'เทพไท' ย้อนคำ 'เศรษฐา' กระทบชิ่งหลักสูตร มินิ วปอ.

10 ม.ค.2567 - นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “หลักสูตรอบรม สร้างอภิสิทธิ์ชน?” ระบุว่า ผมเป็นคนหนึ่ง ที่เคยผ่านอบรมหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร หรือ วปอ.รุ่นที่ 52 ในโควตาของรัฐบาล ซึ่งตอนนั้นผมเป็นโฆษกประจำตัวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้รับการอนุมัติจากสภาวิทยาลับป้องกันราชอาณาจักร ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นนายกสภาฯโดยตำแหน่ง

ผมเป็นนักการเมืองคนเดียว ที่เข้าเรียนหลักสูตร วปอ.ในรุ่น เพราะที่ผ่านมานักการเมืองจะไม่ได้รับการอนุมัติให้เข้าเรียน เพราะบางคนเรียนไม่ครบหลักสูตร ทิ้งไปกลางคัน เวลาเรียนไม่ครบบ้าง โดยมีข้ออ้างเรื่องการลงพื้นที่บ้าง ในบางปีติดการหาเสียงเลือกตั้งบ้าง ทำให้บุคคลอื่นที่อยากเรียนเสียโอกาส จึงตัดโควตานักการเมืองไป

ผมในฐานะที่เป็นศิษย์เก่าของ วปอ.คนหนึ่ง จึงขอแสดงความเห็นเกี่ยวกับการเปิดหลักสูตรมินิ วปอ.รุ่นแรก รวมทั้งการเปิดหลักสูตรพิเศษของหน่วยงานต่างๆ มากมาย ซึ่งผมได้เคยอภิปรายแสดงความเห็นไว้ ในสภาผู้แทนราษฎรมาแล้วว่า ผมไม่สนับสนุนให้หน่วยงานที่เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม และองค์กรอิสระ เปิดหลักสูตรอบรม เพื่อเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไป มาอบรมร่วมกับเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานนั้นๆ เพื่อสร้างคอนเน็กชั่นกัน ยิ่งสังคมไทยเป็นสังคมอุปถัมภ์ ปฎิเสธไม่ได้ว่า อาจมีการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เมื่อเปิดโอกาสให้พ่อค้า นักธุกิจมาพบกับเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ เรื่องกระบวนการยุติธรรม ลองคิดดูว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง

ผมไม่เห็นด้วยกับการที่หน่วยงาน เช่น คณะกรรมการเลือกตั้ง ศาลยุติธรรม ศาลปกครอง ปปช. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด ฯลฯ เปิดหลักสูตรให้บุคคลภายนอกมาอบรมร่วมกับข้าราชการในสังกัด ซึ่งอาจทำให้กระบวนการยุติธรรม เบี่ยงเบน บิดเบี้ยว ขาดความยุติธรรมได้

ตอนนี้มีการเปิดหลักสูตรอบรมพิเศษกันเกร่อ เหมือนกับเป็นแฟชั่นไปแล้ว ทุกหน่วยงานจะมีการเปิดอบรมหลักสูตรพิเศษ เช่น วตท. วพน. มหานคร ผู้นำเมือง รวมไปถึงหลักสูตรกระทรวงการต่างประเทศ ฯลฯ

ผมอยากให้การอบรมหลักสูตรพิเศษ เป็นหน้าที่ของสถาบันการศึกษา หรือสถาบันหลักในภาระกิจเฉพาะ เช่น สถาบันพระปกเกล้า อบรมหลักสูตรเกี่ยวกับการเมืองการปกครอง สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ หรือวิทยาลัยป้องกันอาณาจักร (วปอ.) เปิดอบรมหลักสูตรเกี่ยวกับด้านความมั่นคง น่าจะเพียงพอแล้ว

ตอนนี้เมื่อวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ได้เปิดหลักสูตรมินิ วปอ. หลักสูตร วปอ.มส. ขึ้นมาอีก ทำให้รู้สึกว่า เหมือนกับการแข่งขันกันเปิดหลักสูตรอบรม แย่งชิง ดึงลูกค้า หาคอนเน็กชั่นกัน ซึ่งคนที่ได้สิทธิ์เข้าอบรม ก็อยู่ในแวดวงกลุ่มคน ที่เคยผ่านหลักสูตรเหล่านี้มาแทบทั้งสิ้น เพราะมีการดึงเพื่อนร่วมรุ่นเข้าไปเรียนหลักสูตรด้วยกัน ซึ่งบางคนเข้าอบรมเกือบทุกหลักสูตรที่มีอยู่

สำหรับการเปิดหลักสูตร มินิ วปอ.ที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่ในขณะนี้ เมื่อดูรายชื่อผู้เข้าอบรมหลักสูตรมินิ วปอ.รุ่นแรกแล้ว พบว่าส่วนใหญ่เป็นประเภทลูกท่านหลานเธอ นักการเมือง หรือคนในตระกูลดังทั้งสิ้น

ผมเห็นด้วยกับคำพูดและความคิด ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่เคยกล่าวไว้ในพิธีเปิดหลักสูตร วปอ.ว่า เป็นหลักสูตรอภิสิทธิ์ชน สร้างคอนเน็กชั่น ซึ่งเมื่อท่านไว้พูดแล้ว ก็ควรแก้ไขไม่ใช่ส่งเสริมให้มีการเปิดหลักสูตรสร้างคอนเน็กชั่นเพิ่มขึ้นมาอีก มิฉะนั้นจะถูกสังคมนินทาได้ว่า นายกรัฐมนตรีเป็นคนปากว่าตาขยิบ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลเตรียมส่งสภาฯ ถกงบฯ 68 ต้น มิ.ย. สมัยวิสามัญ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 รัฐบาลมีความพร้อมใช่หรือไม่ ว่า

นายกฯรับไม่ทราบขั้นตอน 'กฤษฎีกา' ให้ศาลรธน.ชี้ขาดคุนสมบัติ 'พิชิต' ยันทุกอย่างเป็นไปตามกม.

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าพรรคเพื่อไทยเพื่อร่วมกิจกรรม "10 เดือนที่ไม่ต้องรอ ทำต่อให้เต็ม 10" ซึ่งจะมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ. ในนามพรรคเพื่อไทย

'เศรษฐา' จ่อจัดรายการ 'นายกฯพบประชาชน' อยากสื่อสารกับปชช.สม่ำเสมอ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเตรียมจัดรายการนายกฯพบประชาชน ว่า ตนไม่แน่ใจว่าจะใช้ชื่อรายการว่าอะไร

นายกฯซวยแล้ว! ภาคปชช.อ้างคำวินิจฉัยกฤษฎีกาคุณสมบัติ 'ทนายถุงขนม' ยื่นป.ป.ช.เอาผิด

สืบเนื่องจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขอให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาให้ความเห็นในปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของรัฐมนตรี เฉพาะตามมาตรา 160(6) ประกอบกับมาตรา 98 (7) และมาตรา 160 (7) ของรัฐธรรมนูญ