'สมช.' เข้าแจง 'กมธ.มั่นคงฯ' เพื่อรายงานการรับมือผลกระทบจากสถานการณ์สู้รบในเมียนมา ย้ำ 3 จุดยืน รักษาอธิปไตยไทย-ไม่ยินยอมให้ใช้ดินแดน-ดูแลผู้หนีภัยตามหลักมนุษยธรรมสากล
25 เม.ย. 2567 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในห้องประชุมคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐกิจการชายแดนยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ที่มีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นประธานได้รับฟังรายงาน จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
โดยนายฉัตรชัย บางชวด รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) แจงใน กมธ.ว่าสถานการณ์สู้รบในเมียนมายังคงมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง และกลุ่มชาติพันธ์มีการรวมตัวกัน ซึ่งกองทัพเมียนมายังมีข้อจำกัดในการสู้กับกลุ่มต่อต้าน ทำให้ในหลายพื้นที่อยู่ในอิทธิพลของกลุ่มต่อต้าน ซึ่งทางกองทัพเมียนมาร์อาจมีการตอบโต้เฉพาะจุดบางพื้นที่ ส่วนการสู้รบที่จะยกระดับกายระดับประเทศนั้น คิดว่ายังไม่เกิดสถานการณ์นั้นแต่จะเป็นการสู้รบในเฉพาะจุด และสถานการณ์บางเรื่องมีการพูดคุยและเจรจากันก็ทำให้สถานการณ์คลี่คลาย สำหรับผู้หนีภัยการสู้รบยังคงอพยพมาในจำนวนหนึ่ง แต่ปัจจุบันที่อำเภอแม่สอดได้เดินทางกลับหมดแล้ว เหลือที่อำเภออุ้มผางประมาณ 77 คน
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีได้ตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจ บริหารสถานการณ์เมียนมา โดยมีปานปรีย์ พหิทรานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธาน ซึ่งจะทำหน้าที่ติดตามสถานการณ์ในเมียนมา และเสนอแนะนโยบายแนวทางต่อรัฐบาลเพื่อดำเนินการ แต่ละหน่วยงานมีบทบาทที่ชัดเจน
สำหรับการเตรียมการกำหนดท่าทีของไทย 3 ประการ คือ 1. ความจำเป็นรักษาอธิปไตยของไทย หากมีการลุกล้ำต้องมีการพูดจา 2. ไม่ยินยอมให้ใช้ดินแดนของไทยในกรณีที่มีกลุ่มต่อต้านเข้ามาทำกิจกรรมในการต่อต้านรัฐบาลเมียนมา และ3. การดูแลผู้ที่หนีภัยจากความไม่สงบเมียนมาซึ่งเป็นหลักการที่ไทยได้ทำมาตลอดตามหลักมนุษยชน
นอกจากนี้ ยังมีการจัดเตรียมพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวสำหรับการรองรับผู้ที่หนีภัย โดยมีการคัดกรองตามหลักระเบียบและมนุษยธรรม โดยมีทางจังหวัดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประสานความช่วยเหลือจากทุกฝ่ายในบางเรื่อง และเปิดรับการช่วยเหลือจากองค์กรที่เกี่ยวข้องภายใต้เงื่อนไขตามระเบียบ และเมื่อถึงจุดหนึ่งหากสถานการณ์สงบจะมีการยึดหลักความสมัครใจให้แก่ผู้ที่ต้องการเดินทางกลับ ซึ่งบริบทจะแตกต่างจากอดีตที่มีคนตกค้างในประเทศไทย แต่ในปัจจุบันพื้นที่ในชายแดน หลังจากนี้จะรายงานต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
ทั้งนี้ มีรายงานว่า สมช.ได้แจ้งต่อที่ประชุมกรรมาธิการว่าจะมีการขออนุมัติงบกลางจากนายกรัฐมนตรี เพื่อนำมาดำเนินการช่วยเหลือดูแลด้านสิทธิมนุษยชนในสถานการณ์ ที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบเมียนมา และมีผู้อพยพเข้ามาในชายแดนไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จบข่าว! สมช.ยันไม่มีแนวคิดขยายพื้นที่ พ.ร.ก.ฉุกเฉินน้ำท่วมใต้
เลขา สมช. ยังไม่มีแนวคิดขยายพื้นที่ประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน น้ำท่วมใต้ บอก ใช้แค่สงขลา จว.อื่นใช้กฎหมาย ปภ.ได้อยู่ ระบุ ถ้าสถานการณ์ปกติยกเลิกได้ก่อน 3 เดือน
ครม. เห็นชอบต่อใบอนุญาตทำงานให้คนต่างด้าว 3 สัญชาติ
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการต่ออายุใบอนุญาตทำงานให้กับคนต่างด้าว 3 สัญชาติ
ทหารยกระดับคุมเข้มชายแดนไทย-เมียนมา ป้องรุกล้ำอธิปไตย
ทหารไทยหน่วยเฉพาะกิจรามนู กองกำลังนเรศวร พร้อมอาวุธปืนหนัก-รถยานเกราะ นำกำลังพลออกลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา และวางกำลังตามจุดล่อแหลม
ทหารเมียนมาเปลี่ยนจุดบึ้ม 'เคเคปาร์ค' ส่วนตึก 5 ชั้นเอียงใกล้ถล่ม
ทหารเมียนมาร่วมกับกะเหรี่ยงกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF.) พันธมิตรของทหารเมียนมา ยังคงเดินหน้าวางระเบิดทำลายอาคาร สำนักงานในพื้นที่เมืองเอ่งจี่เหมี่ยง
ขีดเส้นใต้ 100 รอบ! 'อนุทิน' ประกาศระงับข้อตกลงสันติภาพไปจนกว่า 'กองทัพไทย' จะเห็นกัมพูชาไร้ความเป็นปฏิปักษ์
นายกฯ ลั่นระงับปฏิญญาสันติภาพไทย-กัมพูชา จนกว่ากองทัพไทยจะเห็นเขมรไม่เป็นปฏิปักษ์ พร้อมทำในสิ่งที่คิดว่าสมควรจะทำ ยันไทยไม่มีระเบิดแบบนั้น
‘ไชยชนก’ แย้มวงถกสมช.วันนี้มีข่าวดีแน่ นายกฯไม่ทำให้คนไทยผิดหวัง
ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำเนียบรัฐบาล นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวก่อนก


