'ซ้อม-มีดกรีดหลัง' แรงงานไทยในอิสราเอลเล่าชะตากรรมตัวประกัน

ญาติแรงงานไทยเผยกลุ่มฮามาสเหี้ยม จับแรงงานไทยทรมาน ใช้มีดกรีดหลังใครหนีกราดยิง 1 ใน 3 พี่น้องขายแรงงานถูกจับเป็นเชลย ยังไม่ทราบชะตากรรม

11 ต.ค.2566 - พื้นที่จังหวัดนครพนม ยังมีอีกหลายครอบครัว ที่ยังคงออกมาเรียกร้อง สะท้อนความเป็นอยู่ของแรงงานไทยในประเทศอิสราเอล มีทั้งสูญหายขาดการติดต่อ รวมถึงผู้ที่ยังหลบหนีโดยไม่รู้ว่า เป็นตายร้ายดีอย่างไร และถูกจับเป็นตัวประกันโดยกลุ่มก่อการร้ายฮามาส ล่าสุดกลุ่มฮามาสออกมาขู่ฝ่ายอิสราเอล ว่าหากยิงอาวุธเข้ามาถล่มปาเลสไตน์ โดยไม่มีการแจ้งเตือนจะยิงตัวประกันทิ้งทีละคน ยิ่งสร้างความหวั่นวิตกแก่ญาติแรงงานไทย ที่ถูกจับเป็นตัวประกันเป็นอย่างมาก

โดยจากข้อมูลของแรงงานจังหวัดนครพนม พบว่าแรงงานไทยชาวนครพนม ที่เดินทางไปทำงานในประเทศอิสราเอลมีมากกว่า 2,100 คน ในจำนวนนั้นมีหลายร้อยคน ที่อยู่ในเขตฉนวนกาซา ชายแดนที่มีการสู้รบอย่างดุเดือด และมีญาติออกมายืนยันตัวตนคนงาน ที่สามารถติดต่อได้ รวมถึงผู้สูญหายขาดการติดต่อแล้วกว่า 330 คน

เช่นเดียวกันกับครอบครัว นางเนตรนภา โฮมสร ชาวบ้านหนองเดิ่นพัฒนา ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม ออกมากสะท้อนความเป็นอยู่ของน้องชายทั้ง 3 คนที่ไปทำงานในประเทศอิสราเอลทั้งบ้าน เพื่อหวังหาเงินสร้างฐานะ ประกอบด้วย 1.นายเศรษฐา โฮมสร อายุ 38 ปี 2.นายเจษฐา โฮมสร อายุ 36 ปี และ 3.นายอนุวัต โฮมสร อายุ 32 ปี ซึ่งน้องชายคนเล็กสุดเพิ่งไปทำงานได้เพียง 3 เดือน ยังมีภาระหนี้สินค่าใช้จ่ายในการเดินทางนับแสนบาท

คืบหน้าล่าสุด นายอนุวัต โฮมสร อายุ 32 น้องชายคนเล็ก ได้ติดต่อทักแชทวีดีโอคอลผ่านเฟซบุ๊กมาหาพี่สาวและภรรยา เล่าความเป็นอยู่ให้ฟังว่า วันเกิดสงครามคือวันที่ 7 ตุลาคม กลุ่มฮามาสติดอาวุธหนักบุกเข้ามาในแคมป์คนงาน ที่อยู่ด้วยกันรวม 11 คน จับตัวได้ 5 คน แต่ภายหลังหนีรอดมาได้ 2 คน จึงเหลือแค่ 3 คนที่หนีออกมาไม่ได้ แต่ 1 ใน 3 คน มีนายเศรษฐา โฮมสร หรือต้อม อายุ 38 ปีถูกกวาดต้อนไปเป็นตัวประกันด้วย ทั้งที่มีกำหนดครบสัญญาจ้างกลับบ้านในวันที่ 10 ตุลาคม 2566 หรือเหลืออีกเพียง 3 วันเท่านั้น ถึงขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อได้

นอกจากนี้นายอนุวัตยังเล่าต่อว่า กลุ่มฮามาสติดอาวุธหนักมีพฤติกรรมสุดเหี้ยม หากใครวิ่งหนีจะกราดยิง โชคดีไม่มีผู้เสียชีวิต อีกทั้งยังใช้มีดกรีดหลังเพื่อนคนงานที่เป็นชาว จ.อุดรธานี ที่ถูกจับตัว และซ้อมทำร้ายร่างกาย จึงอยากให้รัฐบาลเร่งหาทางช่วยเหลือ ทุกคนอยากกลับประเทศไทย ถึงแม้จะมีภาระหนี้สิน แต่ขอเอาชีวิตรอดไว้ก่อน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“พิพัฒน์” จับมือ Sands China เปิดประตูแรงงานไทยสู่โรงแรม-คาสิโนระดับโลกในมาเก๊า

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน หารือร่วมกับ บริษัท Sands China Ltd. ผู้ดำเนินธุรกิจรีสอร์ท คาสิโน และโรงแรมหรูระดับโลกในมาเก๊า

“พิพัฒน์” พบรัฐมนตรีแรงงาน ฮ่องกง กระชับความร่วมมือด้านแรงงาน ขยายโอกาสแรงงานไทย พร้อมค่าจ้างสูงและสวัสดิการดี

27 กุมภาพันธ์ 2568 – นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เข้าพบ นายซัน ยื้อ ฮ๊าน (Mr. SUN Yuk Han, Chris, JP) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการฮ่องกง พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร

“พิพัฒน์“ หารือกงสุลใหญ่ฮ่องกง ดันแรงงานไทยบุกตลาดฮ่องกง-มาเก๊า เร่งนำเข้าพ่อครัว-แม่ครัวและภาคบริการ”ซึ่งเป็นที่ ต้องการ เปิดตำแหน่งนับ 18,000 อัตรา

26 กุมภาพันธ์ 2568 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย ผู้บริหารกระทรวงแรงงาน เข้าพบ นายจาตุรนต์ ไชยะคำ กงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง และ ทีมประเทศไทย ได้แก่ นางสาวพรรณกาญจน์ เจียมสุชน กงสุล(พาณิชย์) นายจารุภัทร

“พิพัฒน์ บุก ฮ่องกง หางานให้คนไทยต้องการครูมวยไทย 600 ตำแหน่ง รายได้สูง 81,000 บาท/เดือน กระทรวงแรงงานหนุนเต็มที่”

26 กุมภาพันธ์ 2568 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม สันติชัยฟิตเนส ถนน Fa Yuen Street เขต Mong Kok

'พิพัฒน์' ลงพื้นที่นครศรีธรรมราช ตรวจเยี่ยมบริษัทแปรรูปไม้ยางพารา ย้ำดูแลแรงงานไทย - พม่าถูกกฎหมาย พร้อมผลักดันสร้างรายได้ในพื้นที่

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ บริษัท นครศรีพาราวู้ด จำกัด อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช

‘พิพัฒน์‘ พบ “เลขาธิการ OECD” เสนอการบริหารประชากร แรงงานให้ใช้ AI สร้างหลักประกันดูแลทุกช่วงวัย ย้ำ! ไทยพร้อมร่วมเป็นสมาชิก

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นายศรัณย์ เจริญสุวรรณ