'เทพไท' ชี้ 'ทักษิณ' ปราศรัยอุดรธานีแค่ใช้เวทีแก้ตัวและโปรโมตลูกสาว!

14 พ.ย.2567 – นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหาในหัวข้อ “ทักษิณ ปราศรัย : ชมลูกสาว เล่าความหลัง” ระบุว่า ผมติดตามการปราศรัยของนายทักษิณ ชินวัตร บนเวทีหาเสียงนายก อบจ. อุดรธานีแล้ว ทำให้นึกถึงคำที่พูดถึงนิสัยของคนแก่คือ “กินของขม ชมเด็กสาว เล่าความหลัง” เพราะการปราศรัยของนายทักษิณเป็นเหมือนผู้เฒ่า ที่ “ชมลูกสาว เล่าความหลัง” การปราศรัยฟอร์มตกมาก พยายามรื้อฟื้นผลงานสมัยที่เป็นนายกรัฐมนตรี ทำเศรษฐกิจดีมาโอ้อวด หลงอยู่กับผลงานในอดีต พยายามสร้างภาพให้เห็นว่าเป็นคนปราบยาเสพติดได้ผล จึงกล้าพูดบนเวทีให้บอกพ่อค้ายาว่า ทักษิณมาแล้ว และพูดถึงนโยบายที่รัฐบาลจะทำล่วงหน้า เหมือนกับเป็นนายกรัฐมนตรีเอง

ที่น่าสังเกตนายทักษิณได้ใช้เวลากล่าวปราศรัยหาเสียงให้กับผู้สมัครนายก อบจ.เพียง 5 นาทีเท่านั้น ที่เหลือพูดถึงเรื่องผลงานที่เคยทำในอดีต และอวยนางสาวแพทองธาร ในการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ว่าเป็นคนเก่งกว่าตัวเองอีก รอดูผลงานแก้ปัญหาของรัฐบาลในเร็วๆ นี้ ซึ่งนายทักษิณได้ใช้เวทีหาเสียงครั้งนี้เพื่อแก้ตัว และโปรโมตลูกสาวของตัวเองเป็นหลัก

นายทักษิณกำลังหลงตัวเองคิดว่า พ่อค้ายาเสพติดเกรงกลัว ซึ่งไม่มีผลอะไรต่อการปราบปรามนโยบายปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเลย ตั้งแต่ยุครัฐบาลเศรษฐาจนถึงรัฐบาลแพทองธาร ปัญหายาเสพติดระบาดไปทั่วเมือง มีมากกว่าเดิมด้วยซ้ำไป รวมถึงการพูดถึงหนี้ครัวเรือนปัญหาความยากจนที่จะต้องแก้ไข รัฐบาลเพื่อไทยเป็นรัฐบาลมาแล้ว 2 ปี ยังไม่เห็นฝีมือในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้เลย พยายามสร้างภาพว่าพรรคเพื่อไทยเชี่ยวชาญในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ แต่กลับล้มเหลวโดยสิ้นเชิง

การขึ้นเวทีปราศรัยของนายทักษิณในครั้งนี้ หวังผลสะเทือนทางการเมืองในภาพกว้าง มากกว่าหวังผลคะแนนในการเลือกตั้งนายก อบจ. อุดรธานี เพราะสนามเลือกตั้งนายก อบจ. อุดรธานีโดยพื้นฐานคะแนนเสียงพรรคเพื่อไทย มีพื้นฐานคะแนนเป็นต่อพรรคประชาชนอยู่มาก ดูจากผลคะแนน สส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย มีคะแนน 353,147 คะแนน กับพรรคประชาชนมีคะแนน 295,097 คะแนน จำนวน สส.ระบบเขตพรรคเพื่อไทยมี 7 คน รวมกับ สส.แปรพรรคอีก 2 คน ในขณะที่พรรคประชาชนมี สส.เพียงคนเดียวเท่านั้น

นายทักษิณจึงใช้เวทีนี้ ฉายภาพความเคลื่อนไหวทางการเมืองผ่านสื่อไปทั่วประเทศ เพราะรู้ดีอยู่ว่าการขึ้นเวทีปราศรัยครั้งนี้ เป็นที่จับจ้องของสื่อทุกแขนง และนำภาพความเคลื่อนไหวไปเสนอให้ประชาชนทั้งประเทศได้รับรู้ ซึ่งได้ผลมากกว่าการเคลื่อนไหวในวาระอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับการเมือง

แม้ว่าผลการสำรวจของอุดรโพล ระบุว่าผู้สมัครของพรรคประชาชนได้รับคะแนนนิยม 32.6% ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยได้รับความนิยม 15.2% ในขณะที่ผู้ยังไม่ตัดสินใจอีก 47.9% ซึ่งอาจจะทำให้คะแนนผกผันได้สิ่งที่พรรคประชาชน ซึ่งอยู่ในฐานะเป็นรองสามารถพลิกโอกาสให้มีคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นได้ โดยนำจุดยืนและอุดมการณ์ทางการเมืองมาเป็นจุดขาย เพราะจังหวัดอุดรธานีเป็นเมืองหลวงของคนเสื้อแดง และการเลือกตั้งที่ผ่านมาคนเสื้อแดงได้เทคคะแนนให้กับพรรคเพื่อไทยเป็นจำนวนมาก แต่ถูกพรรคเพื่อไทยทรยศ หักหลังคนเสื้อแดง กระโดดข้ามขั้วจับมือกับกลุ่มอนุรักษ์นิยม คณะรัฐประหารเดิม เป็นการทอดทิ้งอุดมการณ์คนเสื้อแดง

ถ้าหากว่าประเด็นนี้จุดติดขึ้นมา คนเสื้อแดงที่มีอุดมการณ์จริงๆ ไม่ยึดติดกับตัวนายทักษิณและผลประโยชน์ โอกาสที่พรรคประชาชนจะพลิกจากสถานการณ์เป็นรอง กลับมาเป็นฝ่ายชนะได้ไม่ยาก

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ เยี่ยมนาวิกโยธินเหยียบกับระเบิด ฝาก 'นานาชาติ' อย่าเอาแต่บอกไทยหยุดยิง ให้ไปบอกเขมร

นายกฯเยี่ยมนาวิกโยธิน เหยียบทุ่นระเบิดบาดเจ็บ ฝากถึงนานาชาติ อย่าเอาแต่บอกให้ไทยหยุดยิง ให้ไปบอกเขมร ลั่นเลิกเกรงใจหน้าอินทร์หน้าพรหม เดินหน้าสถาปนาอธิปไตยเหนือชายแดนโดยเร็วที่สุด

นายกฯ เยี่ยมศูนย์อพยพ จ.สุรินทร์ นั่งระบายสี 'รถฮัมวี่ติดปืนกล' ร่วมกับเด็ก ลั่นรบ.จะดูแลเต็มที่

นายกฯ เยี่ยมศูนย์อพยพที่สุรินทร์ นั่งระบายสี ‘รถฮัมวี่ติดปืนกล’ ร่วมกับเด็กๆ เดินทักทาย-ให้กำลังใจชาวบ้าน-จนท. พร้อมขอให้อยู่ที่ศูนย์ไปก่อน รัฐบาลจะดูแลเต็มที่ ก่อนไปเยี่ยมทหารเหยียบระเบิดที่จันทบุรีต่อ

'อนุทิน' เปิดพรรครับ 'กลุ่มรักสถาบัน' ให้กำลังใจ ปกป้องอธิปไตยไทย

'อนุทิน' เปิดพรรค รับดอกไม้-หนังสือ 'กลุ่มศปปส.' ให้กำลังใจปกป้องอธิปไตย ลั่นไทยไม่มีแพ้ ขอมั่นใจพร้อมสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ทหาร

'อนุทิน' ระวัง! ติดกับดักตัวเอง ปมคำถามประชามติ

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี วางกับดักตัวเอง ในการส่งคำถามประชามติของคณะรัฐมนตรี