8 ส.ค.2567 - นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "ต่างชาติอย่าก้าวก่าย" ระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค 10 ปี แต่มีสถานทูตบางประเทศแสดงความห่วงใยต่อการวินิจฉัยของศาลมากเกินไป. และออกแถลงการณ์แสดงความห่วงใยอย่างไม่เหมาะสม
อยากจะย้ำอีกครั้งหนึ่งกับสถานทูตต่างชาติว่า. ประเทศไทยปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข.สำหรับประเทศไทย.
การดำรงอยู่ของสถาบันฯและพระบรมเดชานุภาพของพระมหากษัตริย์เป็นสิ่งสูงสุด. ผู้ใดจะละเมิดมิได้ นึ่เป็นเรื่องสำคัญที่สุด. มีประชาธิปไตยแต่ไม่สถาบันพระมหากษัตริย์ก็ขัดรัฐธรรมนูญ
พรรคการเมืองและนักการเมืองต้องรู้ขอบเขตว่าความเคลื่อนไหวทางการเมืองใดๆต้องไม่ขัดรัฐธรรมนูญ. ความไม่รู้กฎหมายไม่สามารถอ้างได้. และยื่งเป็นการดำเนินการที่หมื่นเหม่ต่อการบ่อนแซะทำลายสถานบัน ที่เป็นเสาหลักของความมั่นคงแห่งชาติ. จะกระทำมิได้
พรรคการเมืองต้องตระหนักว่า. การดำเนินการทางการเมืองใดๆจะอยู่ภายใต้การจับตามองอย่างใกล้ชิดของคนไทย. การพิจารณาของศาลในวันนี้มาจากการฟ้องร้องของประชาชน และศาลก็ไม่ได้เร่งรัด รวบรัดการดำเนินการ. และให้โอกาสพรรคในการชี้แจงต่อสู้คดี
นอกจากนี้. อธิปไตยของไทยแบ่งแยกอำนาจเป็น 3 องค์อธิปัตย์ ฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายตุลาการ. ที่ไม่ก้าวก่ายอำนาจซึ่งกันและกัน
สถานเอกอัครราชทูตและนักการทูตต้องประสานงานผ่านช่องทางการทูตกับฝ่ายบริหาร และกระทรวงการต่างประเทศ
การแสดงความห่วงใยต่อการดำเนินการของศาลและแถลงการณ์ที่สถานทูตแถลงข่าว. มีลักษณะไม่เหมะสม. เป็นการก้าวล่วงอำนาจของศาลที่อยู่นอกบริบทของงานการทูตและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ. และเป็นการแสดงมารยาททางการทูตและความสัมพันธ์ระหว่างมิตรประเทศที่ไม่เหมาะสม และไม่สมควร
หากไทยแสดงความห่วงใยต่อการดำเนินด้านยุติธรรมในประเทศของท่าน ท่านย่อมต้องไม่พอใจ เพราะก้าวก่ายแทรกแซงกิจการภายในของประเทศของท่าน
ในประเด็นนี้. ศาลรัฐธรรมนูญได้ระบุไว้ชัดเจนในคำวินิจฉัย ว่า แต่ละประเทศมีรัฐธรรมนูญและกฎหมายภายในที่แตกต่างกัน ไปตามบริบทของแต่ละประเทศ.
ในฐานะมิตรประเทศที่มีความสัมพันธ์กันเป็นอย่างดี
ไม่อยากเห็นสถานทูตและนักการทูตมีความสัมพันธ์ สนับสนุนนักการเมืองไทยแบบเลือกข้าง และอย่างมีอคติ
อยากให้กระทรวงการต่างประเทศเชิญผู้แทนสถานทูตมาชี้แจงถึงข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายที่เกิดขึ้นเพื่อให้เกิดความเข้าใจอันถูกต้อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มติเอกฉันท์! ศาลรธน. ไม่รับคำร้อง 'เรืองไกร' กล่าวหารัฐสภาแก้ รธน.ล้มล้างการปกครอง
‘ศาลรธน.’ มีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้อง ‘เรืองไกร’ ปมกล่าวหาประธานรัฐสภา–สมาชิกรัฐสภาใช้สิทธิล้มล้างการปกครอง ชี้การประชุมร่วมแก้รัฐธรรมนูญยังไม่ปรากฏพฤติการณ์เข้าข่ายมาตรา 49 แม้อัยการสูงสุดไม่ดำเนินการแต่ผู้ร้องมีสิทธิเข้าศาลโดยตรงก็ตาม
คนเสื้อแดงกินแห้ว! ศาล รธน. ไม่รับวินิจฉัย ปม MOA 'ภูมิใจไทย-ปชน.'
ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องในคดีที่นายนิยม นพรัตน์ (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 กล่าวอ้างว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ผู้ถูกร้องที่ 1) และนายณัฐพงษ์
ลุ้นกันยาวๆ 24 ธ.ค.ศาล รธน.นัดไต่สวนพยานคดี 'ภูมิธรรม-ทวี' จุ้นคดีฮั้ว สว.
ศาล รธน.นัดไต่สวนพยานคดีสถานะ 'ภูมิธรรม-ทวี' จุ้นคดีฮั้วเลือก สว. 24ธ.ค.นี้ พร้อมไม่อนุญาต 'สราวุธ' ถอนตัวจากการพิจารณาคดี
'อดีตบิ๊กข่าวกรอง' เตือน อย่าทำตัวเป็น running dog ไทยมีอิสระในการดำเนินนโยบาย
'อดีตบิ๊กข่าวกรอง' เตือน อย่าทำตัวเป็น running dog ไทยเป็นเอกราชไม่ใช่อาณานิคมมีอิสระในการดำเนินนโยบาย ไม่ต้องรายงาน-ขออนุญาตประเทศใด การระงับความตกลงกับเพื่อนบ้านเป็นสิทธิอันชอบธรรม ต้องถ่วงดุลอำนาจไม่ผูกพันฝ่ายใด
ยังไม่พอ 'อดีตบิ๊กข่าวกรอง' ลั่นต้องยกเลิกข้อตกลงหยุดยิง ไฟเขียวทหารใช้กำลังจัดการกัมพูชา
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความว่า แค่นี้ยังไม่พอ
'อดีตบิ๊กข่าวกรอง' ท้า 'ฮุนเซน' เปิดให้หมดนักการเมือง-ทหารไทยเอี่ยวธุรกิจสีเทาในเขมร
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความว่า


