เล็งกระทุ้ง ครม.หลังธนารักษ์อืดแก้ปัญหาที่ราชพัสดุ 'สนามยิงปืนทุ่งฟ้าผ่า'

กสม.เตรียมเสนอ ครม. สั่งการหน่วยงานเร่งแก้ปัญหากรณีกรมธนารักษ์กำหนดให้ที่ดินแปลงสนามยิงปืนทุ่งฟ้าผ่า ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของชาวบ้านจันทบุรีเป็นที่ราชพัสดุ

16 ก.พ.2566 - นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เปิดเผยว่า ตามที่ กสม.ได้ตรวจสอบเรื่องร้องเรียนเมื่อต้นปี 2564 กรณีราษฎรในพื้นที่ตำบลท่าช้าง และตำบลวัดใหม่ อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี ได้รับความเดือดร้อนจากการที่กรมธนารักษ์ และธนารักษ์พื้นที่จันทบุรี คัดค้านการออกโฉนดที่ดินแปลงสนามยิงปืนทุ่งฟ้าผ่า และประกาศให้ที่ดินแปลงดังกล่าวเนื้อที่กว่า 4,000 ไร่ เป็นที่ราชพัสดุ ทั้งที่ราษฎรได้อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวมาแล้วหลายชั่วอายุคน ทำให้ราษฎรกว่า 1,200 คน ได้รับความเดือดร้อน และยังถูกเร่งรัดให้เข้าสู่กระบวนการเช่าที่ดินราชพัสดุ โดย กสม. ได้ตรวจสอบและปรากฏข้อเท็จจริงว่าที่ดินแปลงหวงห้ามนี้ เคยมีบุคคลครอบครองทำประโยชน์มาก่อนตามที่ราษฎรกล่าวอ้าง ปัจจุบันราษฎรบางรายมีแบบการแจ้งการครอบครอง (ส.ค.1) มีโฉนดที่ดิน โฉนดตราจอง และเอกสารหลักฐานอื่น ๆ ซึ่งจากการตรวจสอบและประชุมรับฟังข้อเท็จจริงเพื่อแก้ไขปัญหาข้อพิพาทร่วมกับทุกฝ่ายเมื่อเดือนมีนาคม 2564 ได้ข้อยุติร่วมกันว่าธนารักษ์พื้นที่จังหวัดจันทบุรี ได้ชะลอการทำสัญญาเช่าไว้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 แล้ว จึงมีมติให้ยุติเรื่อง โดยในการตรวจสอบครั้งนั้น กสม. ได้มีข้อเสนอแนะต่อกรมธนารักษ์ ธนารักษ์พื้นที่จันทบุรี และจังหวัดจันทบุรี ให้จัดสรรงบประมาณ และอัตรากำลัง เพื่อสนับสนุนการจัดทำแผนที่ทางกายภาพที่ดินแปลง สนามยิงปืนทุ่งฟ้าผ่าเป็นกรณีเร่งด่วน พร้อมสอบสวนการได้มาของที่ดินแต่ละแปลงโดยให้ราษฎรผู้มีส่วนได้เสียมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน และหามาตรการแก้ไขปัญหาให้ราษฎรแต่ละกลุ่มที่ครอบครองที่ดินทั้งที่มีและไม่มีเอกสารหลักฐานอย่างเหมาะสม โดยในระหว่างการจัดทำแผนที่ทางกายภาพและการแก้ไขปัญหาการครอบครองที่ดินรายแปลงยังไม่แล้วเสร็จ ให้ชะลอการทำสัญญาเช่าที่ราชพัสดุไว้ก่อน ทั้งนี้ให้จังหวัดจันทบุรีกำกับดูแลการทำแผนที่กายภาพให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

“กสม.ในคราวประชุมด้านการคุ้มครองและส่งเสริมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 ได้พิจารณาผลดำเนินการแก้ไขปัญหากรณีดังกล่าวจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามข้อเสนอแนะของ กสม. โดยได้รับทราบว่า กรมธนารักษ์ได้อนุมัติงบประมาณสำหรับการจัดทำแผนที่ทางกายภาพที่ดินแปลงสนามยิงปืนทุ่งฟ้าผ่า สำนักงานธนารักษ์พื้นที่จันทบุรีได้สำรวจรังวัดจัดทำแผนที่ทางกายภาพเป็นกรณีเร่งด่วนตามที่ กสม. ขอให้ดำเนินการ และได้ชะลอการทำสัญญาเช่าที่ราชพัสดุไว้ก่อนจนกว่าการแก้ไขปัญหาจะแล้วเสร็จ นอกจากนี้จังหวัดจันทบุรี ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานจัดทำแผนที่ทางกายภาพในที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นการเฉพาะแล้ว”

นายวสันต์กล่าวต่อว่า กสม.เห็นว่า ปัจจุบันระยะเวลาได้ล่วงเลยมาพอสมควร แต่การดำเนินการของกรมธนารักษ์ และสำนักงานธนารักษ์พื้นที่จันทบุรีเพื่อแก้ไขปัญหาข้อพิพาทตามข้อร้องเรียนและข้อเสนอแนะของ กสม. ยังไม่เป็นที่ยุติ ที่ดินแปลงสนามยิงปืนทุ่งฟ้าผ่าไม่ได้อยู่ในพื้นที่เป้าหมายการแก้ไขปัญหาแนวเขตที่ดินของรัฐทับซ้อนกับแนวเขตที่ดินของประชาชน (One Map) และมีราษฎรที่จะได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก ประกอบกับคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ได้ให้ความสำคัญกับกรณีพิพาทดังกล่าว ดังนั้น เพื่อเป็นการเร่งรัดการดำเนินการของส่วนราชการ จึงเห็นควรเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้แก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเร็วต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กสม. มีมติสอบ 'คุก VIP' ส่อละเมิดสิทธิ เรียกหน่วยเกี่ยวข้องแจง

'กสม.' มีมติตรวจสอบ กรณีพบห้องวีไอพีของผู้ต้องขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ส่อเลือกปฏิบัติละเมิดสิทธิ จ่อเชิญหน่วยเกี่ยวข้องให้ข้อมูล

'ณัฐวุฒิ' ย้ำไทมไลน์แก้รัฐธรรมนูญพรุ่งนี้เสร็จสมบูรณ์!

'ณัฐวุฒิ' ย้ำ 'กมธ.แก้ รธน.' เร่งทำเนื้อหาหลักต้องสมบูรณ์พรุ่งนี้ พร้อมแล้วเสร็จใน 26 พ.ย. หวังที่ประชุม ครม. 25 พ.ย. จะไฟเขียวให้เปิดสมัยวิสามัญ ขู่หากไม่เปิด 'ปชน.' ไม่มีทางเลือก ต้องใช้กลไกสอบ 'รัฐบาล'

ครม. ตั้งคกก.จัดงานพระราชพิธีพระบรมศพ 'สมเด็จพระพันปีหลวง'

ครม.มีมติมอบหมาย สปน. จัดตั้งคกก.จัดงานพระราชพิธี สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง นายกฯเป็นประธานกรรมการ พร้อมมอบหมายงานให้หน่วยงานต่างๆ

กสม. บี้กลาโหม เลิกทำบัญชีดำ-ไอโอคนเห็นต่าง ชี้ละเมิดสิทธิ

กสม. ตรวจสอบปมหน่วยมั่นคง จัดทำบัญชีกลุ่มเป้าหมายบุคคลและองค์กรเฝ้าระวัง พร้อมใช้ IO โจมตี ชี้ละเมิดสิทธิ มีมติให้กลาโหมยกเลิก

กรรมการสิทธิฯ ออกแถลงการณ์ กังวล 'สว.อังคณา' ถูกข่มขู่คุกคามเพราะความเห็นต่าง

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เผยแพร่แถลงการณ์ เรื่อง ขอให้ทุกฝ่ายเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่าง และไม่ยอมรับการสร้างความเกลียดชัง โดยมีรายละเอียดดังนี้