
18 พ.ย.2567-มีรายงานว่า นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา(อดีตสว.) ทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี (ฉบับที่3) เรื่อง เพื่อพิจารณาสั่งการให้รัฐมนตรีซึ่งกํากับดูแลตรวจสอบการกระทําผิดกฎหมายพรบ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 ดำเนินการเพิกถอนการโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ กลับเป็นที่ธรณีสงฆ์ของวัดธรรมิการามวรวิหาร เพื่อเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน
พร้อมสิ่งที่แนบมาด้วย 1) เอกสารข่าว จดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี (ฉบับที่1)และ(ฉบับที่2) เรื่อง พิจารณาแก้ปัญหาที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์และหมู่บ้านจัดสรรเพื่อโอนคืนวัดธรรมิการามและเป็นที่ธรณีสงฆ์ตามกฎหมาย 2) สรุปคำพิพากษาคดี อัลไพน์ 3)บันทึกความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกา (ที่ประชุมใหญ่) 4)บันทึกtimeline ของคดีที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์
เนื้อหาระบุ ตามที่ได้เคยนำเรียนข้อเสนอประกอบ ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย เพื่อขอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาตามหน้าที่และอำนาจ ในการสั่งการแก้ไขให้โอนคืนที่ดิน924ไร่ ตามพินัยกรรม นางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา เพื่อโอนคืนเป็นของวัดธรรมิการามและให้ตกเป็นที่ธรณีสงฆ์ตามกฎหมาย ในจดหมายเปิดผนึก (ฉบับที่1)และ(ฉบับที่2)แล้วนั้น
บัดนี้ระยะเวลาได้ล่วงเลยมานานานพอสมควรแล้วและยังไม่รับทราบความคืบหน้าในการพิจารณาสั่งการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
จึงขอเรียนเสนอมายังนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง เพื่อโปรดพิจารณาสั่งการให้รัฐมนตรีซึ่งกํากับดูแลกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทยและรัฐมนตรีซึ่งกํากับดูแลสํานักงาน พระพุทธศาสนาแห่งชาติ ตรวจสอบการกระทําผิดกฎหมายพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ. ศ. 2505 ดำเนินการเพิกถอนการโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ และที่ดินจัดสรรหมู่บ้านราชธานี เพื่อให้ที่ดินดังกล่าวกลับไปเป็นของวัดธรรมิการามวรวิหารเป็นที่ธรณีสงฆ์อันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามกฎหมาย
โดยมีข้อกฎหมายประกอบข้อเท็จจริง เสนอเพื่อพิจารณาสั่งการดังนี้
1)ความเห็นของที่ประชุมใหญ่คณะกรรมการกฤษฎีกาที่ได้วินิจฉัยว่า ที่ดินที่ นางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา ทำพินัยกรรมยกกรรมสิทธิ์ที่ดินให้วัดธรรมิการามวรวิหารเป็นที่ธรณีสงฆ์ ณ ที่ว่าการอำเภอดุสิต จังหวัดพระนครว่า “ต้องการยกกรรมสิทธิ์ที่ดินสองแปลงที่ตั้งอยู่ที่อําเภอ คลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เนื้อที่รวมกัน 924ไร่ให้แก่วัดธรรมิการามวรวิหาร” ซึ่งนับตั้งแต่เมื่อนางเนื่อมฯเจ้ามรดกถึงแก่กรรม ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2514 วัดฯ ได้เก็บผลประโยชน์จากที่ดินโดยเก็บค่าเช่าทํานามาโดยตลอด ไม่ปรากฏว่าวัดฯได้ทําหนังสือแสดงเจตนาสละมรดกที่ดินดังกล่าวแต่อย่างใด ”ดังนั้นที่ดินตามพินัยกรรมนางเนื่อม จึงตกเป็นกรรมสิทธิของวัดแล้วตั้งแต่เจ้ามรดกถึงแก่กรรม ตามบทบัญญัติของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และผลทางกฎหมายคือ *ที่ดินมรดก924ไร่ ของนางเนื่อมฯตกเป็นกรรมสิทธิ์ของวัดฯตามกฎหมายแล้ว ตั้งแต่นางเนื่องถึงแก่กรรม ที่ดังกล่าวจึงเป็นที่ธรณีสงฆ์ตามกฎหมาย มาตรา 33( 2)แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.2505
2)การจดทะเบียนโอนที่ดินดังกล่าวให้เอกชนคือ การขายให้กับบริษัท อัลไพน์ เรียลเอสเตท จำกัด และ บริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ต คลับ จำกัด และรายการจดทะเบียนที่สืบต่อกันมา จึงเป็นโมฆะตั้งแต่ต้น รวมตลอดถึงการดําเนินการที่ได้กระทําต่อมาในภายหลังด้วย
3)การโอนที่ดินที่เป็นโมฆะ จึงตกเป็นอันเสียเปล่าทั้งหมดตามไปด้วย รายละเอียดตามหนังสือสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่ นร 9051142 ลงวันที่ 27 ธันวาคม 2553 และคำพิพากษาในศาลอาญาทุจริตและศาลอุทธรณ์ซึ่งคดีถึงที่สุด ให้จำคุกนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อดีตรักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทย 2ปี และคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ยืนตามความเห็นทางกฎหมายของที่ประชุมใหญ่คณะกรรมการกฤษฎีกา ที่ต้องยึดมติครม.พ.ศ.2482 เป็นหลัก จึงชัดเจนในคำพิพากษาว่าคำสั่งของนายยงยุทธ รักษาปลัดกระทรวงมหาดไทยที่เพิกถอนคำสั่งอธิบดีกรมที่ดินขณะนั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นโมฆะไม่มีผลบังคับตั้งแต่เริ่มแรก ผู้รับผิดชอบมีหน้าที่ที่ต้องดําเนินการประกาศความเป็นโมฆะกรรม และต้องเพิกถอนหลักฐานทางทะเบียน
4) นายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะรัฐมนตรี ทำหน้าที่หัวหน้ารัฐบาล ต้องทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน ตามหลักความรับผิดร่วมกัน ซึ่งคณะรัฐมนตรีต้องดำเนินการตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายและรัฐธรรมนูญ ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่และใช้อํานาจด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต เสียสละ เปิดเผย และมีความรอบคอบและระมัดระวังในการดําเนินกิจการต่าง ๆ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศและประชาชนส่วนรวม และต้องยึดถือและปฏิบัติตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
ดังนั้น จึงเรียนเสนอมาเพื่อโปรดพิจารณาสั่งการให้รัฐมนตรีที่กํากับดูแล กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีซึ่งกํากับดูแลสํานักงาน พระพุทธศาสนาแห่งชาติ เร่งรัดแก้ไขกรณีปัญหาที่ธรณีสงฆ์ของวัดธรรมิการามวรวิหารโดยเร็ว ในการดำเนินการให้ที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์และที่ดินจัดสรรหมู่บ้านราชธานี กลับไปเป็นของวัดธรรมิการามวรวิหารเป็นที่ธรณีสงฆ์อันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามกฎหมาย ตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา และคำพิพากษาซึ่งที่ถึงที่สุดแล้วโดยเร็วต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ไอติม' เลี่ยงยื่นซักฟอก ใช้กลไกอื่นตรวจสอบรัฐบาลแทน
'พริษฐ์' ปัดตอบยื่นซักฟอกรัฐบาล ขอใช้กลไกอื่นของสภาตรวจสอบเข้มข้นแทน เชื่อถกแก้ รธน. วาระ 2 จบภายใน 3 วัน นัดประชุมวิปฝ่ายค้านวางกรอบ 9 ธ.ค.
รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%
'อนุทิน' สวน พท. ใครทำงานห่วย ยุครัฐบาลนิด-อิ๊งค์ ติดโพลอันดับ 2
'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'
นายกฯ ประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตร ถวายพระราชกุศล 'ร.9'
นายกฯ เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 'ในหลวง ร.9' วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธ.ค. 2568
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ
รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ


