ตำรวจจับมือไปรษณีย์ไทยส่งใบปลิวไซเบอร์วัคซีน เตือน 18 รูปแบบกลโกงแห่งปีที่ต้องระวัง สกัดอาชญากรรมทางไซเบอร์
14 ธ.ค.2565 - ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วยนายดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด จับมือร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) การประชาสัมพันธ์กลโกงของมิจฉาชีพในคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับบริษัท ไปรษณีย์ ไทย จำกัด สำหรับแจกจ่ายให้ประชาชน และสถานีตำรวจทั่วประเทศ
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยียังมีสถิติเพิ่มสูงขึ้น เฉลี่ยวันละ 600-700 ราย แม้ตำรวจจะเร่งปราบปรามจับกุมทุกมิติมาต่อเนื่อง แต่กลุ่มคนร้ายจะมีการปรับเปลี่ยนวิธีการกลโกง หลอกลวงประชาชนหลายรูปแบบแตกต่างกัน ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน สูญเสียทรัพย์สิน และกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ ตำรวจเพียงหน่วยเดียวจึงไม่สามารถแก้ปัญหา จำเป็นต้องอาศัยภาคีเครือข่ายในการร่วมกันป้องกัน รู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมกลโกงจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะประชาชน ถือเป็นด่านแรกของการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เป็นกุญแจ สำคัญในการแก้ไขปัญหา จึงจำเป็นที่จะต้องเพิ่มไซเบอร์วัคซีนให้ถึงประชาชนโดยเร็วและมากที่สุด
ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า ต้องขอบคุณนายดนันท์ ที่เข้ามาช่วยผลักดันไซเบอร์วัคซีน ให้ถึงประชาชนกลุ่มเป้าหมาย โดย ตร.ได้รวบรวมรูปแบบลักษณะการกระทำผิด แผนประทุษกรรม วิธีการหลอกลวงที่เกิดขึ้นบ่อย วิธีการป้องกัน และวิธีการตรวจสอบข้อมูลการกระทำผิด ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ สื่อเตือนภัย สร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ประชาชน (Cyber Vaccine) รู้เท่าทันรูปแบบกลโกงต่างๆของมิจฉาชีพ 18 รูปแบบ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จะเป็นผู้จัดส่งสื่อประชาสัมพันธ์กลโกงของมิจฉาชีพในคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ในรูปแบบเอกสารขนาด A4 สำหรับแจกจ่ายให้ประชาชนทั่วประเทศ และโปสเตอร์ขนาด A3 สำหรับสถานีตำรวจทั่วประเทศ โดยจะเริ่มจัดส่งสื่อเอกสารประชาสัมพันธ์ภายในเดือนนี้ ระยะแรกจะจัดส่งใบปลิวขนาด A4 จำนวน 1,500,000 แผ่น ส่งให้กับประชาชนทั่วประเทศ และโปสเตอร์ขนาด A3 จำนวน 500,000 แผ่น ส่งให้กับสถานีตำรวจทั่วประเทศ
นายดนันท์ กล่าวว่า ช่วงปีที่ผ่านมาคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีมีสถิติเพิ่มสูงขึ้น กลุ่มมิจฉาชีพมีกลโกง-วิธีการหลอกลวงประชาชนหลากหลายรูปแบบส่งผลให้ทั้งภาคส่วนธุรกิจและประชาชนได้รับความเสียหายและสูญเสียทรัพย์สินเป็นจํานวนมาก ทั้งนี้ไปรษณีย์ไทยได้ประชาสัมพันธ์แจ้งข่าวเตือนภัยผ่านช่องทางทั้งออนไลน์ และออฟไลน์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนรู้ทันกลโกงของมิจฉาชีพที่อาจแอบอ้างใช้ชื่อ และตราสินค้าของไปรษณีย์ไทย เพื่อหลอกให้หลงเชื่อจนนำไปสู่การสูญเสียทรัพย์สิน เช่น หลอกให้กรอกข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลบัตรเครดิต หลอกให้โอนเงินชำระค่าพัสดุที่ไม่สามารถนำจ่ายได้ หลอกให้แลกคะแนนเพื่อรับรางวัล เป็นต้น อีกทั้งยังมีหน่วยงานอื่นๆ ทั้งจากภาครัฐและเอกชนที่ถูกนำชื่อไปแอบอ้าง รวมทั้งการคิดค้นกลโกงรูปแบบใหม่ๆ ที่ซับซ้อนและคนไทยบางกลุ่มยังรู้ไม่เท่าทัน จึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องกระจายประเด็นเหล่านี้ให้เข้าถึงทุกภาคส่วน ทำให้ประชาชน ทราบถึงภัยออนไลน์ และวิธีการป้องกันตนเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เป็นนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมทั้งเป็นนโยบายเร่งด่วน ตร. ในการบังคับใช้กฎหมายปราบปรามและแสวงหาความร่วมมือทุกภาคส่วนในการร่วมป้องกันอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้เกิดความเดือดร้อนต่อประชาชน ที่เป็นสุจริตชน และเป็นอันตรายต่อระบบเศรษฐกิจ ของประเทศ การจับมือร่วมกันของตำรวจและไปรษณีย์ไทยครั้งนี้ จะสร้างภูมิคุ้มกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีให้ประชาชน เชื่อว่า จะช่วยให้คดีเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีลดลง หากประชาชนพบการกระทำความผิดสามารถแจ้ง เบาะแสและสอบถามข้อมูลได้ที่ สายด่วน 191 หรือ 1599 หรือตำรวจไซเบอร์ 1441
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ฉก.' ยุบเถอะ!
อพิโธ่ อพิถัง! นี่ถ้าไม่ถูก วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และตัวเต็งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกมาแฉ ออกมาชำแหละส่วยรถบรรทุก จน "บิ๊กสีกากี" ทั้งกรมปทุมวัน นั่งกันไม่ติดเก้าอี้
จ่อเรียกสอบ 'หลังบ้าน' บิ๊กตำรวจ เอี่ยวส่วยสติกเกอร์
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบช.ภ.7) ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)
สธ.จับมือ สกพอ.ยกระดับการแพทย์ฉุกเฉินพื้นที่อีอีซี
รมช.สาธารณสุข เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือยกระดับการให้บริการการแพทย์ฉุกเฉินในพื้นที่อีอีซี ลดการเสียชีวิตและความพิการจากอุบัติเหตุจราจร
'บิ๊กเด่น' ยืดอกรับส่วยสติกเกอร์มีจริงแต่ไม่ต้องถึงขั้นประกาศสงครามปราบ
ผบ.ตร.ยอมรับพบมีส่วยสติ๊กเกอร์จริง สั่ง จตช.ตรวจสอบคาด 15 วันรู้ผล ตั้งชุดเฉพาะกิจ บช.ก.ตรวจสอบข้อมูลคู่ขนาน
ผบ.ตร. เด้งรับลูก 'ก้าวไกล' สั่งสอบด่วน 'ส่วยรถบรรทุก'
ผบ.ตร. เด้งรับลูก 'ส่วยสติกเกอร์' เปิดรับข้อมูลพยานหลักฐานทุกช่องทาง พร้อมสั่งตำรวจทางหลวงตรวจสอบข้อเท็จจริงด่วน ฮึ่มผิดฟันเด็ดขาดทั้งอาญา วินัย และปกครอง
ตรวจสอบตำรวจ
น่าจะเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการแก้ปัญหา ตำรวจโจร หรือ โจรปลอมเป็นตำรวจ มาหลอกลวง มารีดไถประชาชน สำหรับ แอปแทนใจ เวอร์ชันล่าสุดที่ กรมปทุมวัน ปรับปรุงแก้ไขแอปพลิเคชันแทนใจ นวัตกรรมเพื่อการสื่อสารภายในองค์กรของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในเวอร์ชันแรก