
27 มี.ค.2566-วิมล ไทรนิ่มนวล นักเขียนรางวัลซีไรต์ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กหัวข้อ “ว่าที่นายกรัฐมนตรี” ระบุว่า ถ้าดูคนที่เหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีทีละคน ก็จะตัดสินใจเลือกได้ง่ายขึ้น ดูว่าใครมีประสพการณ์และความสามารถที่จะบริหารราชการแผ่นดินเป็นอันดับแรก ก็เห็นว่ามีพล.อ.ประยุทธ์กับคุณทักษิณเท่านั้นที่เคยเป็นนายกรัฐมนตรี
คุณทักษิณเป็นมาก่อน… เป็นมานานจนทหารยึดอำนาจจากคุณยิ่งลักษณ์ (2544-2557) สิ่งที่เขาทำมีประโยชน์ก็มี ส่วนมากจะเป็นเรื่องประชานิยม และหลายๆเรื่องก็เป็นโทษแก่ประชาชน อย่างโครงการจำนำข้าวนั้นเละเทะ สูญเสียภาษีและข้าวไปมากมาย แต่กลายเป็นประโยชน์มหาศาลแก่คนโกงชาติ และชาวนาฆ่าตัวตาย22คน
จนแทบจะพูดได้ว่าทุกนโยบาย ทุกโครงการ เป็นผลประโยชน์ส่วนตัวของนักโกงชาติทั้งนั้น เพราะคนโกงชาตินั้นมีนโยบายส่วนตัวคือ “แปลงเงินภาษีเป็นของตน” หรืออย่างที่คนรู้ทันเรียกกันว่า “ทำธุรกิจในการเมือง” คุณทักษิณสร้างภาพตัวเองว่าเก่ง รอบรู้ ทันโลก ความคิดก้าวล้ำกว่าใคร แต่สำหรับผมเห็นว่าเขาตกยุคไปแล้ว สิ่งที่เขาเก่งตอนมีอำนาจก็อย่างที่คนสนใจเรื่องบ้านเมืองรู้นั่นแหละ ว่าเก่งอะไรและอย่างไร เขาเป็นพ่อค้านักธุรกิจคนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งร่ำรวยมาด้วยวิธีเดียวกับที่เขาใช้ในการเมืองนั่นแหละ
เลือกตั้งครั้งนี้… ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล คุณทักษิณก็จะบริหารราชการแผ่นดินหรือชักเชิดคนในพรรคอยู่นอกประเทศเหมือนที่เคยทำมา
พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีมา8ปี อยู่ในสถานการณ์ฯของประเทศไทยและโลกที่เป็นปัจจุบันตลอดมา การบริหารราชการแผ่นดินอยู่ในมือ รู้เรื่องการทหาร- ความมั่นคงทั้งภายนอกภายในประเทศดี รู้เรื่องเศรษฐกิจพอที่จะตัดสินใจได้ ประการสำคัญคือความจริงใจ ซื่อสัตย์ ซึ่งพอช่วยให้คนใกล้ตัวและรองๆลงไปเกรงใจบ้าง เพราะ “ถ้าหัวไม่โกง หางก็กระดิกไม่มาก” จะบอกว่าไม่มีคอรัปชั่นนั้นเป็นไปไม่ได้ จุดอ่อนคือเรื่องการปฏิรูปตำราจ การศึกษา สาธารณสุข ดังที่เคยประกาศไว้แต่มีคนบอกว่า2เรื่องหลังนี้ทำบ้างแล้ว ส่วนตำรวจ ทำอะไรหรือไม่ อย่างไร ถ้าดูข่าวก็ต้องบอกว่าแย่กว่าเดิม
นักการเมืองคนอื่นๆที่มีประสบการณ์หรือเคยเป็น สส. เคยเป็นรัฐมนตรีมาแล้วก็เป็นนายกฯได้ ดีไม่ดีไม่ทราบ ตั้งแต่คุณอนุทิน คุณจุรินทร์ คุณสุวัจน์ คุณกรณ์ คุณหมอวรงค์ ส่วนคุณธนาธร ไม่พูดถึงดีกว่า!
ประเทศไทยมีนักการเมืองที่ดีหลายคน แต่ความดีในสนามเลือกตั้งนั้นใช้ได้ไม่มากนัก มันสู้กระแส กระสุน กระสันไม่ได้ จึงต้องอาศัยโชคช่วย!
เราจึงต้องอยู่กับการเมืองแบบลุ่มๆดอนๆ สุกๆดิบๆ ครึ่งบกครึ่งน้ำ นักการเมืองครึ่งหนึ่ง พัฒนาประเทศครึ่งหนึ่ง ทหารบ้าง พลเรือนบ้าง.. อยู่ๆกันไป เพราะลมปากและการสร้างภาพของนักการเมือง + ผู้เลือกตั้งที่เลือกนักการเมืองด้วยแรงจูงใจที่ไม่เกี่ยวกับ “งานเมือง” เสียมาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นักวิชาการ ชี้ สส.บัญชีรายชื่อ คละบ้านใหญ่-เทคโนแครต สะท้อนการเมืองเน้นนโยบาย
นักวิชาการธรรมศาสตร์ ระบุ รายชื่อ สส. ในบัญชีรายชื่อ สะท้อนว่าพรรคการเมืองให้ความสำคัญกับนโยบายมากขึ้น เหตุคละกันระหว่าง“บ้านใหญ่-นักธุรกิจ” กับ “เทคโนแครต-นักวิชาการ
ร้อง กกต. คัดค้านพรรคประชาชน เปลี่ยนตัวผู้สมัคร สส. เขต 33 ใช้เบอร์เดิม
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ถนนแจ้งวัฒนะ นายอนันตเดช ธนวิภารัตน์ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หมายเลข 12 เขตเลือกตั้งที่ 33 และนายธิติพัทธ์ นรวิทยโชติกุล ผู้สมัครหมายเลข 4 เขตเลื
‘ม้ามืดชานเมือง ของภูมิใจไทย อ.นัส เขต 17’
ต้องยอมรับว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคภูมิใจไทย ทําการบ้านในพื้นที่กรุงเทพมหานครเป็นอย่างดี โดยเฉพาะการคัดสรรผู้สมัครที่มีคุณภาพมีความยึดโยงกับประชาชนและพื้นที่เลือกตั้ง
ครม.ไฟเขียวแนวปฏิบัติเลือกตั้ง สส. ควบประชามติ
ครม.อนุมัติแนวทางปฏิบัติในการเลือกตั้ง สส.-แนวทางปฏิบัติในการจัดให้มีการออกเสียงประชามติ
ไชยา เบอร์ 7 กล้าธรรม ชูผันน้ำโขง-เลย-ชีมูล ดัน สปก.เป็นโฉนด
“ไชยา” หมายเลข 7 เขต 2 จ. หนองบัวลำภู พรรคกล้าธรรม ประกาศนโยบายหาเสียง กับชาวหนองบัวลำภู ปัดฝุ่นระบบผันน้ำ "โครงการโขง เลย ชีมูล” แปลง สปก.เป็นโฉนดเพื่อการเกษตรครุฑแดง ลั่น หนี้สินเกษตรและครู ต้องมีโครงสร้างสหกรณ์กลางมาจัดการ
‘ดร.เจษฏ์’ ปูด ‘ทุนเทา’ ทุ่มแสนล้านในการเลือกตั้ง ซื้อประเทศไทย
นายเจษฏ์ โทณะวณิก แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรครักชาติ (รช.) กล่าวถึงสถานการณ์การแทรกแซงทางการเมืองของกลุ่มทุนสีเทา ว่า ล่าสุดมี

