‘พุทธะอิสระ’ บอกช่างน่าสงสาร-สมเพชเวทนา ‘พลพรรคเด็กทารก’ ยิ่งนัก

16 ก.ค.2566-นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ “พุทธะอิสระ” อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จังหวัดนครปฐม โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กหัวข้อ “แสนเอยแสนสงสารยิ่งนัก” ระบุว่า คราวที่แล้วได้แสดงความสงสารต่อพลพรรคก้าวไกล โดยมีพินอคทิโอเป็นหัวหน้า

 แล้วมาจบลงตรงที่บุตรออกมาบอกว่า หากไม่สามารถเป็นนายกได้ ก็ให้ยอมเป็นฝ่ายค้านรออีก ๔ ปีข้างหน้า เมื่อถึงเวลาเลือกตั้งพรรคก้าวไกลจะได้แลนด์สไลด์กันถล่มทลาย

พุทธะอิสระจึงเขียนแสดงความสงสารไปว่า บุตรแน่ใจหรือว่าจะมีโอกาสได้สมัครเลือกตั้ง เพราะพลพรรคก้าวไกลกำลังจะถูก กกต. และศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาคดีหุ้นสื่อ รวมทั้งคดีล้มล้างการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แค่คดีหลังนี้แววๆ มาว่า ผู้ร้องจะมีการร้องต่อให้ยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิ์ สส. พรรคก้าวไกลทุกคนในฐานความผิดที่เป็นตัวการร่วม  แม้แต่บุตร ทอน ฉ้อเองก็ยังไม่แน่ใจว่าอีก ๔ ปีข้างหน้าจะไปอยู่ที่ไหน จะอยู่ในคุก หรือหนีไปอยู่ต่างประเทศ เพราะมีคดีละเมิด ๑๑๒ และ ๑๑๖

มาถึงวันนี้คงต้องแสดงความสงสารกับทานอคคิโอ และพลพรรคก้าวไกล ที่มีไอเดียบรรเจิดไปยื่นหนังสือขอแก้ไขมาตรา ๒๗๒ ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อปิดสวิตช์ สว. แบบชนิดกะว่าจับให้มั่น คั้นให้ตาย ผลักไสให้ออกไปจากตำแหน่ง สว. ให้ได้ภายในเร็ววัน เพราะอยู่ไปก็รังแต่จะมาเป็นก้างขวางคอ  ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่า กฎหมายใดๆ ไม่ว่าใครจะนำเสนอต้องผ่านทั้ง ๒ สภา คือ สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา  แต่นักการเมืองพรรคเด็กน้อยกระทำการแบบเด็กน้อยไร้เดียงสา ที่ไม่ต้องมีเหตุ มีผล กูอยากทำอะไรกูก็จะทำ โดยไม่คำนึงถึงเหตุและผล ความถูกต้องชอบทำ

แม้แต่หลักปฏิบัติ ระเบียบ ข้อบังคับกฎหมาย คนพวกนี้ก็จะไม่แยแส หากกูต้องการอะไร กูก็จะเรียกร้องเอาโดยไม่คำนึงว่าอะไรถูก อะไรผิด  ทั้งที่กฎหมายกำหนดเอาไว้ชัดว่า การจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี ต้องผ่านการคัดเลือกจากทั้งสองสภา และกฎหมายนี้ก็มีมาก่อนเลือกตั้ง  แต่พอพรรคตนเองชนะการเลือกตั้งเข้ามากลับไม่ได้รับเลือกจากวุฒิสภา  พรรคเด็กน้อยก็ใช้วิธีขับไล่สมาชิกวุฒิสภาให้ออกไปให้พ้นทางเสียเลย

 นี่ยังไม่นับรวมถึงพวกติ่งส้มทั้งหลาย ที่ไปรุมถล่มทั้งตัว สว. และครอบครัวของ สว. จนลามปรามไปถึงธุรกิจของครอบครัวเขา ใช้กิริยาวาจา ถ่อย สถุน ด่า ว่า สาปแช่งเขาอีก  ได้ยินแววๆ มาว่าอานนท์ นำภา ประกาศระดมพลขบวนมอเตอร์ไซค์ออกมาขับป่วนเมือง ด้วยข้ออ้างว่า จะไปยื่นหนังสือใบลาออกให้แก่ สว.  นี่น่ะหรือกลุ่มคนที่จะเข้ามาบริหารบ้านเมือง และทำให้ประชาชนทั้ง ๗๑ ล้านคนมีความสุข  แค่เริ่มต้นก็ปล่อยให้ลิ่วล้อเที่ยวไปสร้างความทุกข์ยาก เดือดร้อนให้แก่คนที่เห็นต่างและแทนที่พวก ๑๔ ล้านเสียงจะสำเหนียกรับรู้ ออกมาห้ามปราม กลับเห็นดีเห็นงามไปกับการกระทำของพรรคเด็กน้อยและพวกนี้

 เช่นนี้แหละควรที่จะแสดงความสงสาร สงสารประเทศ สงสารประชาชนที่เขาไม่รู้อีโหน่อีเหน่ จะต้องมาพลอยซวยไปกับการกระทำของพรรคเด็กน้อยและพวก

และสงสารความไร้เดียงสาของทานอคคิโอและพวก ที่ไม่สนใจอะไรกับหลักการ หลักธรรมใดใดว่า ธรรมใดเกิดมาแต่เหตุ หากจะดับธรรมนั้นก็ต้องดับที่เหตุ เหตุความขัดข้องทั้งหลายกับทานอคคิโอล้วนเกิดจากการกระทำของตนเองทั้งนั้น  แต่คนพวกนี้กลับไม่ยอมรับรู้ ด้วยเพราะความไม่ยอมรับรู้นี่แหละ สังคมไทยจึงได้เห็นพฤติกรรมวิปริตวิปลาส ผิดๆ พลาดๆ ของพลพรรคเด็กทารกกวนเมืองมาตลอดเวลา

 เฮ้อช่างน่าสงสาร สมเพชเวทนาเสียจริง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ยกเลิก MOU 'เจ้ากรมแผนที่ทหาร-นักวิชาการ' สะท้อนต่างมุม

วงเสวนาไทย–กัมพูชาสะท้อนต่างมุม “เจ้ากรมแผนที่ทหาร” ชี้ปัญหาเขตแดนเป็นมรดกยุคอาณานิคม ย้ำ MOU คือกลไกแก้ปัญหาที่สั่งสมกว่า 20 ปี ขณะที่ “สว.ชิบ” เปิด 8 เหตุผล กมธ.วุฒิสภา หนุนยกเลิก MOU 2544 ป้องกันไทยเสียผลประโยชน์ทางทะเล

สภาสูงตามบี้การใช้จ่ายงบประมาณเป็นเจ้าภาพซีเกมส์

'กมธ.ติดตามงบประมาณ สว.' สอบเจ้าภาพ 'ซีเกมส์'ใช้งบคุ้มค่าหรือไม่ ด้าน 'กกท.'แจง เหตุใช้งบกลาง เพราะเงินที่มีไม่ครบถ้วน 'ภิญญาพัชญ์' เผยเรียกแจงเพิ่มสัปดาห์หน้าทำไมเปลี่ยนออแกไนซ์กลางคัน

ดร.ณัฏฐ์ ผ่าเกมแก้รัฐธรรมนูญ วาระ 3 คือดักทาง ยุบสภาปี 68 เป็นศูนย์

นักกฎหมายมหาชนชี้ แก้รัฐธรรมนูญแม้ผ่านวาระ 2 ไม่ยาก แต่ต้องแช่แข็งร่าง 15 วันก่อนขึ้นวาระ 3 ทำเกมยุบสภาไร้ทางเกิดขึ้นภายในปีนี้ ขณะตัวแปรชี้ชะตาอยู่ที่เสียง สว. สีน้ำเงิน ในขั้นสุดท้ายก่อนประชามติ