'ศปปส.-ไบรท์ ชินวัตร' ร้องบิ๊กตู่ใช้กฎหมายเข้ม ปมทำประชามติแยกปัตตานี

12 มิ.ย.2566 - ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล นายอานนท์ กลิ่นแก้ว ประธานกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) พร้อมแนวร่วมกลุ่มกระทิงแดงไทยพิทักษ์ กลุ่มนักรบเลือดสีน้ำเงินปกป้องราชบัลลังก์ ประมาณ 20 คน รวมถึงนายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือไบร์ท ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)เพื่อให้ตรวจสอบกรณีที่ขบวนการนักศึกษาแห่งชาติ จัดเสวนาในหัวข้อ “การกำหนดอนาคตตนเอง กับสันติภาพปาตานี" ซึ่งในงานมีการตั้งคำถามเห็นด้วยหรือไม่ที่ประชาชนปาตานี และออกเสียงประชามติแยกตัวเป็นเอกราชได้อย่างถูกกฎหมาย ที่มอ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา เป็นการดำเนินการที่เข้าข่ายผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 1 ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวจะแบ่งแยกมิได้ และความอาญามาตรา 113 มีนายสมพาศ นิลพันธุ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรับเรื่อง

นายอานนท์ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมจะอยู่ในสถานศึกษาภายใต้การควบคุมของอาจารย์ แต่ผู้ใหญ่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่ทราบเรื่องการจัดงานในครั้งนี้ และไม่สมควรให้จัดงานประเภทนี้ เพราะเนื้อหาในงานเสวนาดังกล่าวเข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 1 ที่บัญญัติว่าราชอาณาจักรไทยเป็นหนึ่งเดียว แบ่งแยกไม่ได้ ใครคิดแบ่งแยกให้ถือว่าเป็นกบฏ ตนทราบว่าเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้อยู่ แล้วอยากให้ครม บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น โดยไม่ต้องเกรงใจใคร จึงขอสอบถามไปยัง 8 พรรคที่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองที่เป็นแกนนำ ขอร่วมจับมือกับพรรคที่มีแนวคิดเช่นเดียวกับการดำเนินการของกลุ่มนักศึกษาหรือไม่ รวมทั้งขอให้คณะรัฐมนตรี พิจารณาใช้กฎหมายต่อกรณีคดีความมั่นคง

ขณะที่นายชินวัตร กล่าวว่า ในฐานะตัวแทนพี่น้องมุสลิมไทย ต้องบอกว่าทุกศาสนาอยู่ร่วมกันบนแผ่นดินไทยอย่างสันติมาตลอด ไม่มีการแบ่งแยก ไม่มีการทะเลาะกัน แต่การจัดกิจกรรมดังกล่าว ทำให้ชาวมุสลิมรู้สึกไม่สบายใจ มีการแบ่งแยกดินแดน และจำลองทำประชามติ ซึ่งการกระทำดังกล่าวมีบุคคลอยู่หลายกลุ่มร่วมอยู่ในเหตุการณ์ จึงอยากให้ กอ.รมน. บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แม่ทัพทัพภาคที่ 4 มอบถุงยังชีพให้ชาวปัตตานีที่ได้รับความเดือนร้อนจากอุทกภัย

เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมด้วย พลเอก มณี จันทร์ทิพย์ ที่ปรึกษา

“สส.คอซีย์“ เผย สถานการณ์น้ำท่วมปัตตานีลดลง แต่ยังมีน้ำท่วมขัง กระทบการผลิตน้ำประปาเพื่ออุปโภคบริโภค ทำ ปชช.เดือดร้อน ขาดแคลนน้ำดื่มหนัก

นายคอซีย์ มามุ สส.ปัตตานี เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ว่า ขณะนี้ประชาชนยังได้รับความเดือดร้อนจากภัยน้ำท่วม โดยเฉพาะปัญหาการขาดแคลนน้ำดื่ม ถึงแม้จะได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนในการจัดส่งน้ำเข้าพื้นที่ แต่ยังไม่เพียงพอ

เทศบาลเมืองปัตตานีน้ำแห้งแล้ว ชาวบ้านเร่งทำความสะอาด หมู่บ้านรอบนอกยังท่วมหนัก

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ยังไม่คลี่คลาย ยังคงมีพื้นที่ถูกน้ำท่วม โดยเฉพาะพื้นที่ต.ปะกาฮารัง อ.เมือง มีน้ำท่วมสูง 1 เมตร ซึ่งลดลงเล็กน้อย ส่วนพื้นที่

'เปิ้ล-นาคร'ปักหลักปัตตานี 'แชมป์-แบงค์'แชมป์โลก'ลงยะลา-ตากใบ นักกีฬาเจ็ตสกีผนึกกำลัง

นักกีฬาเจ็ตสกีทั่วประเทศผนึกกำลังกันอีกครั้ง สนับสนุนการปฏิบัติภารกิจช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งสถานการณ์ล่าสุด ทีมนักกีฬาเจ็ตสกีจิตอาสา ของสมาคมกีฬาเจ็ตสกีแห่งประเทศไทย ในพระอุปถัมภ์ของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ แบ่ง 2 ทีมปฏิบัติการ ทีมพี่เปิ้ล-นาคร น้องออก้า พี่ปู พี่อาร์ม เจ็ตสกี 6 ลำ ลงพื้นที่พร้อมท่านผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมที่ อ.หนองจิก จังหวัดปัตตานี ส่วน ทีม “แชมป์” กษิดิศ “แบงค์แชมป์โลก” และพัทธดนย์ วัฒนศิลป์ เข้าช่วยเหลือที่ยะลาและพร้อมลำเลียงข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำ ยารักษาโรค ให้พี่น้องชาวตากใบ

ปัตตานียังวิกฤต! ดับแล้ว 7 ราย ปะกาฮารังจมบาดาลทั้งหมู่บ้าน

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดปัตตานียังคงเป็นพื้นที่สีแดง หลายพื้นที่ยังมีท่วมสูง แม้ว่าในช่วงกลางดึกน้ำลดลงไปบ้างแล้ว ประมาณ 20 %

น้ำท่วมใหญ่ปัตตานี หนักสุด 30 ปี มวลน้ำยะลา-นราธิวาสไหลบ่า จังหวัดเดียวรับน้ำเต็มๆก่อนลงทะเล

สถานการณ์ท่วมปัตตานียังไม่มีทีท่าว่าน้ำจะลดลง มวลน้ำจากยะลา และนราธิวาสยังคงไหลมาจังหวัดปัตตานีต่อเนื่อง ทำให้ปัตตานีเป็นจังหวัดเดียวที่รับน้ำเต็มๆ