"สุทิน" ยังไม่เซ็นลงนามเปลี่ยนสัญญาซื้อเรือดำน้ำ รอคุยเลขาฯกฤษฎีกา พรุ่งนี้ ยอมรับกังวลข้อกฎหมายเสี่ยงถูกฟ้อง ปัดตอบชง ครม.ทัน ก.ค.นี้หรือไม่
15 ก.ค.2567 - นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ ว่า ตนเองยังไม่ได้มีการเซ็นลงนามเปลี่ยนสัญญาการจัดซื้อเรือดำน้ำและยังไม่ได้มีการส่งนายกรัฐมนตรี แต่ได้เซ็นยอมรับผลการศึกษา ซึ่งในเรื่องนี้จะมีการเร่งรัด และในสัปดาห์นี้จะมีการพูดคุยกับทางเลขากฤษฎีกา โดย พรุ่งนี้ (16ก.ค.67) จะมีโอกาสได้เจอกันในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี แม้ก่อนหน้านี้ทางกองทัพเรือได้มีการหารือไปแล้ว แต่เพื่อความชัดเจนจะต้องพูดคุยกันอีกครั้ง ซึ่งเมื่อได้รับความชัดเจนจากกฤษฎีกาแล้ว ก็จะมีการนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรี
ส่วนยังติดปัญหาอะไรจึงต้องมีการหารือกับทางกฤษฎีกาอีกครั้งนั้น นายสุทิน ระบุว่าไม่ได้ติดอะไรเพียงแต่ในข้อกฎหมายสามารถดำเนินการได้หรือไม่ จึงอยากได้รับความมั่นใจทางกฤษฎีกาเท่านั้น โดยก่อนหน้านี้ได้มีการตอบมาแล้ว แต่ตอบกว้างไปนิด
เมื่อถามย้ำว่าหากกฤษฎีกาตอบมาแล้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะเป็นลงนามก่อน เสนอนายกรัฐมนตรี หรือให้นายกฯรัฐมนตรีนำเข้าที่ประชุม ครม.ก่อน ถึงจะมีการเซ็นลงนามการเปลี่ยนสัญญาซื้อเรือดำน้ำ นายสุทิน ระบุว่า ตามขั้นตอนแล้ว ทางกองทัพเรือ ในฐานะผู้บริหารสัญญาจะนำเรื่องเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อเซ็นลงนามก่อนเสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี
เมื่อถามย้ำว่าตอนนี้ขึ้นอยู่กับคณะทำงานของนายกรัฐมนตรี ที่มีนายจักรพงศ์ แสงมณี รัฐมนตรี ประจำสำนักงานนายกรัฐมนตรี ด้วย นายสุทินกล่าวว่าคณะทำงานของนายกรัฐมนตรีมีหลายคนโดยนายจักรพงศ์ ซึ่งเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็จะดูแลคณะกรรมการฯ
ส่วนกระบวนการทั้งหมดจะจบภายในเดือนกรกฎาคมนี้หรือไม่ นายสุทิน ระบุว่า อยู่กับกฤษฎีกา หากบอกว่าทุกอย่างที่ทำมาสมบูรณ์แล้วเดินหน้าได้ ไม่มีปัญหา ปฏิบัติได้ก็จบเร็วขึ้น แต่ถ้ากฤษฎีกา มีข้อท้วงติง และจะต้องไปดำเนินการอะไรเพิ่มเติม ก็จำเป็นต้องใช้เวลาเพิ่ม
เมื่อถามว่าทางเลขากฤษฎีกาเคยบอกว่าการจัดซื้อเรือดำน้ำก็เหมือนการจัดซื้อจัดจ้างทั่วไป สามารถดำเนินการได้ นายสุทิน กล่าวว่า ได้ฟังมาจากการให้สัมภาษณ์ของเลขากฤษฎีกา แต่ขอไปพูดคุยกันโดยตรงจะดีกว่าหากมีอะไรที่จะต้องซักถามในแง่มุมต่างๆที่มีการสงสัยก็จะจะได้ความชัดเจนที่สุด
เมื่อถามย้ำว่ายังค้างจ่ายเกี่ยวกับเรื่องของการเปลี่ยนเครื่องยนต์เรือดำน้ำว่าผิดหรือไม่ผิด หรือกลัวจะโดนฟ้องหรือไม่ นายสุทิน ระบุว่า ก็ไม่แน่ ว่าเป็นสาระสำคัญหรือไม่ เปลี่ยนแปลงได้หรือไม่ ซึ่งทางคณะทำงานได้มีการศึกษามาและได้คำตอบชัดเจนแล้วแต่เราก็ต้องฟังหน่วยงานทางกฎหมายของรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ผบ.ทสส.' สั่ง ศป.กฉ.ส่วนหน้า 8 ข้อ เร่งฟื้นฟู 'หาดใหญ่'
'ผบ.ทสส.' สั่ง ศป.กฉ.ส่วนหน้า 8 ข้อ จัดระเบียบ ‘ศูนย์พักพิง-การแพทย์’ เร่งเปิดระบบ ‘ไฟฟ้า-ประปา’ แจกถุงยังชีพ-อาหาร มาตรการ รปภ. เก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิต ตั้งจุดรวบรวมขยะ 4 พื้นที่ ย้ายยานพาหนะกีดขวาง
น้ำยังสูง! นาวิกโยธิน ส่งรถสะเทินน้ำสะเทินบก AWAV ลงพื้นที่สิงหนคร ลำเลียงอาหาร-น้ำดื่ม ช่วยปชช.
นาวิกโยธิน จัดชุดยานเกราะล้อยาง AWAV เข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่โรงเรียนบ้านบางไหน อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา ซึ่งยังคงมีน้ำท่วมสูง
ทร. ส่ง 'เรือหลวงอ่างทอง' ลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือชาวใต้ ถึงหาดใหญ่ 1 ธ.ค.
กองทัพเรือ ส่งเรือยกพลขึ้นบก “เรือหลวงอ่างทอง” ลำเลียงเครื่องอุปโภคบริโภคหลายตัน เร่งช่วยเหลือชีวิตชาวใต้ประสบอุทกภัย
กองทัพเรือโต้สนั่น! ยัน 'หน่วยซีลไม่ถูกจับตัวประกัน' เรียกค่าไถ่เขต 8 เป็นเฟคนิวส์
กองทัพเรือชี้กระแสข่าวจับซีลเรียกค่าไถ่ 40,000 บาทเป็นข้อมูลเท็จ เผยกำลังพลลงเขต 8 เพื่อช่วยผู้ประสบภัย ไม่ได้พกอาวุธติดตัว พร้อมย้ำภาพทหารถือปืนที่ถูกแชร์ในโซเชียลเป็นภาพ AI
หน่วยซีลเข้าเขต 8 หาดใหญ่ ขนย้ายผู้ป่วยฟอกไต 18 ราย เปิดฐานทัพเป็นศูนย์พักพิง
พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ ให้ข้อมูลว่าจากการส่งชุด ปฏิบัติการพิเศษลงพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ ในวันนี้ (26 พฤศจิกายน 2568) ได้รับรายงานว่าชุดปฏิบัติการพิเศษจากหน่วยซีล กองทัพเรือ ชุดที่ 1
ซีล-รีคอน-อีโอดี กองทัพเรือ ผนึกกำลังช่วยผู้ประสบอุทกภัยตลอด 24 ชม.แล้ว
พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ชุดปฏิบัติการพิเศษ (ชปพ.) ของกองทัพเรือ รวม 15 ชุด จากหน่วยซีล หน่วยลาดตระเวน นาวิกโยธิน และหน่วย EOD ปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดสงขลาอย่างต่อเนื่องทั้งกลางวันและกลางคืน

