames2025.org

ข่าวดี! ผู้ป่วยมะเร็งปอดใช้ยา 'Erlotinib–Gefitinib' เป็นยาขนานแรกได้แล้ว

เริ่ม 1 ธ.ค.เป็นต้นไป ผู้ป่วยมะเร็งปอด สามารถใช้ยา 'Erlotinib–Gefitinib' เป็นยาขนานแรกได้แล้ว ช่วยให้ผู้ป่วยคุมโรคได้นาน 9 เดือนถึง 1 ปี ยับยั้งการกลายพันธุ์ที่เป็นตัวเร่งให้มะเร็งเติบโต

ประเดิมแจ้งเตือน 'ฝุ่นPM2.5' ผ่าน Cell Broadcast 'กทม.' โหมดส้ม

เริ่มแล้ว! แจ้งเตือน PM2.5 ผ่าน Cell Broadcast 'กรุงเทพฯ–ปริมณฑล' เข้าสู่โหมดสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 'รมว.สุชาติ' กำชับ ทส. ติดตามใกล้ชิด หลังแนวโน้มฝุ่นสะสมต่อเนื่องถึง 2 ธ.ค.

รบ.ช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์-สัตว์เลี้ยง 9 จว.ใต้

รัฐบาล ระดมทุกภาคส่วนเร่งช่วยเหลือเหตุน้ำท่วม 9 จว.ใต้ ด้านกรมปศุสัตว์ส่งหญ้าอาหารสัตว์พระราชทาน ช่วยอพยพสัตว์เลี้ยง เตรียมแผนฟื้นฟูอาชีพเกษตรหลังน้ำลด