อดีตผู้พิพากษา ซัด ’กกต.’ ปล่อย สส.ไร้คุณภาพ ทำการเมืองไทยเกิดวิกฤต

6 ส.ค.2566-นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าศาลฎีกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Chuchart Srisaeng ระบุว่า พรป. การเลือกตั้ง สส. มาตรา 73 ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น ให้งดเว้นการลงคะแนนให้แก่ผู้สมัคร หรือการชักชวนให้ไปลงคะแนนไม่เลือกผู้ใดเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

(1) จัดทำ ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด

…..การที่พรรคการเมืองต่างๆ หาเสียงโดยการประกาศว่าจะแจกเงินแก่ผู้สิทธิเลือกตั้ง เช่น แจกเงินดิจิทอลแก่ประชาชนทุกคนๆ ละ 10,000 บาท เป็นเวลา 6 เดือน จ่ายค่าแรงขั้นต่ำให้ลูกจ้างวันละ 450 บาท จ่ายเงินให้เด็กแรกเกิด 3,000 บาท เด็กเล็กเดือนละ 1,200 บาท ผู้จบปริญญาตรีต้องได้รับเงินเดือนละ 25,000 บาท และจ่ายเงินให้แก่คนชราเดือนละ 3,000 บาท เป็นต้น

…..การหาเสียงโดยการจะแจกจ่ายเงินดังกล่าวทำให้ประชาชนหลงเชื่อจึงเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส. และเลือกพรรคนั้นๆ โดยหวังว่าจะได้ประโยชน์ตามที่พรรคการเมืองต่างๆ หาเสียง อันเป็นผลให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคการเมืองที่หาเสียงดังกล่าวได้รับการเลือกตั้งมาเป็นจำนวนมากทั้งๆ สส.เขต สส. บัญชีรายชื่อ

…..ทั้งๆ ที่การหาเสียงเช่นนั้นย่อมเห็นได้ว่า เข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรา 73(1) อย่างชัดเจน แต่ กกต. กลับให้ความเห็นว่า สามารถทำได้เพราะเป็นเรื่องนโยบายของพรรคการเมือง ตามพรป.พรรคการเมือง อันเป็นกฎหมายคนละฉบับกัน จึงไม่ควรจะเอามาตีความเพื่อยกเว้นการกระความผิดตาม พรป.การเลือกตั้ง สส. ซึ่งมีเจตนารมณ์ที่ต้องให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม

…..ถ้า กกต. ที่มีหน้าที่จัดการเลือกไม่ปล่อยปละละเลยให้พรรคการเมืองและผู้สมัครรับเลือกตั้งซื้อเสียงกันได้ทั้งที่ กกต.เห็นว่าชอบด้วยกฎหมายและที่เห็นว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายแต่ กกต.ก็ไม่ได้ดำเนินการใดๆ ทั้งๆ ที่มีการใช้เงินซื้อเสียงกันซึ่งประชาชนต่างก็รู้กันดีดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

…..ไม่ปล่อยให้ผู้มีคุณสมบัติต้องห้ามไม่ให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 สมัครรับเลือกตั้งกันโดยไม่ได้ตรวจสอบ แม้กระทั่งผู้สมัครที่ถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุกในความผิดเกี่ยวกับทรัพย์โดยมีผู้ร้องเรียนแล้ว ซึ่ง กกต.เพียงมีหนังสือสอบถามประวัติอาชญากรไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ได้รับคำตอบแล้ว

…..หรือเพียงเรียกผู้สมัครคนนั้นมาสอบถามว่า ถูกศาลพิพากษาจำคุกจริงหรือไม่ ที่ศาลไหน ปีใด เชื่อว่า ผู้สมัครคงไม่กล้าโกหก จากนั้นสอบถามไปที่ศาลก็คงได้รับคำตอบเช่นเดียวกัน แต่ กกต. ก็ไม่กระทำกลับประกาศผลให้ผู้สมัครคนนั้นได้เป็น สส. และรัฐต้องจ่ายเงินเดือนให้แล้วตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม 2566 จนถึงวันที่ 3 สิงหาคม 2566 อันเป็นวันที่บุคคลนั้นลาออกจากเป็น สส. อยากถาม กกต.ว่า จะให้ใครรับผิดชอบเงินจำนวนนี้

…..ถ้า กกต.ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็งเคร่งครัดตามบทบัญญัติของกฎหมายอย่างละเอียดรอบคอบดังเช่นที่ กกต. ชุดแรกได้ประพฤติปฏิบัติเชื่อได้ว่า สส. คงมีคุณภาพมากกว่าที่เห็นอยู่ในปัจจุบันและการเมืองของประเทศไทยคงต้องไม่เกิดวิกฤติเละเทะอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อบจ.บุรีรัมย์ชวนชาวบ้านออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง 1 ก.พ.

องค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์รณรงค์เชิญชวนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ. และ ส.อบจ. 1 ก.พ.นี้ คนดีไม่ซื้อสิทธิ คนสุจริตไม่ขายเสียง และทุกเสียงคือพลัง

ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้อง ปมกล่าวหา 'กกต.' ชงยุบก้าวไกล

ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้องกรณีที่ กรณี นายธรณิศ มั่นศรี (ผู้ร้อง) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 2

'สนธิญา' ร้อง กกต. สอบ 'ทักษิณ' ปราศรัยช่วยหาเสียงนายก อบจ. แอบอ้างสถาบัน

นายสนธิญา สวัสดี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อกกต.เพื่อขอให้ตรวจสอบและวินิจฉัยเกี่ยวกับการเลือกตั้งนายก และสมาชิก​องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) 2 กรณี กรณีแรกเป็นการลาออกก่อนครบวาราะของนายกอบจ.นครศรีธรรมราช และกรณีที่สองเป็นการปราศรัยหาเสียงของนายทักษิณ ชินวัต

‘นันทิวัฒน์’ ลั่น กกต.ยุบไปเถอะ ถ้าไม่เทคแอ๊คชั่น ปล่อยหาเสียงอ้างเบื้องสูงได้

ต่อแต่นี้ไป หาก กกต.ไม่ทำอะไร ปล่อยผ่าน การแอบอ้างเบื้องสูง การดึงสถาบันมาเกี่ยวข้องกับการเมืองจะกลายเป็นสิ่งที่ทำได้ไม่ผิด หาก กกต.ไม่เทคแอ๊คชั่นยุบไปเถอะ

โค้งสุดท้ายเดือด! 'ทักษิณ' ยกทัพใหญ่หาเสียงรอบ 2 'นายก อบจ.เชียงราย'

โค้งสุดท้าย หาเสียง 'นายก อบจ.เชียงราย' เดือด! 'ทักษิณ' ยกทัพใหญ่ช่วยเมียยงยุทธ สู้สีน้ำเงินรอบสอง 29 ม.ค. ก่อนปิดโรดแมปทัวร์ทั่วประเทศ