เลื่อนไต่สวน 'บุ้ง-หยก' ละเมิดอำนาจศาล 22 ม.ค. 67

‘ทนายด่าง’ เผยศาลอาญาใต้เลื่อนไต่สวน ‘บุ้ง-หยก’ ละเมิดอำนาจศาล ไป 22 ม.ค. 67 นัดอ่านคำวินิจฉัย 26 ม.ค. วันเดียวกันอ่านคำสั่งถอนประกันตัวแกนนำทะลุวัง คดี 112

25 ธ.ค. 2566 – ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ เมื่อเวลา 11.40 น. ภายหลังออกจากห้องพิจารณาคดี นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ ให้สัมภาษณ์ถึงคดีละเมิดอำนาจศาลจากเหตุปะทะกับเจ้าพนักงานตำรวจศาลอาญากรุงเทพใต้ เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ที่ผ่านมาว่า คดีส่วนนี้นอกจาก น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ “บุ้ง ทะลุวัง” จะถูกฟ้องแล้ว ยังมีน้องหยก เยาวชนอายุ 15 ปี เป็นผู้ถูกฟ้องด้วย แต่ทราบมาว่าน้องหยกยังไม่ได้รับหมายศาล จึงไม่ได้เดินทางมาในวันนี้

ทั้งนี้ ศาลได้ใช้อำนาจตามกฎหมายในการไต่สวนพิจารณาคดีละเมิดอำนาจศาล ด้วยการไต่สวนลับหลังผู้ถูกฟ้องทั้งสองที่ไม่ได้เดินทางมาศาล ซึ่งตนได้ยื่นคัดค้าน เนื่องจากคดีละเมิดอำนาจศาลที่ทางผู้อำนวยการประจำศาลยื่นฟ้องนั้น มีโทษจำคุกอันกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของผู้ถูกฟ้อง อีกทั้งผู้ฟ้องทั้งสองนั้น คนหนึ่งมีอาการป่วยและมีใบรับรองแพทย์ ส่วนอีกคนยังไม่ได้รับหมายศาล จึงไม่เป็นธรรม หากจะมีการไต่สวนคดีลับหลัง

ด้วยเหตุนี้ ศาลจึงได้ปรึกษาคณะผู้บริหารและมีคำสั่งเลื่อนการไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาล เป็นวันที่ 22 ม.ค. 2567 เวลา 9.00 น. และจะมีการอ่านคำวินิจฉัย ในวันที่ 26 ม.ค. 2567 ซึ่งเป็นวันเดียวกันที่ศาลอ่านคำสั่งเพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราว น.ส.เนติพร และน.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ “ตะวัน” แกนนำกลุ่มทะลุวัง จำเลยในคดีมาตรา 112

นายกฤษฎางค์ กล่าวด้วยว่า ส่วนตัวมองว่าคดีละเมิดอำนาจศาลนั้น กรณีนี้ยังไม่เข้าข่ายกระทำความผิดฐานนี้ เเต่การกระทำอาจเป็นคดีอาญาอื่นๆ ที่ต้องไปเเจ้งความกันผ่านตำรวจ อัยการ เเละมองว่า ศาลไม่มีอำนาจพิจารณาในส่วนน้องหยก เพราะเนื่องจากน้องหยกยังเป็นเยาวชน จึงไม่สมควรที่จะได้รับการไต่สวนพิจารณาคดีในศาลผู้ใหญ่ จึงตั้งคำถามไปยังศาลยุติธรรมและคณาจารย์นิติศาสตร์ว่า สมควรแล้วหรือที่จะดำเนินคดีละเมิดอำนาจศาลกับเยาวชน โดยส่วนตัวมองว่าไม่สมควรและไม่ยุติธรรมอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม ขึ้นกับการพิจารณาของศาล ตนเป็นทนายความไม่มีอำนาจตรงนี้ตนเเสดงความเห็นในทางวิชาการ.