'ป้ามล' สงสัย ครูของ 'หยก' กลัวอะไร ระหว่างหลักฐานสำคัญ หรือ ม.112 ที่ติดตัวหยกมา

21มิ.ย.2566 - จากกรณีที่ "หยก" อายุ 15 ปี อดีตผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 ที่ปีนรั้วโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ เพื่อต้องการไปเรียนหนังสือ หลังจากที่โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่าถูกทางโรงเรียนไล่ออก แต่ทางโรงเรียนชี้แจงว่า"หยก"ไม่นำผู้ปกครองมามอบตัวนักเรียนให้สมบูรณ์ จนเป็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง

ทิชา ณ นคร หรือ "ป้ามล" ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านกาญจนาภิเษก โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงเรื่องดังกล่าวว่า

บ้านเราเคยเป็น emergency home หรือรับเด็กในสถานการณ์วิกฤตมาดูแล เพื่อตัดตอนการเข้าสถานสงเคราะห์หรือสถานสงเคราะห์ต้องเป็นตัวเลือกสุดท้าย
ตามอุดมการณ์ของสหทัยมูลนิธิ องค์กรที่เราทำงาน ก่อนมาเป็น ผอ.outsource บ้านกาญจนาฯ กรมพินิจฯ กระทรวงยุติธรรม
ในปีที่ลูกสาวคนเล็กอายุ 8 ขวบ คนโต 10 ขวบ องค์กรที่เราทำงานคือสหทัยมูลนิธิ ได้พบเด็กอายุ 9 ขวบ ทุกคนรวมทั้งแม่ของเด็ก ประเมินว่า “เสี่ยงมาก” หากอยู่ในพื้นที่ตรงนั้นต่อไป
แต่การเติบโตตามยถากรรมมานานจนอายุ 9 ขวบ ทำให้หาครอบครัวทดแทนชั่วคราว (Foster home) ที่เหมาะสม ที่พอรับมือได้ยากมาก
ในฐานะ emergency home เด็ก 9 ขวบ จากพื้นที่สาธารณะ จึงเข้ามาในครอบครัวเรา พี่สาว น้องสาว ของสมาชิกคนใหม่ คือ ลูกสาวเรา
ระหว่างทำเอกสารการเกิด (อายุ 9 ขวบ แล้ว แต่ไม่เคยแจ้งเกิด) ให้ลูกสาวคนใหม่และรอกระบวนการยาวเหยียด เพื่อไม่ให้เสียเวลา เราพาลูกสาวคนใหม่คนนี้ไปสมัครเรียนชั้น ปอ 1 ที่โรงเรียน กทม.ใกล้ๆ บ้าน โดยไม่มีหลักฐานใดๆ รวมถึงผู้ปกครองที่อยู่ในเงามืดก็ไม่ได้ออกมาเพราะเธอก็ไม่มีหลักฐานใดๆ เช่นกัน และเด็กหญิงคนนั้นได้เรียน บัดนี้เด็กหญิงคนนั้น เปลี่ยนเป็นแม่ของลูกๆ ไปแล้ว
สงสัยว่า …
ครูของหยกต้องการอะไร กลัวอะไร
ระหว่างหลักฐานสำคัญหรือมาตรา 112 ที่ติดตัวหยกมา !!!
#saveหยก