มวลชนครึ่งหมื่นบุกศาลากลางเชียงใหม่ ขอพบนายกฯ เรียกร้องรัฐบาลทบทวนออก พ.ร.ฎ.ป่าอนุรักษ์ฯ และเร่งแก้ไขใน 3 เดือน รองนายกฯรุดเจรจา
29 พ.ย. 2567 – ที่บริเวณศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ กลุ่มมวลชนสมัชชาชุมชนคนอยู่กับป่ากว่า 5,000 คน ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) จะเริ่มขึ้นที่หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อคัดค้านพระราชกฤษฎีกาที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์และการดูแลทรัพยากรธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ที่คณะรัฐมนตรีได้มีการเห็นชอบไปเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้ โดยชี้ว่า กฎหมายดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างหนักต่อวิถีชีวิตของชุมชนดั้งเดิมที่อาศัยในพื้นที่สูงมานานกว่า 300 ปี ประชาชนที่อยู่กับป่าต่างกังวลในรายละเอียดของข้อกฎหมายดังกล่าวที่จะทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนและเกิดข้อขัดแย้งรุนแรงขึ้นระหว่างรัฐกับประชาชน
ทั้งนี้นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมพร้อมผู้เกี่ยวข้องได้มาพบกับกลุ่มผู้ชุมนุม พร้อมรับข้อเสนอเพื่อนำไปพิจารณาร่วมกับตัวแทนของกลุ่มมวลชนในครั้งนี้ โดยทางกลุ่มผู้ชุมนุมยืนยันว่า จะปักหลักรอคำตอบความชัดเจนโดยสันติวิธี
สำหรับข้อเสนอของสมัชชาชุมชนคนอยู่กับป่าที่ยื่นต่อรัฐบาลมี 3 ประการ ดังนี้
1.ขอให้ยุติการนำพระราชกฤษฎีกาโครงการอนุรักษ์และดูแลทรัพยากรธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติ ตามมาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 และพระราชกฤษฎีกาโครงการอนุรักษ์และดูแลทรัพยากรธรรมชาติภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ตามมาตรา 121 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ไปประกาศใช้กับพื้นที่ป่าอนุรักษ์อื่นๆ จนกว่าจะมีการปรับแก้กฎหมาย ในส่วนที่มีการประกาศใช้ไปแล้ว 6 แห่งนั้น ให้มีกระบวนการติดตามผลการดำเนินงานอย่างมีส่วนร่วม เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งระหว่างชุมชนกับภาครัฐ
2.ให้รัฐบาลและคณะรัฐมนตรีเร่งปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 โดยกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนและใช้กลไกรัฐสภาที่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเป็นผู้แทนประชาชนมีหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติตามระบอบประชาธิปไตยโดยเร็ว
และ3.ให้รัฐบาลจัดตั้งกลไกในรูปแบบที่เป็นคณะกรรมการหรือคณะทำงานจัดเวทีเปิดรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่สามารถนำไปปรับปรุงแก้ไขให้พระราชบัญญัติทั้ง 2 ฉบับ ได้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ ถึงไทยติดตามแก้ฝุ่น สั่งปรับศูนย์ ศปช. แก้น้ำท่วม เป็น 'ปภ.ช.'
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางกลับจากการประชุม World Economic Forum ที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ และเดินทางถึงประเทศไทย
ฟุ้งประชุมWEFผลสำเร็จอื้อซ่า
นายกฯ อิ๊งค์โชว์วิสัยทัศน์เวทีโลก ไทยพร้อมเปิดรับการลงทุน
'อิ๊งค์' ตีปี๊บภารกิจดาวอส ประสบความสำเร็จมาก ทั่วโลกจับตามองทีมไทยแลนด์
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจในการร่วมประชุม World Economic Forum Annual Meeting 2025 ที่กรุงดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
นายกฯอิ๊งค์ ยืนยันกับต่างชาติ การเมืองไทยมีเสถียรภาพรับการลงทุน
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการ
แชร์ว่อน! 'ส.ส.เชียงใหม่ เพื่อไทย' ฟาด 'นายกฯ' หนีตอบกระทู้ PM2.5 ลั่น ถ้าเป็นที่พึ่งปชช.ไม่ได้ อย่ามาเป็นรัฐบาล
จากปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ในประเทศไทย อยู่ในสถานการณ์วิกฤต ทำให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี วิดีโอคอนเฟอเรนซ์ระหว่างการเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum ประจำปี 2568 ณ เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส มายังประเทศไทย
ขึ้น 'รถไฟฟ้า-รถเมล์' ฟรี 7 วัน! รัฐบาลล้วงงบกลางแก้ฝุ่น PM2.5
นายกฯ สั่งคมนาคม ให้ประชาชนขึ้น 'รถไฟฟ้า - รถขสมก.' ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค. แก้ปัญหา PM 2.5 เตรียมชงครม.ใช้งบกลางชดเชย 140 ล้านบาท พร้อมตั้ง 8 จุตรวจจับควันดำ