ดร.เสรี หนุนกระเช้าขึ้นภูกระดึง

6 ธ.ค.2566 - ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊กว่า การสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึงจะก่อให้เกิดการพัฒนาภูกระดึงให้เป็น accessible tourism (การท่องเที่ยวที่ทุกคนเข้าถึงได้)

นั่นหมายความว่านอกจากหนุ่มสาว คนร่างกายแข็งแรงแล้ว คนแก่คนพิการก็มีโอกาสได้ชื่นชมความน่าอภิรมย์ของภูกระดึง

การมีกระเช้าขึ้นภูกระดึงเป็นการให้ทางเลือกแก่นักท่องเที่ยว ใครใคร่เดินเพื่อการผจญภัยและความตื่นเต้นก็เดินขึ้น ไม่ผิดกติกา

ใครที่ต้องการความสะดวก (แม้จะเดินไหว) และคนเดินไม่ไหว ก็ขึ้นกระเช้าไป

สถานที่ท่องเที่ยวสูงๆในหลายประเทศก็มีทางเลือกให้นักท่องเที่ยวเช่นนี้

ส่วนการเที่ยวบนภูกระดึงหลังจากขึ้นเขาแล้ว ก็ให้เป็นทางเลือก ใครอยากเดินไปจุดไหนก็ไป ใครไม่อยากไปหรือไปไม่ไหวก็ไม่ต้องไป

ทุกวันนี้ คนที่เดินไหว ก็ยังไม่ไปทุกจุดเลย บางคนก็ไม่ตื่นไปดูพระอาทิตย์ขึ้น บางคนก็ไม่ไปดูพระอาทิตย์ตก

คนไปเขาใหญ่ก็ไม่ได้ออกไปส่องสัตว์คนทุกคน

ส่วนการกลัวจะมีคนมากไป ก็สามารถใช้ "การจัดการ" เข้าช่วยได้ ตามหลักการของ carrying capacity (จำนวนมากสุดของรักท่องเที่ยวที่สามารถรับได้ โดยไม่ส่งผลกระทบเชิงลบ)

การจัดการเรื่อง carrying capacity มีตั้งหลายวิธี การลงทะเบียน การจอง การกำหนดจำนวนคนอยู่บนภูในแต่ละช่วง การเก็บค่าธรรมเนียมในการขึ้นเป็นต้น

การเปิดโอกาสให้คนทุกคนสัมผัสความงามและเสน่ห์ของภูกระดึงเป็นเรื่องที่ควรทำ

และเรามี "ศาสตร์ของการจัดการด้าน carrying capacity" ที่จะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวบนภูกระดึงไม่มากเกินไป

สิ่งที่อาจจะต้องจัดการอีกเรื่องหนึ่งคือ การหางานให้คนรับจ้างแบกสัมภาระให้ยังมีรายได้

อาจจะกำหนดข้อจำกัดในการเาสัมภาระขึ้นกระเช้า ทำให้นักท่องเที่ยวต้อง check in สัมภาระ เพื่อสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวในการจะได้รับสัมภาระ การ check in สัมภาระควรเป็นระบบบริษัทรับขนสัมภาระเหมือนขึ้นเครื่องบิน

เชื่อเถอะ ถ้าหากมีระบบการจัดการที่ดี การสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึงจะมีประโยชน์ในการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวภูกระดึงมากกว่าทำลาย

การท่องเที่ยวประเภทอื่นในจังหวัดเลยก็จะดีขึ้นด้วย...เชื่อเถอะ

เราต้องเชื่อความสามารถด้านการจัดการของมนุษย์นะ ประเทศไทยต้องหาคนที่เก่งการจัดการมาบริหารการท่องเที่ยวของภูกระดึงได้แน่.