'ษิทรา' เชื่อ มติ ก.ตร. สวนกฤษฎีกา เพราะหักดีล!

28 มิ.ย.2567 - นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เปิดเผยถึงกรณีที่ก่อนหน้านี้ไปยื่นหนังสือให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล หรือบิ๊กต่อ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เร่งรัดคดีที่ตนเองเคยแจ้งความบิ๊กต่อ และภรรยา ฐานสมคบกันฟอกเงินไว้ที่ สน.เตาปูน ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมาระบุว่า จนถึงวันนี้ยังไม่มีสัญญาณตอบรับเรื่องความคืบหน้าคดี ซึ่งส่วนตัวก็เชื่อว่าป่านนี้สำนวนคงถูกแช่แข็งไปแล้ว เพราะเป็นเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อน กรณีที่ ผบ.ตร. ถูกดำเนินคดี คงไม่มีลูกน้องกล้าทำงาน การไปยื่นหนังสือให้ ผบ.ตร. เร่งรัดคดี เมื่อวันที่่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา จึงเป็นการยื่นเชิงสัญลักษณ์เพื่อให้นายกรัฐมนตรีมองเห็นเท่านั้น

นายษิทรา กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ตนเรียกร้องมานานแล้ว ขอให้เปิดเผยผลการสอบของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ชุดที่มีนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน เนื่องจากมองว่าการแถลงข่าวของนายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ที่บอกเพียงว่ามีความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังไม่ชัดเจน และไม่ได้บอกว่าใครผิดถูก รวมถึงใคนฟอกเงินหรือได้รับผลประโยชน์จากเว็บพนันออนไลน์หรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนอยากรู้

นอกจากนี้ หากผลการสอบพบว่าบิ๊กต่อ มีส่วนพัวพัน แต่นายกฯ ให้บิ๊กต่อ กลับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายกฯ ก็อาจจะมีความผิดจริยธรรมร้ายแรง ซึ่งหากผลสอบออกมาแล้วพบว่านายกฯ เข้าข่ายผิด นายษิทรา บอกว่า ตนเองก็จะไปร้อง ป.ป.ช. ด้วย

โดยหากจะบอกว่าคณะกรรมการชุดนี้มีขอบข่ายเพียงแค่ตรวจสอบเรื่องความขัดแย้งเท่านั้น นายษิทรา ก็มองว่า การตรวจสอบควรจะดูด้วยว่าข้อเท็จจริงมีหลักฐานไปถึงหรือไม่ ไม่ใช่สอบเพียงว่าทะเลาะกันหรือไม่ และควรนำผลออกมาให้ประชาชนทราบ เพราะการตรวจสอบใช้เวลา 3-4 เดือน แต่ผลออกมามีเนื้อหาแค่เรื่องทะเลาะกัน ซึ่งใครๆ ก็รู้อยู่แล้ว

ส่วนกรณีมติ ก.ตร. ชุดใหญ่ ที่เห็นชอบอนุกรรมการวินัย ว่าคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือบิ๊กโจ๊ก ออกจากราชการไว้ก่อนชอบด้วยกฎหมายแล้ว นายษิทรา มองว่า เป็นมติที่สวนทางกับคณะกรรมการกฤษฎีกา สะท้อนว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกฎหมาย 2 หน่วยงานให้ความเห็นไม่ตรงกัน ลักลั่นกันสองมาตรฐาน พร้อมตั้งคำถามว่า เป็นไปได้อย่างไรที่กฎหมายฉบับเดียวกันจะตีความไม่เหมือนกัน หรือเป็นตีความลักษณะว่าใครเป็นพวกใคร

ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์เมื่อวาน กรณีคำสั่งให้บิ๊กโจ๊ก ออกจากราชการไว้ก่อน ให้รอผลการพิจารณาของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) ที่คาดว่าจะทราบผลภายใน 30 วันนั้น นายษิทรา กล่าวว่าหากผลออกมาภายใน 30 วันจริงก็พอรับได้ แต่หากเกินจากนี้หรือขยายไปเรื่อยๆ ก็เหมือนกับการดึงเวลาไป ทั้งนี้ดูทิศทางผล ก.ตร. น่าจะมีการหักดีลกันเกิดขึ้น โดยก่อนหน้านี้ที่มีกระแสข่าวว่า “บิ๊กต่อ” จะลาออก

เมื่อถามว่าถ้าตามดีลคือต้องเอาบิ๊กโจ๊ก กลับมาก่อน โดยนายษิทรา กล่าวว่า ไม่ระบุว่าเป็นดีลที่ใครคุยกับใคร แต่บอกว่า ตำรวจระดับสูงก็รู้กันหมด ซึ่งถ้าไม่ได้ทำตามที่ตกลงก็เป็นเรื่องของเขา ตนไม่ได้ไปร่วมดีลด้วย มติที่ออกมาสะท้อนว่ามีคนโดนหลอก แต่ว่าไม่เกี่ยวกับตน เพราะตอนนี้ก็ยังแฉอยู่

ผู้สื่อข่าวถามว่าก่อนหน้านี้ที่มีกระแสข่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ หรือบิ๊กต่ายอดีตรักษาราชการแทน ผบ.ตร. จะไปเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย นายษิทรา บอกว่า ไม่สำเร็จแล้ว เพราะว่าบิ๊กต่ายไม่โอเค ทำให้เรื่องนี้จบไป ส่วนบิ๊กต่อก็มีรายงานข่าวว่าจะไปรับตำแหน่งที่สูงกว่านั้น

ถามว่ามองอย่างไรที่กระแสข่าวตอนนี้มีเรื่องของการดีลกัน แต่เนื้อคดีเงียบหายไป นายษิทรา ทำให้ประเทศชาติเสียหมด เพราะเป็นการตกลงผลประโยชน์ให้ลงตัว สมประโยชน์กันของผู้บริหารระดับสูงและผู้มีอำนาจ แต่ไม่ได้คิดเรื่องข้อกฎหมายและความยุติธรรม

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บิ๊กอ้อ' ลุยปราจีนฯ คุมสางคดีฆ่า 'สจ.โต้ง' มั่นใจหลักฐานพอ ไม่พึ่งวงจรปิด

'บิ๊กอ้อ' บินสางปมยิง 'สจ.โต้ง ปราจีน' เชื่อชนวนเหตุสังหารจากการเมืองท้องถิ่น มั่นใจหลักฐานเพียงพอ แม้วงจรปิดที่เกิดเหตุเสีย

ตร.พร้อมสอบทุกมิติคดีพินัยกรรมเจ๊อ้อย เผยหาก 'ษิทรา' ไม่มีทนายสามารถซักค้านเองได้

ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสว่าจะมีตัวแทนรับมอบอำนาจจาก น.ส.จตุ

‘ก.ตร.เอก’ เตือนผู้มีอำนาจ ตั้ง ‘รองผบช.-ผบก.’ 116 เก้าอี้ ยึดกฎระเบียบ ฝ่าฝืนโทษวินัย-อาญา

พล.ต.อ.เอก แจงยิบการแต่งตั้ง รอง ผบช.จำนวน 41 ผบก.75  ตำแหน่ง เตือนผู้มีอำนาจแต่งตั้งทุกระดับ ทั้งโทษวินัยและอาญา

'เมียตั้ม ษิทรา' ร่ำไห้ ศาลไม่ให้ประกัน ยกเหตุผลสืบสวนยังไม่เสร็จสิ้น

ที่ห้องพิจารณาคดี 809 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ที่ นายอาคม คงสวัสดิ์ ทนายความของนางปทิตตา

หนุ่มขับรถขโมยท่อน้ำเทศบาล พลเมืองดีช่วยกันจับได้ทัน

พ.ต.ท.ดำรงค์ สุชชูศรี สารวัตรสอบสวน สภ.บางแก้ว รับแจ้งเหตุมีโจรขโมยตัดท่อสูบน้ำเหล็กที่ต่อไว้กับท่อยางของเทศบาลเมืองบางแก้ว