“ภูมิธรรม” เผยเหตุเสนอชื่อ “ฉัตรชัย” เป็นเลขาธิการสมช.คนใหม่ อยากให้คนภายในได้แสดงฝีมือ - คนในหน่วยงานมีขวัญกำลังใจ เชื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่รุนแรงต้องเอาการเมืองนำการทหาร เล็งให้สานต่องานพูดคุยสันติสุข
9 ต.ค.2567 - นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เปิดเผยถึงการแต่งตั้ง นายฉัตรชัย บางชวด เป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ว่า หากดูประวัติของการเข้ามาเป็นเลขาฯสมช. สิ่งที่สำคัญส่วนใหญ่จะเป็นคนนอกที่เข้ามาและเราปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายครั้งที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์เหมือนกับว่าเอาคนที่ผิดหวังจากตำแหน่งเข้ามา แต่สิ่งที่ตนอยากทำให้เห็นคืออยากใช้คนภายใน ซึ่งถือว่าคนภายในที่เติบโตมาจากด้านการข่าวแบบนี้เป็นมืออาชีพ ก็อยากจะทดลองให้ได้ใช้ฝีมือ
“ครั้งนี้ยอมรับว่ามีการเสนอมาหลายส่วน แต่ผมคิดว่าจะให้โอกาสคนภายในก่อน การที่แต่งตั้งนายฉัตรชัย เป็นโอกาสที่คนภายในจะได้พิสูจน์ ให้คนต่างๆเห็นว่าคนภายในก็ทำได้ดีไม่น้อยกว่าใคร ซึ่งหากเป็นแบบนี้จะทำให้ระบบแต่งตั้งโยกย้ายของคนในหน่วยงานโดยตรงก็จะมีความเป็นปกติ และเป็นระบบมากขึ้น ไม่อย่างนั้นหากเราต้องใช้คนนอกบางทีข้างในก็ไม่มีขวัญและกำลังใจ” นายภูมิธรรม กล่าว
เมื่อถามว่า ที่นายฉัตรชัยเป็นหัวหน้าพูดคุยสันติสุข ชายแดนภาคใต้ จะยังคงให้สานงานต่อหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนเองได้ให้นโยบายไปว่าการประสานงานและพูดคุยกัน เป็นวิถีในการแก้ไขปัญหาทางการเมือง ซึ่งตนเชื่อว่าการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่รุนแรงต้องเอาการเมืองนำการทหาร ดังนั้นในทีมที่นายฉัตรชัยทำ ยังสามารถที่จะประสานต่อเนื่องงานได้ แต่ทั้งนี้คงต้องคำนึงถึงว่ามีปัจจัยอีกหลายอย่าง ว่าคนที่มาคุยกันนั้น สามารถเป็นตัวแทนที่ทำให้เกิดผลสำเร็จหรือไม่ หากคุยแล้วไม่เป็นผลสำเร็จต้องนำไปทบทวน ประเมินดู อย่างไรก็ตาม ตนเรียนกับทุกฝ่ายแล้วว่าเรื่องนี้มันน่าจะมีโอกาสจบได้ง่ายขึ้นเพราะเยิ่นเย้อมานาน แล้วฝ่ายการเมืองของหน่วยที่จะเข้ามาประสานงาน เขาก็อยากเห็นความสงบเช่นกัน ดังนั้นตนคิดว่าเขาก็ยังดำเนินต่อได้ แต่เราจะไม่ยุติแค่เพียงด้านเดียวต้องหาวิธีการอื่นต่อไปด้วย
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนได้ให้นโยบายเรื่องการแก้ไขปัญหาพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่สำคัญต้องทำงานเรื่องการเมือง การพัฒนาเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ ให้คนเข้ามามีส่วนร่วมให้มากขึ้น แต่ก็ขึ้นอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญของไทย ที่มีกฎหมายรองรับอยู่ ดังนั้นหลายเรื่องที่ยังเป็นเรื่องที่ขัดรัฐธรรมนูญยังไม่ต้องเอามาคุยกัน แต่หากมีบางเรื่องที่ผ่อนปรนได้ และสามารถที่จะทำให้เกิดบรรยากาศที่ดีได้ก็ควรทำ พร้อมกันนี้ยังได้ให้นโยบายว่าจะต้องทำเรื่องของการพัฒนาการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ โดยการดึงความมีส่วนร่วมของคนในชุมชน เช่นการที่ตนเองได้เคยลงพื้นที่ปัตตานี มีการรวมคนในชุมชนหลายๆจุดเข้ามาทำเศรษฐกิจ ทำให้สามารถเลี้ยงดูชุมชนได้ ซึ่งก็อยากเห็นอย่างนั้น
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนยังได้ให้นโยบายเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอาหารฮาลาล ที่มีปัญหาว่านักลงทุนยังไม่กล้าเข้ามา แม้ว่าจะมีความต้องการมาก จึงต้องหาหนทางที่จะแก้ไขปัญหา ดังนั้นหากเราเอาใจใส่การทำงานที่เอื้อประโยชน์ต่อการทำมาหากิน การเลี้ยงชีวิตของชาวมุสลิม ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือชาวพุทธ ก็จะทำให้ปัญหาความรุนแรงทุเลาลง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มติ สมช. ตั้งศูนย์จัดการโดรนแห่งชาติ ออก 4 มาตรการป้องกันโดรน เร่งสอบบินว่อนสุวรรณภูมิ
เลขาฯสมช. เผย ตั้งศูนย์จัดการโดรนแห่งชาติ ชี้ จบปัญหาชายแดนต้องเป็นการหารือทวิภาคี ผบ.ตร. เผย อยู่ระหว่างตรวจสอบปมโดรนโผล่ว่อนสุวรรณภูมิ ไม่ยืนยันมี 40 ลำ เตือน พวกคิดป่วน โทษหนักถึงขั้นประหาร-จำคุกตลอดชีวิต
นายกฯ เรียกถก 'ผบ.เหล่าทัพ' ตึกไทยฯ ก่อนนั่งหัวโต๊ะประชุม สมช.
นายกฯได้หารือนอกรอบกับ พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเลขาธิการสมช. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนเป็นประธานการประชุม สมช.
'บิ๊กเล็ก' แย้มถก 'สมช.' ปมพบโดรนพื้นที่ส่วนหลังตอนในที่สุวรรณภูมิ
รมว.กลาโหม เผยประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ถกประเด็นตรวจพบโดรนบินในพื้นที่ส่วนหลังตอนในที่สุวรรณภูมิ
สแกน 100 ชื่อปาร์ตี้ลิสต์ 'เพื่อไทย' จับตาใช้สูตรปี66 จัดลำดับ
สแกน 100 ชื่อปาร์ตี้ลิสต์พท. แกนนำรุ่นใหญ่ ภูมิธรรม-สมศักดิ์-เสี่ยเพ้ง-สรวงศ์ ส่งลูก-หลังบ้าน-เครือญาติเข้าพรรค พวกย้ายพรรค-โยกสลับจากสอบตกเขตเพียบ จับตาอาจใช้สูตรเดิม เอาตัวเต็งรมต.ไว้ท้าย ลดแรงกระเพื่อม
ศาลรัฐธรรมนูญ นัดไต่สวน 'ภูมิธรรม-ทวี' แทรกแซงคดีฮั้ว สว.
ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องในคดีที่ ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
สมช. จ่อเคาะมาตรการสกัดส่งยุทธปัจจัย ช่วยคนไทยในเขมรกลับบ้าน
'ฉัตรชัย' เผยนายกฯ หารือก่อนถก สมช. 16 ธ.ค. เคาะมาตรการสกัดส่งยุทธปัจจัย-ช่วยคนไทยในเขมรกลับประเทศ พร้อมจับตาปมจับสายลับ ยึดขีปนาวุธสัญชาติจีน

