ก้าวไกลสู้ก็ตาย แต่ได้เกิดใหม่ ยิ่งใหญ่และมีค่ากว่า

“จตุพร”ประเมินมรสุมการเมืองพรรคก้าวไกล ชี้สู้ก็ตาย ไม่สู้ก็ตาย หากสู้จะตายแล้วเกิดใหม่ยิ่งใหญ่กว่า ถ้าไม่สู้ก็ตายอย่างสมเพชเวทนา

4 ก.พ. 2567 – นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์โดยประเมินอนาคตทางการเมืองของพรรคก้าวไกลในสถานการณ์ถูกรุมยื่นยุบพรรคกรณีแก้ไข ม.112 ว่า มีเพียงทางเลือกคือ สู้กับไม่สู้ และตายกับตาย ถ้าสู้แม้ตาย แต่ได้เกิดใหม่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม หากไม่สู้ก็ตายอย่างสมเพชเวทนา พร้อมท้ารัฐบาลเพื่อไทยเมื่อมั่นใจโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ควรกล้าลงมือทำ อย่าเอาผลศึกษาของ ปปช.มาอ้างถ่วงเวลาแจกเงินกับประชาชน

นายจตุพร ย้ำว่า ทั้งที่เกิดการสงสัยกันไปทั่วเมืองว่ามีคนอยู่ชั้น 14 จริงหรือไม่ แต่หลัง 18 ก.พ. นี้จะเห็นคนนี้ได้กลับบ้าน แล้วจากนั้นจะมีการปฏิบัติตามดีลโดยนายเศรษฐา ทวีสิน ต้องพ้นนายกฯ หรือไม่ อีกอย่างคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ตั้งคนคณะกรรมการชุด “สุภา ปิยะจิตติ” เป็นประธานศึกษาโครงการดิจิทัลวอลเล็ต โดยไม่ได้มาจากคำสั่งของรัฐบาล ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องรายงานผลการศึกษาต่อรัฐบาล หากต้องการจริงรัฐบาลควรทำหนังสือขอผลการศึกษาก็สิ้นเรื่อง

“รัฐบาลยังไม่ได้ลงมือทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเลย หากรัฐบาลทำจริง คาดว่า ปปช.จะส่งหนังสือมาเตือน เหมือนเคยเตือนกรณีโครงการจำข้าว (ในสมัยอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) และเสนอให้หยุดการกระทำ เพราะสร้างความเสียหายต่อประเทศ จนเป็นคดีทำให้รัฐมนตรีและข้าราชการติดคุกกันหลายคน”

พร้อมระบุว่า ถ้ารัฐบาลกล้าทำโครงการดิจิทัลแล้ว จะไปสนใจทำไมกับ ปปช. ศึกษาการแจกเงินดิจิทัลทำไม เมื่ออยากกู้เงิน 5 แสนล้านบาท ก็กู้เลย อีกทั้งทำไมพรรคร่วมรัฐบาลจึงเงียบกับงบประมาณ 2567 ที่จะรอใช้ใน พ.ค.นี้ ซึ่งเป็นสิ่งผิดปกติอย่างยิ่ง เพราะนายเศรษฐา บริหารบ้านเมือง แต่ไม่มีงบประมาณให้ใช้จ่าย ถึงที่สุดถ้าไม่ไปตามสัญญาที่ดีลกันไว้แล้ว จะเห็นการล้างบางทางการเมืองยกใหญ่อีกรอบแน่

นายจตุพร กล่าวว่า ขณะนี้ที่รัฐบาลอ้างว่ารอเอกสารจาก ปปช.อยู่ แต่มีความสงสัยว่า ได้ขอ ปปช.แล้วหรือยัง ขณะเดียวกัน รัฐบาลยังไม่ตัดสินใจเริ่มทำโครงการดิจิทัลเลย ถ้าลงมือทำแล้ว คำเตือนจาก ปปช.จะมาทันที ยกเว้นว่า ได้ทำหนังสือไปถึง ปปช.เพื่อขอคำแนะนำว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ แล้วเมื่อไม่ได้ขอเอกสาร แล้วจะมารอเอกสารได้อย่างไร และ ปปช.ศึกษาก็ไม่ได้บอกว่าจะส่งให้รัฐบาลเลย

“ตามที่ได้ข่าวมาว่า เรื่องดิจิทัลจะเป็นทางลงของนายเศรษฐา โดยจะออก พรก.กู้เงิน เมื่อเสนอเข้า ครม.คงไม่มีพรรคร่วมรัฐบาลเอาด้วยแน่ ดังนั้น นายกฯ จึงต้องประกาศลาออกเพื่อเป็นทางลงเพราะไม่ได้ทำดิจิทัลวอลเล็ต”

อีกทั้งกล่าวว่า เหตุการณ์พรรคเพื่อไทยตระบัดสัตย์ การเสนอโครงการดิจิทัลก็ทำไม่ได้ รถไฟฟ้า 20 บาทก็ได้เพียง 2 สายและค่าแรงขั้นต่ำขึ้นมา 2 บาท ทั้งหมดนี้เป็นสัญญาการเมือง แต่ทำไม่ได้่ตามสัญญาสักเรื่อง แล้วยังกล้าทำดีลเพื่อเอาประโยชน์จากการเป็นรัฐบาลและคนชั้น 14 กลับบ้านไม่ยอมติดคุกสักวัน ดังนั้น เหตุการณ์เหล่านี้จะนำไปสู่การถูกล้มกระดานกันได้ง่ายๆ

นายจตุพร กล่าวว่า หากพรรคก้าวไกลถูกยุบพรรค แล้วมีเลือกตั้งใหม่ ก้าวไกลจะได้รับเลือกจำนวนมาก แม้มีความพยายามจะเล่นงาน 44 สส.เรื่องจริยธรรมนักการเมือง แต่ผิดจริยธรรมอย่างไรกัน เมื่อเสนอขอแก้ไขกฎหมายในสภา และทำก่อนจะมีคำวินิจฉัยของศาล รธน.จะออกมาเสียอีก ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลเรื่องผิดจริยธรรมเลย

“ถ้าจะเล่นงานก้าวไกลก็ทำเลย และจะบอกว่าพรรคนี้เล่นการเมืองไม่ได้ติดยึดกับคน และไม่ได้จัดตั้งคนแบบเดิมกันแล้ว แต่เป็นการจัดตั้งทางความคิด ซึ่งพรรคอื่่นจะสู้อะไรกับเขาได้ ดังนั้น สิ่งที่จะเห็นกันโดยเริ่มจากการแพ้ สว.ให้ก้าวไกลก่อน จากนั้นก็เสียการเลือกตั้งท้องถิ่น เมื่อไปถึงเลือกตั้งใหญ่จะทนได้เหรอ เมื่อทนไม่ได้ก็ล้มกระดานเขาอีก ดังนั้นถ้าคิดจะสู้กับก้าวไกลต้องสู้ให้เป็น”

นายจตุพร กล่าวว่า ก้าวไกลมีทางเลือกเพียงสู้ก็ตาย ไม่สู้ก็ตาย ถ้าสู้แล้วตายจะได้เกิดใหม่ที่ใหญ่กว่า หากไม่สู้แล้วตายย่อมทำให้สมเพชเวทนากันเปล่าๆ

นายจตุพร กล่าวถึงช่วงติดคุกแล้วมีผู้ใหญ่ทางอำนาจไปพบในคุกว่า คนติดคุกไม่สามารถเลือกได้ว่าจะพบใคร และใครมาพบก็ต้องพบ แต่การพบของตนไม่ได้พูดคุยตกลงดีลเพื่อออกจากคุกแลกกับการเปลี่ยนจุดยืน ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ทำไมตนจึงต้องติดคุกซ้ำอีกหลายรอบ และยังจะถูกยึดบ้านจากคดีทางการเมือง อีกอย่างคนไปพบไม่ได้มีตนคนเดียว ยังไปพบนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ด้วย แล้วทำไมไม่ถูกกล่าวหายอมแลกสลายเสื้อแดงกับไม่ต้องติดคุก

“ถ้าผมดีล ผมก็ต้องรอดจากการติดคุกในคดีเดิมสิ อีกทั้งมีคดีฟ้องร้องถึง 3 คน ทั้งนายณัฐวุฒิและก่อแก้ว พิกุลทอง ด้วย แต่พวกนั้นรอดหมด มีผมคนเดียวที่ต้องติดคุกอีก แบบนี้เป็นการดีลกันเหรอ ที่เล่าให้ฟังเพราะไม่สนใจใครเลย ใครอยากมีราคาก็ว่ากันไป ส่วนนางแบกคำพกาเป็นโฆษกปากเสีย มากกว่าก่อเรื่องดีให้เพื่อไทยและรัฐบาล”

นายจตุพร กล่าวว่า เรื่องทางการเมืองยังมีอีกมากมาย ใครที่บอกว่าเคลียร์กันได้แล้วครบถ้วน และประเทศอยู่ในมือเราแล้ว แต่ที่ผ่านประเทศอยู่ในมือก็ทำฉิบหายมาตลอดมิใช่เหรอ และที่สำคัญคือ การดีลโดยตัวเองได้ประโยชน์ แต่ประเทศเสียหายเป็นวงกว้าง ย่อมจะนำไปสู่สถานการณ์ไม่คาดฝันในอนาคต

“ถ้าคิดถึงวันที่ได้ วันนี้ก็ไม่เห็นว่าจะได้อะไรสักเรื่อง กลับบ้านไม่ติดคุกสักวัน แลกกับการถูกประจานทุกวัน ได้เป็นนายกฯ เป็นรัฐบาลก็ไม่มีงบประมาณใช้สักบาท จึงไม่เห็นว่ายังจะได้อะไรเลยนอกจากความสมเพชเวทนาเท่านั้นเอง”

นายจตุพร กล่าวว่า ถ้าบ้านเมืองอยู่แบบนี้ อาจจบลงด้วยการยึดอำนาจเหมือนเดิม ทั้งที่เราหวังว่า เรื่องไม่ถูกต้องจะได้ชำระสะสางให้เกิดประชาธิปไตยแท้จริงสักวันในชีวิต และประเทศได้จัดความสมดุล ความเท่าเทียม ความเสมอภาคในทุกมิติ อะไรที่ไม่ถูกต้องควรถูกจัดการให้สิ้น โดยทำความจริงให้ปรากฎ แม้จะเป็นเรื่องของโจรปล้นโจรก็ตาม ต้องทำให้รู้ความจริง อย่าเอาโจรมาฟอกโจร บ้านเมืองจะไม่ได้อะไร ซ้ำร้ายข้าราชการก็ยังทุจริตกันตามเดิมอีก

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'รังสิมันต์'แนะ 3แนวทางแก้ปัญหาเมียนมา!

กมธ.ความมั่นคงเชิญหน่วยงานเกี่ยวข้องถกสถานการณ์เมียนมา 'โรม' ชี้ปัญหาในเมียนมาก็เป็นปัญหาของไทย เหตุคนหนีอพยพข้ามแดน ลั่นไทยอยู่ในฐานะที่น่าไว้วางใจที่สุด ควรเป็นตัวกลางในการเจรจา

'ชัยธวัช'ลุ้นศาลรัฐธรรมนูญขยายเวลาสู้คดียุบพรรคเพิ่มอีกรอบ!

'ชัยธวัช' ลุ้นศาล รธน.ขยายเวลาสู้คดียุบพรรค มองเป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงต้องหาพยาน-หลักฐาน สู้อย่างเต็มที่ เชื่อปรากฎการณ์งูเห่าน้อยกว่า 'อนาคตใหม่' เหตุสถานการณ์ต่างกัน

'ก้าวไกล' หนุนแก้กฎหมายสกัดรัฐประหาร ลั่นกองทัพต้องอยู่ใต้รัฐบาลพลเรือน

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม มีข้อเสนอให้สภากลาโหมเห็นชอบร่างแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่…)

'ดร.อานนท์' ชงสูตรการเมืองทำลาย 'ก้าวไกล-ธนาธร' เชื่อยอมเจ็บเถิด จะได้จบ

ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์ (NIDA) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า