'พิภพ' แนะสว.ทุกคนไม่ควรงดออกเสียงโหวตเลือกนายกฯ ไม่ต้องกังวลจะบริหารประเทศได้หรือไม่

'พิภพ' แนะสว.ทุกคนไม่ควรงดออกเสียงโหวตเลือกนายกฯ ควรเลือกคนที่ได้เสียงข้างมากจากประชาชน ไม่ต้องกังวลจะบริหารประเทศได้หรือไม่ เพราะการทำงานต้องได้รับความเห็นชอบจากครม.และมีระบบตรวจสอบในรัฐสภาอยู่แล้ว

17พ.ค.2566 - นายพิภพ ธงไชย อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โพสต์ข้อความ เรื่อง การออกเสียงหรืองดออกเสียง เลือกนายกรัฐมนตรีของ สว. มีเนื้อหาดังนี้

สว.ทุกคนไม่ควรงดออกเสียง
แต่ควรออกเสียงเลือกคนที่ได้เสียงจากประชาชนข้างมากที่ลงคะแนนให้
ถ้าเขามีเสียงพรรคการเมืองสนับสนุนพอเพียงตาม รธน.

หรือไม่ สว.ก็ออกเสียงไม่เห็นด้วย
แสดงจุดยืนทางการเมืองของตนไปเลย

อย่าเป็นอีแอบโดยงดออกเสียง

โดยไม่ต้องไปกังวลว่าผู้ที่ลงคะแนนเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้นจะบริหารประเทศได้หรือไม่ เพราะเขาผ่านการลงคะแนนเสียงเลือกโดยประชาชนมาแล้ว เพียงแต่เขามีเสียงไม่พอบริหารประเทศพรรคเดียวเท่านั้น

ในการทำงานใน ครม.ก็ต้องได้รับความเห็นชอบโดยพรรคร่วมอยู่แล้วในแต่ละเรื่อง ถ้าแตกกันใน ครม. พรรคร่วมก็สามารถถอนตัวได้ ก็มีให้เห็นในรัฐบาลในต่างประเทศหลายรัฐบาล ก็จะต้องตั้งรัฐบาลกันใหม่ แม้ในบ้านเราเอง ก็เคยมีมาหลายครั้ง

นอกจากนั้น ในสภาฯ ก็ยังมีระบบตรวจสอบภายในรัฐสภาฯอยู่แล้ว

และถ้าตัวนายกรัฐมนตรี หรือ ครม.ทำผิด กม.ก็มีองค์กรอิสระตรวจสอบซ้ำให้อีกที

ในหลายประเทศ ก็ได้นายกฯหรือประธานาธิบดีที่อายุน้อย ก็มีให้เห็นอยู่

ถ้านายกรัฐมนตรีคนใหม่ฉลาด ก็ใช้วิธีให้ลงประชามติ ในนโยบายที่จะเกิดข้อขัดแย้งในสังคมเสียใหม่ก็ยังได้ ถึงจะประกาศเป็นนโยบายหาเสียงไปแล้วก็ตาม

หรือจะให้สภาฯทั้งสองสภาฯลงมติผ่าน กม.ที่เกี่ยวกับนโยบายนั้น ก็ทำได้ เพราะนโยบายบางเรื่องต้องออก กม.มากำกับจึงจะนำไปปฎิบัติได้

ถ้านายกฯแพ้ กม.สำคัญๆในสภาฯ ก็ต้องลาออกไปตามมารยาทหรือตาม กม.อยู่แล้ว

นี่คือระบอบประชาธิปไตย
ที่มีการตรวจสอบ
มีการคานอำนาจ
เมื่อติดขัดในการดำเนินนโยบายใดๆ
ให้กลับไปหาเสียงประชาชน
โดยการทำประชามติ
หรือยุบสภาฯเลือกตั้งกันใหม่

ระบอบประชาธิปไตยก็จะปลอดภัยและดำเนินต่อไปได้