จำคุก 'อั๋ว จุฑาทิพย์' แกนนำเยาวชนปลดแอก ปลุกม็อบป่วนหน้าศาลอาญา

แฟ้มภาพ

22 ธ.ค.2564 - ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลได้นัดฟังคำสั่ง ในคดีหมายเลขดำที่ลศ 13/2564 ระหว่าง ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการประจำศาลอาญา ผู้กล่าวหา และ นายศุภกิจ บุญมหิทานนท์, นายวีรภาพ วงษ์สมาน, นายพัชรวัฒน์ โกมลประเสริฐ กุล ,น.ส.จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ หรือ อั๋ว, นายศรัณย์ อนุรักษ์ปราการ แกนนำกลุ่มเยาวชนปลดแอก (REDEM) ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1-5 ตามลำดับ ในฐานความผิดละเมิดอำนาจศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 30, 31 (1), 33 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15

สืบเนื่องจากกรณีเมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2564 กลุ่มเยาวชนปลดแอก (REDEM) ได้นัดหมายชุมนุม เคลื่อนขบวนจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไปยังศาลอาญา โดยมีการใช้เครื่องขยายเสียงด่าทอนายชนาธิป เหมือนพะวงศ์ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา อีกทั้งยังมีการขวางปาสิ่งของ เช่น มะเขือเทศ ไข่ไก่ และของเหลวสีแดง ใส่ป้ายศาลอาญาและบริเวณพื้นภายในบริเวณศาลอาญา ทําให้ได้รับความเสียหาย ภายหลังแกนนำผู้ชุมนุมได้ประกาศยุติการชุมนุม ยังมีผู้ชุมนุมบางส่วนยังรวมกลุ่มกันที่บริเวณปากซอยรัชดาภิเษก 32 และขว้างปาประทัด ยิงพลุไฟ และยิงหนังสติ๊กใส่เจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชน โดยผู้ถูกกล่าวหาทั้งห้าคนให้การปฏิเสธ

ศาลจึงมีคำสั่งให้ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1-3 จำคุกคนละ 2 เดือน และผู้ถูกกล่าวหาที่ 4-5 จำคุกคนละ 3 เดือน ปรับผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 จำนวน 480 บาท แต่ผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดนำสืบข้อเท็จจริงเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ จึงลดโทษให้คนละ 1 ใน 3 เป็น ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1-3 คงจำคุกคนละ 40 วัน และผู้ถูกกล่าวหาที่ 4-5 จำคุกคนละ 2 เดือน ปรับผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 จำนวน 320 บาท

อย่างไรก็ดี ศาลพิเคราะห์พฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งคดีแล้วเห็นว่า โดยทางไต่สวนไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 เป็นแกนนำการชุมนุม ไม่ปรากฎข้อเท็จจริงว่าขณะร่วมชุมนุม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 กระทำการใดอันเป็นการก่อความวุ่นวายอื่นอีก และไม่ปรากฎว่าเคยต้องโทษจำคุกมาก่อน เพื่อให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 กลับตนเป็นพลเมืองดี จึงเห็นสมควรให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 2 ปี และให้คุมความประพฤติโดยให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 3 เดือนต่อครั้ง ส่วนผู้ถูกกล่าวหาที่ 1-3 และที่ 5 มีพฤติการณ์เข้าร่วมชุมนุมโดยใช้ความรุนแรงอันเป็นการไม่นำพาต่อความสงบเรียบร้อยในสังคม จึงไม่มีเหตุรอการลงโทษแต่เพื่อมิให้มีประวัติต้องโทษจำคุก จึงให้เปลี่ยนโทษเป็นสั่งกักขังผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 โดย ผู้ถูกกล่าวหา 1-3 กำหนด 40 วัน ส่วนผู้ถูกกล่าวหาที่ 5 ให้กำหนด 2 เดือน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

งามไส้! คุก 2 เดือน 'ลูก รมต.' เมาขับฝ่าด่าน

นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยความคืบหน้าเรื่องนี้ว่า วันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา พนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลเเขวง 1

หมายจับมีผลบังคับใช้ เจอตัว 'บิ๊กโจ๊ก' รวบได้ทันที

หลังจากที่ศาลศาลอาญาอนุมัติออกหมายจับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ข้อหา สมคบกันกระทำความผิดฐานฟอกเงินและเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงินตามที่สมคบกัน หลังคณะพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล คดีเว็บพนันออนไลน์บีเอ็นเค

ลุ้น! 26 มี.ค.ศาลนัดพิพากษาคดี ’ทักษิณ’ ฟ้อง ‘ชวน’ หมิ่นประมาท ปมแก้ปัญหาชายแดนใต้

26 มีนาคม 67 นัด พิพากษา คดีอาญาที่ นายทักษิณ ชินวัตร ฟ้อง นายชวน หลีกภัย ข้อหาหมิ่นประมาท ต่อกรณีที่นายชวน หลีกภัย ได้บรรยายที่โรงเรียนการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อปี พ.ศ.2555 โดยได้กล่าวถึงนโยบายการแก้ปัญหาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในสมัยรัฐบาลทักษิณ

ศาลอาญาดีเดย์ต้น เม.ย.เปิดแผนคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

เม.ย.อธิบดีศาลอาญาเปิดเเผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีจัดผู้พิพากษาเชี่ยวชาญนั่งพิจารณาคดีบัญชีม้า เว็บพนันฉ้อโกงออนไลน์ทันท่วงที ต่อยอดการเป็นศาลดิจิทัลสืบพยานหลักฐานอิเล็กทรอนิกส์

คุกอ่วม 468 ปี 'อดีตพระอาจารย์คม' ยักยอกเงินวัดป่าธรรมคีรี กว่า 300 ล้าน

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถนนเลียบรางรถไฟ ศาลอ่านคำพิพากษา ในคดีที่พนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 1 ยื่นฟ้อง นายคมฯ หรือ พระอาจารย์คมอดีตเจ้าอาวาสวัดป่าธรรมคีรี กับพวกรวม9 คนเป็นจำเลย