'สุริยะใส' ชี้สถานการณ์ชายแดนใต้น่ากังวล ปม 'พิศาล' หนีคดี ซ้ำเติมบาดแผลตากใบ

15 ต.ค.2567 - ดร.สุริยะใส กตะศิลา คณบดีวิทยาลัยผู้นำและนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "พลเอกพิศาล หนีคดี ซ้ำเติมบาดแผลตากใบ" มีเนื้อหาดังนี้ กรณีของ พลเอกพิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 และ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ซึ่งได้หลบหนีหลังถูกออกหมายจับจากคดีเหตุการณ์ตากใบ ซึ่งเป็นเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เมื่อปี 2547 โดยมีผู้เสียชีวิตถึง 84 คน เป็นเรื่องที่สร้างบาดแผลทางใจและความขัดแย้งทางการเมืองอย่างต่อเนื่องในพื้นที่นี้

แม้ว่าภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าวจะมีความพยายามในการสร้างความปรองดองและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ แต่ความทรงจำเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ยังคงเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลและชุมชนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้

เมื่อพลเอกพิศาล ซึ่งเคยถูกมองว่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว เข้าสู่การเมืองและได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคเพื่อไทยที่ปัจจุบันเป็นพรรครัฐบาล การมีคดีติดตัวและต้องหนีหมายจับย่อมเป็นปัญหาที่มีผลต่อภาพลักษณ์ของพรรค รวมถึงความไว้วางใจจากประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีความละเอียดอ่อนทางการเมืองและสังคม

การที่พลเอกพิศาล ตัดสินใจลาออกจากพรรคเพื่อไทย สามารถถูกมองได้ว่าเป็นการป้องกันไม่ให้ปัญหาส่วนตัวมากระทบกับการทำงานของพรรคในฐานะรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม การดำเนินคดีและความขัดแย้งที่เกิดจากเหตุการณ์ตากใบ ยังคงเป็นบาดแผลที่ลึกในใจของประชาชนในพื้นที่ ดังนั้น ปฏิกิริยาจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ในเรื่องนี้ น่าจะสะท้อนถึงความกังวลต่อความยุติธรรมและความรับผิดชอบของผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในอดีต

การที่พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นรัฐบาลในปัจจุบันจะต้องเผชิญกับความท้าทายในการสร้างความไว้วางใจในพื้นที่นี้อย่างต่อเนื่อง การให้ความสำคัญกับกระบวนการยุติธรรมและการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจึงมีความสำคัญมากขึ้น เพื่อไม่ให้ความขัดแย้งในอดีตกลายเป็นอุปสรรคต่อการสร้างสันติภาพและการพัฒนา สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ในอนาคต

คดีตากใบจะหมดอายุความในวันที่ 25 ตุลาคมนี้ พรรคเพื่อไทยต้องคิดให้มาก จะตัดตอนทั้งหมดว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของพลเอกพิศาลซึ่งได้ลาออกจากพรรคแล้ว จึงไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ นั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะเรื่องนี้ละเอียดอ่อน นอกจากจะไปซ้ำเติมบาดแผลของประชาชนและผู้เสียหายในพื้นที่แล้ว จะทำให้สถานการณ์อ่อนไหวและน่าเป็นห่วงมากขึ้น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ยศชนัน' โวยป้ายหาเสียงถูกทำลาย วอนเล่นการเมืองสร้างสรรค์ มั่นใจรักษาฐานเสียงชายแดน

‘ยศชนัน’ วอนเล่นการเมืองสร้างสรรค์ หลัง ’เพื่อไทย’ ถูกทำลายป้ายหาเสียงหลายเขต บอกไม่ถูกต้อง หลังถูกวิจารณ์เป็นพรรคตัวแปรอันดับ3 เหตุ ปชช. ยังไม่ตัดสิน มั่นใจ รักษาฐานเสียงจังหวัดชายแดนได้ เชื่อประชาชนเข้าใจ

‘อัครนันท์’ ชูหาเสียงไม่รบกวนชุมชน ตั้งหลักคิดคุณภาพชีวิตมาก่อน

“อัครนันท์” ออกแนวทางการหาเสียงไม่กระทบกับชาวบ้านในพื้นที่ ปรับเวลารถแห่ จาก 08.00 น.เป็น 10.00 น. หวังลดผลกระทบด้านเสียง เอาใจ คนในพื้นที่