'เพื่อไทย-ก้าวไกล' จิกกันตามประสา 'ไก่คนละเล้า'

21 มิ.ย. 2567 – นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ “เพื่อไทย-ก้าวไกล : ไก่คนละเล้า???” โดยระบุว่า

บรรยากาศการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.รบ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ที่นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นอภิปรายตอบโต้นายชัยธวัช ตุลาธน ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ในประเด็นเจ๊งไม่ว่าเสียหน้าไม่ได้ ซึ่งนายดนุพรได้โต้กลับในลักษณะเหน็บแนม เย้ยหยัน เรื่องการที่ศาลรัฐธรรมนูญจะยุบพรรคก้าวไกลว่า เป็นการเจ๊งที่แท้จริง ซึ่งไม่มี สส.พรรคก้าวไกลคนใดลุกขึ้นโต้ตอบในทันทีทันควันเลย จะมีแค่ น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ รองโฆษกพรรคก้าวไกล ออกมาตอบโต้นอกห้องประชุม ซึ่งทำให้ไม่สามารถเอาคืนได้ในทันท่วงที ซึ่งโดยปกติของการอภิปราย ถ้าเป็นเรื่องที่อภิปรายกันในสภา ก็ตอบโต้ในสภา ถ้าเป็นเรื่องนอกสภาก็ตอบโต้กันนอกสภา ไม่นิยมนำเข้าไปตอบโต้กันในห้องประชุมสภา

เมื่อเกิดเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาแบบนี้ จนอาจารย์ปิยบุตร แสงกนกกุล ต้องออกมาโพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเห็น ข้อความว่า “นักการเมืองไม่ควรทำตนเป็น “ไก่ในเล้า” ตีกันในกรงขังทางกฎหมายที่พวก“ชนชั้นนำดั้งเดิม” สร้างเพื่อล้อมคอกนักการเมือง แทนที่จะสะใจ เยาะเย้ย ถากถาง กับพรรคที่อาจโดนยุบหรือพรรคที่โดนยุบ ควรร่วมกันต่อสู้เรื่องการยุบพรรคดีกว่า หยุดเอาใจ แสดงตนเป็นเด็กดี ของชนชั้นนำดั้งเดิม ทำในสิ่งที่ถูกต้อง”

ผมในฐานะเป็นนักการเมืองเคยอยู่ในสภามาก่อน ไม่มีส่วนได้เสียกับทั้ง 2 พรรคแต่อย่างใด ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาว่า ประเด็นการยุบพรรคนั้น ทั้ง 2 พรรค คือพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ต่างก็ประสบชะตากรรมการยุบพรรคมาก่อนเช่นเดียวกัน เพียงแต่พรรคไทยรักไทยถูกยุบ เพราะข้อหาจ้างพรรคเล็กลงสมัครรับเลือกตั้ง ตอนเป็นพรรคพลังประชาชน ก็ถูกยุบเพราะข้อหาซื้อเสียง ส่วนพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบเรื่องการยืมเงิน และตอนเป็นพรรคก้าวไกลก็โดนข้อหาการใช้มาตรา 112 หาเสียง ซึ่งเป็นจุดยืนและอุดมการณ์ของพรรค เมื่อเปรียบเทียบกับข้อหาที่โดนยุบ ของทั้ง 2 พรรคแล้ว สามารถพิจารณาได้ว่า พรรคใดโดนข้อหาที่น่าศรัทธามากกว่ากัน

ส่วนประเด็นเรื่องไก่ในเล้าเดียวกันนั้น ต้องยอมรับว่า เมื่อก่อนทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ต่างก็อยู่ในฝ่ายที่เรียกกันว่า ฝ่ายประชาธิปไตย แต่ตอนนี้พรรคเพื่อไทยได้กระโดดข้ามขั้วไปจับมือกับกลุ่มอนุรักษ์นิยมจัดตั้งรัฐบาลแล้ว แม้ว่าในอดีตจะเป็นไก่ในเล้าเดียวก็จริงอยู่ แต่ตอนนี้ถูกเถ้าแก่จับออกจากเล้าไปเลี้ยงดูในเล้าอื่นแล้ว เจอกันก็ต้องจิกกันเป็นเรื่องธรรมดาของไก่ ที่มีเถ้าแก่ใหญ่อุ้มถือหางอยู่.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นับถอยหลังคดีตากใบหมดอายุความ รัฐล้มเหลว จำเลยลอยนวล

นับถอยหลังจากวันพฤหัสบดีที่ 24 ต.ค. ก็เหลือเวลาอีกแค่ 2 วันเท่านั้น “คดีสลายการชุมนุมตากใบ” ซึ่งเกิดเหตุเมื่อ 25 ต.ค.2547 ในยุครัฐบาลทักษิณ ชินวัตร จะ "หมดอายุความ" แล้วในเวลาเที่ยงคืนวันศุกร์ที่ 25 ต.ค.นี้

'อดิศร' ลั่นเพื่อไทยโหวตคว่ำรายงานนิรโทษกรรม จะเอาหน้าไปไว้ไหน!

นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในช่วงเช้าวันที่ 24ต.ค. พรรคเพื่อไทยจะประชุมสส.ที่รัฐสภา ก่อนลงมติโหวตจะรับข้อสังเกตรายงานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษาแนว

24ตุลา..โหวตรายงานนิรโทษฯ ‘พท.’ระวังจับมือ‘ปชน.’ไม่รู้ตัว

สัปดาห์ที่ผ่านมา การประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีวาระพิจารณาค้างอยู่ คือ รายงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งมี “ชูศักดิ์ ศิรินิล” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย เป็นประธานคณะ กมธ.

เปิดขั้นตอน 'กกต.-ศาลรธน.' ก่อนเชือด"เพื่อไทย-พรรคร่วม"

เคราะห์ซ้ำกรรมซัดสำหรับ "พรรคเพื่อไทย" เข้ามาแบบไม่ให้เว้นวรรคได้พักกัน โดยล่าสุด นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีมีผู้มายื่นร้องขอให้พิจารณายุบพรรคเพื่อไทยและ 6 พรรคร่วมรัฐบาลเดิม

'อนุทิน' แกะบ่วงทิ้ง ใครก็ 'ครอบงำ' ภูมิใจไทยไม่ได้

“อนุทิน” ยัน ใครครอบงำ “ภท.” ไม่ได้  ย้ำทุกอย่างมาจากมติที่ประชุม หลัง กกต.รับคำร้องยุบ พท.- พรรคร่วม เผยดินเนอร์เย็นนี้ขึ้นอยู่กับ นายกฯ พิจารณา มั่นใจ ปม แก้รัฐธรรมนูญ-นิรโทษกรรม ไม่ใช่ชนวนความขัดแย้ง