ตำรวจภ.1 ร้องประธานศาลฎีกา ตรวจสอบผู้พิพากษาศาลอาญาคนเดียวยกฟ้องคดีนักร้องดัง 3 คดีรวด

12 พ.ย.2567- ที่ศาลฎีกา สนามหลวง ว่าที่ร.ต.อ.หญิง พิชญาภัค พรหมดวง รองสารวัตร(สอบสวน) กลุ่มงานตรวจสำนวนคดี กองบังคับการกฎหมายและคดี ตำรวจภูธรภาค1 ในฐานะผู้เสียหายได้ยื่นหนังสือถึง นางชนากานต์ ธีรเวชพลกุล ประธานศาลฎีกา ขอโปรดตรวจสอบ การให้ข่าวเกี่ยวกับคำพิพากษาของศาลอาญาในคดีที่เกี่ยวพันกับคดีการตกน้ำเสียชีวิตของดาราหญิง ซึ่งคดีอยู่ระหว่างการสืบพยานในชั้นพิจารณาของศาลจังหวัดนนทบุรี และการมอบหมายสำนวนคดีแก่ผู้พิพากษาในศาลอาญา ความว่า ด้วยวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ 2549/2566ที่ พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 5 สำนักงานอัยการสูงสุดยื่นฟ้อง นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ กับพวก รวม 3 คน จำเลย ข้อหา ร่วมกันหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ข้าพเจ้า ว่าที่ร.ต.อ.หญิงพิชญาภัค ซึ่งเป็นผู้เสียหายคนหนึ่ง ได้เข้าเฝ้าฟังคำพิพากษา โดยศาลได้ออกนั่งพิจารณาคดีแต่ไม่ได้มีการอ่านคำพิพากษาคดีหมิ่นประมาท ให้คู่ความฟังเพียงแต่แจ้งว่ายกฟ้อง

ต่อมาในช่วงเย็นของวันเดียวกันปรากฏว่า ได้ข่าวการให้สัมภาษณ์ ของ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ โดยมีการมีการพูดถึงในลักษณะ “ศาลก็มีคำพิพากษาว่า เป็นการใช้สิทธิโดยสุจริตและ เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ แต่ในคดีแตงโมเนี่ยจุดที่น่าสนใจ มีอยู่ 4 5 ประเด็น ประเด็นแรก คือ หนึ่ง ศาลยืนยันในคำพิพากษาเลยว่า บาดแผลเนี่ยของแตงโมไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ อันนี้คือหัวใจสำคัญของคดีแตงโมเลยนะ เราสามารถพิสูจน์ได้ว่าบาดแผลของแตงโมไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ ฯ”

เมื่อมีการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนและมีการเผยแพร่เนื้อหาในหลายสื่อ ทำให้ประชาชนบางส่วนเกิดความเข้าใจไปเองว่า ศาลอาญาได้พิจารณาพิพากษา ยืนยันวินิจฉัยเหตุการณ์ตายผิดธรรมชาติ คดีที่อยู่ในอำนาจการสอบสวนของจังหวัดนนทบุรี และอยู่ในอำนาจการพิจารณาพิพากษาคดีของศาลจังหวัดนนทบุรี

ซึ่งข้าพเจ้าซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียหายในคดีนี้ ได้เข้าเฝ้าฟังในการพิจารณา อ่านคำพิพากษา ร่วมกับสื่อมวลชนและคู่ความในคดีอื่นอีกหลายคนที่อยู่ในห้องพิจารณา มิได้ยินว่าศาลพิเคราะห์ข้อเท็จจริง อ้างเหตุและผลอันใด จึงยกฟ้องโจทก์ จึงไม่ทราบว่า คำพิพากษามีเนื้อหาอย่างไร มีแต่แจ้งว่าให้ไปคัดคำพิพากษาเท่านั้น ซึ่งในวันดังกล่าว จำเลยเองก็มิได้คำพิพากษาเช่นเดียวกัน และเพียงไม่กี่นาที จำเลยก็สามารถลงไปแถลงต่อสื่อมวลชนและกล่าวถึงรายละเอียดในคำพิพากษาได้อย่างละเอียด โดยไม่มีโพย ราวกับได้นั่งอ่านคำพิพากษาอย่างละเอียด และท่องจำได้มาก่อนแถลงข่าว

นอกจากนี้ ในวันเวลา บัลลังก์ จำเลยและผู้พิพากษาคนเดียวกัน มีคดีที่ศาลอ่านคำพิพากษา ก่อนหน้าคดีนี้ คือคดีระหว่าง พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบนครบาลเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายอัจฉริยะ จำเลย ซึ่งเป็นคดีที่อ่านก่อนหน้าคดีของตน ได้มีไฟล์ลักษณะคล้าย คำพิพากษาที่ข้าพเจ้านั่งฟังอยู่ในห้องพิจารณาอยู่ด้วย ถูกส่งต่อผ่านแอบพลิเคชั้นไลน์และสื่อสังคมออนไลน์ จึงทำให้เกิดข้อสงสัยว่า ไฟล์ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของไฟล์ข้อมูลจากร่างคำพิพากษาของศาลอาญาในคดีดังกล่าว และเกิดการรั่วไหลส่งต่อๆกัน หรือไม่ และคดีที่ข้าพเจ้าเป็นผู้เสียหาย มีการหลุดข้อมูลในลักษณะเดียวกันหรือไม่

จึงกราบเรียนประธานศาลฎีกาได้โปรดตรวจสอบถึงข้อมูลดังต่อไปนี้ด้วย

(1) ได้โปรดตรวจสอบ ถ้อยคำที่ นายอัจฉริยะฯ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน หน้าศาลอาญารัชดา ในวันที่ 31 ต.ค.2567 เวลาประมาณ 10.24 น.ดังกล่าว มีข้อมูล ข้อความ ตรงหรือคล้ายกับร่างคำพิพากษาต้นฉบับ หรือไม่อย่างไร

(2)หากการตรวจสอบดังกล่าวเชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งของร่างต้นฉบับคำพิพากษา ขอท่านได้โปรดตรวจสอบว่าใครหรือผู้ใด ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการส่งต่อข้อมูลจากร่างดังกล่าวด้วย

(3) ขอได้โปรดสอบถามพยานบุคคล และตรวจสอบพยานวัตถุจากกล้องวงจรปิด ว่ามีผู้ใด จด ถือ หยิบร่างเอกสาร กระดาษ โพย ออกมาภายหลังจากการอ่านคำพิพากษาหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นได้มีหนังสือขอให้เก็บไฟล์กล้องวงจรปิด ภายในศาลอาญาดังกล่าวไว้แล้วด้วย ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย (3)(4)

(4) ขอให้ตรวจสอบความเป็นอิสระของผู้พิพากษาในศาลอาญา ว่าเหตุใด ศาลอาญาซึ่งมีผู้พิพากษาจำนวนมาก แต่มีผู้พิพากษาได้รับสำนวน โดยเป็นเจ้าของสำนวน ในคดีที่มีลักษณะคล้ายกัน3 ประการคือ

  • จำเลยเป็นบุคคลเดียวกัน
  • โจทก์เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ โดยสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เช่นเดียวกัน
  • ผลคำพิพากษาในลักษณะเดียวกัน คือเจ้าพนักงานรัฐแพ้คดีเช่นเดียวกัน

คือ 4.1) คดีอาญาหมายเลขดำที่ อ 951/2566 ผู้เสียหายคือ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์

4.2 ) คดีอาญาหมายเลขดำที่ อ 2549/2566ผู้เสียหายคือ พ.ต.อ.ภูมิธัช โฆษิตวนิชพงศ์กับพวก รวมถึงข้าพเจ้าร.ต.อ.หญิงพิชญาภัค พรหมดวง

4.3) คดีอาญาหมายเลขดำที่ อ 2998/2567 ผู้เสียหายคือ พล.ต.ต.แวสาแม สาและ

ซึ่งเป็นที่ทราบกันอยู่โดยทั่วไปว่า ศาลอาญาเป็นศาลชั้นต้นอันดับ 1 ของสำนักงานศาลยุติธรรม มีปริมาณผู้พิพากษาจำนวนมากในศาลดังกล่าว มีระบบการจ่าย การจัดระเบียบ ตรวจทานคำพิพากษาเป็นอย่างดี แต่เหตุใดเอกสารที่สรุปย่อคล้ายร่างคำพิพากษาที่หลุดว่อนออกในโซเชียล จึงขาดเหตุผลในการตัดสินทั้งในปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายในความผิดที่ได้ฟ้อง อันเป็นข้อสำคัญของคำพิพากษาศาลตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 186 โดยเฉพาะบางข้อหา คือมิได้กล่าวถึงเลย รายละเอียดในคำพิพากษา มุ่งเน้นแต่คดีอื่น ของศาลอื่น ที่มิใช่ข้อหาของศาลอาญา

จึงขอท่านได้โปรดตรวจสอบว่าเพราะเหตุใด ความเป็นไปได้ ในการจ่ายสำนวน ของผู้พิพากษาคนเดียวกัน จำเลยคนเดียวกัน ผู้เสียหายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเช่นเดียวกัน และผลคำพิพากษาลักษณะเดียวกัน เป็นเรื่องปกติ หรือมีข้อสงสัย พิรุธ และกระทบต่อความเป็นอิสระเพื่อความยุติธรรมหรือไม่อย่างใด

(5) ตามข้อสังเกตข้อ (4)ดังกล่าว จึงกราบเรียน ขอท่านได้โปรดตรวจทาน คำพิพากษาของผู้พิพากษาท่านดังกล่าว ว่าในคดีความผิดฐานหมิ่นประมาท ที่ได้วินิจฉัยยกฟ้องจำเลย ในคดีอื่นๆมีลักษณะการเขียนคำพิพากษา คล้ายหรือเป็นไปตามแนวทางการวินิจฉัยคดีของ สำนักงานศาลยุติธรรมหรือไม่อย่างไร ทั้งนี้เพื่อประโยชน์เป็นข้อมูลเกี่ยวกับบุคลากรของสำนักงานศาลยุติธรรม

ทั้งนี้ ศาลยุติธรรมเป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชน เป็นที่ศรัทธาตลอดระยะเวลายาวนาน ประชาชนเชื่อว่า ศาลย่อมอยู่เหนือความขัดแย้งระหว่างคู่ความ ย่อมต้องไม่ใช้อคติ หรือใช้ดุลพินิจเพื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยเฉพาะ ซึ่งการที่ข้าพเจ้าขอร้องให้ท่านได้โปรดช่วยตรวจสอบนั้น ก็เพราะว่าคดีที่ตัดสิน เป็นคดีที่ได้รับความสนใจของประชาชน และเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ถูกแจ้งความ ถูกฟ้องในข้อหาหนักๆ ต้องผ่านกระบวนการต่างๆ เพียงเพราะบางคนใช้กระแสโซเชียลเพื่อให้ได้กระแสตามประสงค์ เช่นเดียวกับคดีของข้าพเจ้ากับเจ้าหน้าที่ ซึ่งผ่านกระบวนการพิจารณาของศาลอาญาคดีปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ และศาลอุทธรณ์ ที่ได้ยกฟ้องข้าพเจ้ากับพวก ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย(5)นี้แล้ว แต่เหตุการณ์หลายๆอย่างในศาลอาญาที่ผ่านมา ก่อให้เกิดความสงสัยและกระทบต่อความเชื่อมั่นถึงขั้นตอนต่างๆ และถูกกล่าวขาลกันแซงแซ่ในหลายส่วน เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมในชั้นศาลอาญากระจ่างชัด และไม่เกิดข้อสงสัยและกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนและของเจ้าหน้าที่รัฐต่อกระบวนการยุติธรรม จึงกราบเรียนเพื่อขอท่านได้โปรดใช้ดุลพินิจเพื่อพิจารณาตรวจสอบเหตุการณ์และพฤติการณ์ดังกล่าวด้วย เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมได้โปรดพิจารณา

โดยข้าพเจ้าได้นำพยานหลักฐานเเนบมาด้วยประกอบด้วย (1) ไฟล์คลิปคำให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ของ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ หน้าศาลอาญารัชดา ในวันที่ 31 ตุลาคม 2567 เวลาประมาณ 10.24 นาฬิกา จำนวน 4 ไฟล์

(2) รายละเอียดถอดเทปถ้อยคำของ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ที่ได้ถ้อยคำต่อสื่อมวลชน บริเวณ หน้าศาลอาญารัชดา จำนวน 4ฉบับ ตามไฟล์คลิปข้อ (1)

(3) หนังสือถึงอธิบดีศาลอาญา ลงวันที่5พ.ย. 2567 เรื่อง ขอให้เก็บไฟล์ข้อมูลระบบกล้องวงจรปิด

(4) รายชื่อบุคคลที่อยู่ในห้องพิจารณาคดี 807 ศาลอาญา คดีอาญาหมายเลขดำที่ อ 2549/2566 ในวันที่ 31ต.ค. 2567

(5) สำเนาคำพิพากษาศาลอาญาปราบทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง คดีหมายเลขดำ อท 208/2565 คดีหมายเลขแดงที่ อท 118/25666 และ ศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำที่ อท. 885/256566 คดีหมายเลขแดงที่13619/2567

โดยภายหลังยื่นหนังสือทางเจ้าหน้าที่สำนักประธานศาลฎีกาได้ลงเลขรับไว้เป็นคำร้องที่ 2983 เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

ภายหลังยื่นเรื่องร้องต่อประธานศาลฎีกาเเล้ว ร.ต.อ.หญิง พิชญาภัค จะเดินทางไปเพื่อยื่นคำร้องต่อสำนักคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมให้ตรวจสอบกรณีดังกล่าง ที่อาคารสำนักงานศาลยุติธรรม ถนนรัชดาภิเษกในวันเดียวกัน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กต.เชิญทูตเมียนมาเข้าพบ เร่งปล่อยตัว 4 ลูกเรือคนไทย

นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ เปิดเผยว่า จากกรณีที่กองทัพเรือเมียนมายิงเรือประมงไทยและจับกุมลูกเรือประมง ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต และยังมีคนไทยอีก 4 คนถูกจับกุมด้วยนั้น ในวันนี้ (2 ธ.ค.) อธิบดีกรมเอเชียตะวันออกได้เชิญเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาประจำประเทศไทยมาเข้าพบ

กห. รออีก 2 วัน เมียนมาประชุมกรรมการ TBC คาดได้ตัวลูกเรือประมงชาวไทยกลับบ้าน

พลตรีธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี เรือรบเมียนมายิงเรือประมงไทยว่า หลังวานนี้ฝ่ายไทยได้ออกหนังสือสองฉบับคือการประท้วงว่าเมียนมาว่าทำเกินกว่าเหตุหรือไม่และการขอให้ดูแลคนไทยเป็นอย่างดี