'อัษฎางค์' ชำแหละ ใครกันแน่ อยู่เหนือกฎหมาย ระหว่างนักวิชาเกิน-ม็อบ3นิ้ว กับ พระมหากษัตริย์

28 พ.ย.2566- อัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ “ใครกันแน่ อยู่เหนือกฎหมาย” มีรายละเอียดดังนี้

มีคนมาตั้งคำถามในโพสต์ของ”เพจฤา“ โดยกล่าวว่า “ฟ้องร้อง ดำเนินคดี เป็นคู่กรณี เป็นจำเลยไม่ได้ แบบนี้ไม่ได้เรียกว่า อยู่เหนือกฏหมายเหรอครับ“

ผมไม่ใช่แอดมินของเพจฤา แต่จะขอมาตอบคำถามนี้ว่า

ถ้าอยู่เหนือกฎหมายตามนัยยะที่คุณกล่าว ก็จะหมายความว่า ”พระมหากษัตริย์ไม่ต้องเป็นเคารพสักการะ และผู้ใดจะละเมิดก็ได้ ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องก็ได้“

คำว่า ”เหนือกฎหมาย“ คือ การอยู่เหนือจากที่กฎหมายกำหนด หรือก็คือทำอะไรก็ไม่มีความผิดตามกฎหมาย
ส่วนคำว่าอยู่ใต้กฎหมายคือ ”ต้องทำตามกฎหมาย“ กฎหมายกำหนดว่าอะไร กลับไปอ่าน มาตรา 8

กฎหมายมาตรา 8 กำหนดว่า

“องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใด ๆ มิได้”

ซี่งนั่นคือสิ่งที่กฎหมายกำหนด คือกำหนดให้ ”พระมหากษัตริย์อยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้อง“

ดังนั้น การที่คุณกล่าวหาว่า “การฟ้องร้อง ดำเนินคดี เป็นคู่กรณี เป็นจำเลยไม่ได้ คือการอยู่เหนือกฎหมายของพระมหากษัตริย์”

เป็นสิ่งที่แสดงว่าคุณเป็นผู้ที่ไร้การศึกษา หรืออาจมีการศึกษาแต่ไร้คุณภาพ หรือมีการศึกษา มีความเข้าใจ แต่จงใจบิดเบือนข้อเท็จจริง จึงไม่เข้าใจคำอธิบายง่ายๆ ธรรมดาๆ นี้ รวมทั้งเป็นการกล่าวหา ให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์อีกด้วย ซึ่งอาจมีความผิดตามกฎหมายอีกด้วย

ทำไมถึงมีกฎหมายห้ามฟ้องร้องพระมหากษัตริย์?

เพราะ ถึงแม้พระมหากษัตริย์จะลงพระนามในกฎหมายทุกฉบับทั้งที่ออกโดยรัฐสภา หรือรัฐบาลเพื่อบริหารราชการแผ่นดิน

แต่พระมหากษัตริย์ไม่ได้มีอำนาจทางการเมืองหรือการบริหารราชการแผ่นดินจริง ผู้ที่มีอำนาจทางการเมืองหรือการบริหารราชการแผ่นดินตัวจริง คือนักการเมือง

สส.ในสภาและคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลเป็นผู้ออกกฎหมายที่ใช้บริหารประเทศ

ดังนั้น ”ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ไม่ได้“

เพราะผู้บริหารประเทศตัวจริงคือนักการเมือง ความผิดพลาดใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการบริหารประเทศ รวมถึงการคอรัปชั่น ฉัอราษฎร์บังหลวง ล้วนเกิดจากนักการเมือง

คำอธิบายง่ายๆ สั้นๆ สำหรับคำว่า”อยู่เหนือการเมือง“ ก็คือการที่พระมหากษัตริย์ ไม่ได้เป็นนักการเมืองที่บริหารราชการแผ่นดินโดยตรงนั้นเอง

ส่วนคำว่า”ผู้ใดจะละเมิดมิได้หรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ไม่ได้“ เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดว่า ”พระมหากษัตริย์อยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ“

แต่สิ่งที่ม็อบสามนิ้วกระทำ ล้วนเป็น”การละเมิด“ พระมหากษัตริย์

เอาแค่บุคคลธรรมดา เช่นตัวคุณเองไปละเมิดบุคคลอื่น หรือคนอื่นมาลเมิดตัวคุณเอง ก็ยังผิดกฎหมายเลย
กฎหมายคุ้มครองทั้งสถาบันพระมหากษัตริย์และประชาชน ไม่ให้ใครมาละเมิด

มีสิ่งเดียวที่แตกต่างกันระหว่างพระมหากษัตริย์กับประชาชนคือ พระมหากษัตริย์อยู่ในฐานะพระประมุขของชาติ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความมั่งคงของชาติ

จึงเป็นที่มาของกฎหมายที่ว่า “องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใด ๆ มิได้”

แต่ม็อบและคนสามนิ้ว ละเมิดพระมหากษัตริย์ ซึ่งรัฐธรรมนูญคุ้มครองไม่ให้ถูกละเมิด แล้วคุณและพวกคุณ ”กลับกล่าวหาว่า พระมหากษัตริย์อยู่เหนือกฎหมาย“

ทั้งที่พวกคุณ ”ละเมิดหรือทำผิดกฎหมาย“

สรุป คนที่อ่านไม่เข้าใจมีอยู่ 2 ประเภท คือ

1) ไร้การศึกษาหรือ ถึงจะมีการศึกษา แต่ด้อยคุณภาพ ทำให้ไม่เข้าใจสิ่งที่เป็นเพียงเรื่องพื้นๆ ธรรมดาเท่านั้น
ย้ำอีกครั้ง….ทุกคนในประเทศไทย รวมทั้งสถาบันพระมหากษัตริย์ มีกฎหมายคุ้มครองเหมือนกันทุกคน คือ การไม่ให้ใครมาละเมิด

2) มีการศึกษาดี อ่านเข้าใจ แต่ตั้งใจบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ในการบั่นทอนสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้เกิดความเสื่อมคลอน เพื่อหวังล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์

ส่วนคำถามของอาจารย์วิชาสังคมศึกษาจากโรงเรียนดังย่านพญาไทนั้นบ่งบอกอะไรหลายอย่างเช่น
เป็นอาจารย์ที่อ่อนด้อยในความรู้

เพราะการเฉลยว่าคำตอบข้อ ค. ถูกต้อง คือ ความเข้าใจผิดของคนที่ไร้การศึกษาหรือมีการศึกษาแต่ด้อยคุณภาพ
หรือถ้ามีการศึกษาดี ก็แสดงว่าตั้งใจบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ในการบั่นทอนสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้เกิดความเสื่อมคลอน เพื่อหวังล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์

แม้แต่คำตอบให้ข้อ ก. ก็ยังไม่ใช่สาระสำคัญของพระราชอำนาจ

ครูอาจารย์ ที่ด้อยคุณภาพหรือมีอุดมการณ์ทางการเมือง เพื่อบั่นทอนสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้เกิดความเสื่อมคลอน เพื่อหวังล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ล้วนเป็นภัยอย่างใหญ่ต่อความมั่นคง และเป็นภัยต่อระบอบการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

ซึ่งครูอาจารย์หรือใครก็ตามที่มีทัศนคติหรือพฤติกรรมที่เป็นภัยต่อความมั่นคง ควรถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
อย่าปล่อยให้คนที่ให้ร้ายว่า“สถาบันพระมหากษัตริย์อยู่เหนือกฎหมาย ทั้งที่ตนเองทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย ลอยนวลอยู่เหนือกฎหมายอีกต่อไป”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'แก้วสรร' แพร่บทความปอกเปลือก ทักษิโณมิคส์ บวก X กลายเป็นโครงการแจกเงินดิจิทัล

นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ เผยแพร่บทความเรื่อง "ทักษิโณมิคส์ + X = โครงการแจกเงินดิจิตอล" มีเนื้อหาดังนี้ เมื่อคราวแรกเริ่มครองอำนาจในปี ๒๕๔๖ ของพรรคทักษิณ ที่พลิกมิติการปกครองไทยด้วยชุดนโยบายการเงินที่โหมอัดฉีดประชานิยมชนิดเข้มข้นต่างๆนานา

'เอ็ดดี้' ข้องใจ! 'โชกุน' ทำตามออร์เดอร์ 'พญาอินทรีย์'

อัษฎางค์ ยมนาค โพสต์เฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค ระบุข้อความว่า น่าแปลใจไหมครับ ญี่ปุ่นให้รางวัลนี้กับ อ.ธงชัย ทั้งที่ญี่ปุ่นนี้ โค-ตะ-ร

ต่างชาติยังรู้ แก๊งบีบแตรไล่ขบวนเสด็จฯ โดนชาติตะวันตกล้างสมอง!

อัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ ชาวต่างชาติทราบข่าวตะวันบีบแตรไล่ขบวนเสด็จ โดยระบุรายละเอียดว่า เมื่อสั

'อัษฎางค์' เปิดกะลาด้อมส้ม เป็นอาณานิคมอย่างฟิลิปปินส์ ดีกว่าเป็นเอกราชอย่างไทย จริงมั้ย!

นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "ฟิลิปปินส์ เป็นเมืองขึ้น-พูดอังกฤษ ต้องก้าวไกล" ผมอยู่ที่ซิดนีย์ ก็มีเพื่อนฟิลิปปินส์หลายคนเหมือนกัน เพื่อนสนิทของลูกก็เป็นฟิลิปปินส์ จริงๆ

'แก้วสรร' ร่อนจม.เปิดผนึกถึง ป.ป.ช.ชี้ช่องสอบการพักโทษทักษิณผิดกฎหมาย!

นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ ได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.)

'อัษฎางค์' ชำแหละ รางวัลนักแสดงนำยอดเยี่ยมจากเจ้าอาณานิคมยุคใหม่ ไม่เคารพธงชาติ ไม่สวดมนต์

นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก "เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค" ระบุข้อความว่า รางวัลนักแสดงนำยอดเยี่ยมจากเจ้าอาณานิคมยุคใหม่