'ประภัตร' เผย นายกฯ สั่งแก้ปัญหาเนื้อหมูแพงด่วน เตรียมให้หยุดส่งออกเพื่อให้ปริมาณเพียงพอความต้องการในประเทศ พร้อมให้ผลิตลูกหมูขุนเพิ่มคาด 4 เดือนกลับมาปกติ
05 ม.ค.2564 - นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้หารือการแก้ไขปัญหาราคาเนื้อสุกรในประเทศปรับสูงขึ้น กับนายสัตวแพทย์ชัยวัฒน์ โยธคล รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ ตัวแทนจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม โดยนายประภัตรกล่าวภายหลังหารือ ว่าอุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรภายในประเทศปี 2563 – 2564 มีผู้ประกอบการรวม 190,000 ราย สามารถผลิตสุกรประมาณ 20 ล้านตัว/ปี ประมาณ 10,000 ราย เป็นผู้ประกอบการขนาดกลางและใหญ่ มีปริมาณสุกรมากกว่า 10 ล้านตัว และอีก 180,000 ราย เป็นเลี้ยงสุกรรายเล็ก รายย่อย โดยเมื่อปี 2563 - 2564 ประเทศเพื่อนบ้านโดยรอบเกิดโรคระบาดในสุกร โดยเฉพาะโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ทำให้ไทยต้องใช้มาตรการเข้มข้นในการควบคุมและป้องกันการระบาดของโรค ประกอบกับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ทำให้ความต้องการบริโภคเนื้อสุกรลดลง ในขณะที่ต้นทุนอาหารสัตว์ เวชภัณฑ์ ยารักษาโรคในสุกรปรับสูงขึ้น เกษตรกรจำนวนหนึ่งจึงปรับแผนลดการผลิตสุกรขุนลง ส่งผลให้ปริมาณสุกรในประเทศลดลง ในขณะที่ปี 2564 ถึงปัจจุบัน รัฐบาลไทยสามารถควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถควบคุม ยับยั้งการระบาดของโรคในสุกรได้อย่างดีเยี่ยม ส่งผลให้สุกรไทยเป็นที่ต้องการมากขึ้นในประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ราคาเนื้อหมูสดภายในประเทศปรับราคาสูงขึ้น
นายประภัตร กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ราคาเนื้อสุกรภายในประเทศ จึงได้สั่งการมายังกระทรวงเกษตรฯ ให้เร่งติดตามและแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน ทั้งในระยะสั้น เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน และในระยะกลาง - ยาว เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ผู้ประกอบการที่เลี้ยงสุกรทุกขนาด ให้กลับมาประกอบอาชีพ สามารถสร้างงาน สร้างรายได้ในครัวเรือน และสร้างความมั่นคงด้านอาหารให้กับประเทศ โดยในฐานะที่กำกับดูแลกรมปศุสัตว์ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกระทรวงเกษตรฯ เร่งหารือร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อที่จะหยุดการส่งออกสุกรในทันที เพื่อให้มีปริมาณสุกรอยู่ในประเทศเพียงพอต่อความต้องการ
นายประภัตร กล่าวว่า สำหรับในระยะกลาง - ยาว นั้น กรมปศุสัตว์จะเริ่มส่งเสริมเกษตรกรรายเล็ก และรายย่อยเดิม ในพื้นที่ที่มีความเหมาะสม โดยขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการขนาดใหญ่ให้ผลิตลูกหมูเพิ่ม เพื่อส่งให้เกษตรกรรายเล็กและรายย่อยเลี้ยง โดยจะใช้เงินทุนจากธนาคาร ธ.ก.ส. ภายใต้โครงการสานฝันสร้างอาชีพ ยกระดับรายได้เกษตรกรเข้ามาสนับสนุน เพื่อใช้เป็นต้นทุนในการดำเนินการ โดยคาดว่าภายใน 4 เดือน จำนวนสุกรขุนจะเพิ่มขึ้น และราคาจะปรับเข้าสู่ภาวะปกติ นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรฯ ยังเตรียมหารือมาตรการลดต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์จากต่างประเทศ ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร และจะส่งเสริมการปลูกข้าวโพดมาเป็นพืชอาหารสัตว์ให้มีปริมาณเพิ่มขึ้น เนื่องจากในอุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์ประเทศไทยมีความต้องการใช้ถึงปีละ 8 ล้านตัน แต่มีกำลังการผลิตเพียง4 ล้านตัน/ต่อปี
“ได้สั่งการให้กรมปศุสัตว์เร่งเตรียมการสำรวจพื้นที่ที่มีความเหมาะสม และมีความเสี่ยงจากโรคระบาด เพื่อกำหนดเป็นพื้นที่ในการผลักดันปศุสัตว์ Sandbox หรือเขตพื้นที่ควบคุมพิเศษ ส่งเสริมการนำเข้า การผลิต–ส่งออกสินค้าปศุสัตว์ ตามโยบายของนายกฯ โดยด่วน”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เศรษฐา' เตรียมจ้อ 'นายกฯพบประชาชน' เดือนละครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เตรียมจัดรายการ “นายกฯพบประชาชน” ซึ่งจะจัดเดือนละ 1 ครั้งในวันเสาร์ เพื่อสื่อสารการทำงานของรัฐบาล และพูดคุยกับประชาชน
‘พิชิต’คอพาดเขียง! กฤษฎีกาโยนศาลรธน.ชี้ขาด‘ความซื่อสัตย์-ผิดจริยธรรม’
รมต.ใหม่ตรวจโควิดก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ฯ วันศุกร์ "พิชัย" ขึ้นตึกบัญชาการ ห้องทำงานรองนายกฯ
'หมอนทองเขาบรรทัด' สินค้า GI รายการที่ 3 ของตราด
รัฐบาลมุ่งเพิ่มมูลค่าสินค้าท้องถิ่นไทย ขึ้นทะเบียนทุเรียนหมอนทองเขาบรรทัด เป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ จังหวัดตราด เพื่อความเชื่อมั่นคุณภาพสินค้า ยกระดับรายได้ชุมชน
'ชัย' ร่ายยิบภารกิจ 'เศรษฐา' ทัวร์ 'มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด'
นายกฯ เตรียมตรวจราชการ จ.มหาสารคาม - ร้อยเอ็ด ติดตามปัญหายาเสพติด หนี้นอกระบบ พร้อมรับฟังปัญหา พบปะประชาชน 5 - 6 พ.ค.นี้
รัฐมนตรีป้ายแดงแห่ตรวจโควิดก่อนเข้าถวายสัตย์ฯ
รมต.ใหม่ตรวจโควิด ก่อนเข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯพรุ่งนี้ ขณะ 'พิชัย' ขึ้นตึกบัญชาการ ห้องทำงานรองนายกฯ บอกคุ้นเคยกับตึกนี้อยู่แล้ว