พล.ต.อ.เอก แจงยิบการแต่งตั้ง รอง ผบช.จำนวน 41 ผบก.75 ตำแหน่ง เตือนผู้มีอำนาจแต่งตั้งทุกระดับ ทั้งโทษวินัยและอาญา
2 ธ.ค.2567-พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ โพสต์เฟซบุ๊ก Aek Angsananont ระบุว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ได้เป็นประธานฯ ประชุมก.ตร. มีมติให้ความเห็นชอบการแต่งตั้ง ผบ.ตร. ,รอง ผบ.ตร. ,ผู้ช่วย ผบ.ตร. และผบช. ตามลำดับ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย การดำเนินการเป็นไปตามกฎหมาย กฎเกณฑ์การแต่งตั้งและแนวคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) เมื่อปรากฎผลการประชุมก.ตร. ได้รับคำชื่นชมจากพี่น้องข้าราชการตำรวจและสื่อมวลชลที่เฝ้าจับตาดูการแต่งตั้งอย่างใกล้ชิดว่า จะมีการแทรกแซงจากการเมือง มีตั๋วต่างๆ มีข่าวการซื้อขายตำแหน่งหรือไม่ ซึ่งสื่อมวลชนได้ลงข่าวว่า ไม่มีการซื้อขายตำแหน่งแต่อย่างใด
การแต่งตั้ง ที่จะดำเนินการต่อไป เป็นการแต่งตั้งระดับ รอง ผบช. จำนวน 41 ตำแหน่ง ระดับ ผบก. จำนวน 74 ตำแหน่ง
ตร. มีหนังสือแจ้งให้หน่วยต่างๆ เรื่องการคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ โดยให้จัดทำบัญชีข้อมูลผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ฯลฯ ส่งตร. ภายในวันที่ 6 ธ.ค.2567 หลักเกณฑ์การพิจารณา ให้พิจารณาจากผู้มีความรู้ความสามารถ เรียงตามลำดับอาวุโสจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนตำแหน่งว่าง จำนวนตำแหน่งว่างที่เหลือ ให้พิจารณาโดยคำนึงถึงอาวุโสและความรู้ความสามารถประกอบกัน
การพิจารณาความสามารถรู้ความสามรถ ให้คำนึงถึงประวัติรับราชการ ผลการปฏิบัติงาน ความประพฤติ และผลการประเมินความพึงพอใจที่ประชาชนหรือผู้รับบริการได้รับจากการให้บริการของข้าราชการตำรวจ ประวัติรับราชการ ให้พิจารณาจากประสบการณ์และความชำนาญงานโดยเฉพาะ ประสบการณ์และความชำนาญในสายงานที่จะได้รับการแต่งตั้ง โดยพิจารณาตั้งแต่เริ่มรับราชการในระดับชั้นสัญญาบัตร ผลการปฏิบัติงาน ให้พิจารณาผลงานในหน้าที่รับผิดชอบที่แสดงถึงความมุ่งมั่นในการทำงาน การติดตามงานให้บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย ความรอบคอบในการปฏิบัติหน้าที่ และปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรืองานอื่นที่ได้รับมอบหมายเป็นพิเศษ รวมถึงการประเมินผลการปฏิบัติราชการโดยให้นำผลงานดีเด่นตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนด
ในการพิจารณาความประพฤติ ให้คำนึงถึงการรักษาวินัย การประพฤติตนตามประมวลกฎหมายจริยธรรมข้าราชการตำรวจ จรรยาบรรณของข้าราชการตำรวจ รวมถึงภาวะความเป็นผู้นำ ความสามารถในการปกครองบังคับบัญชา การทำงานร่วมกับผู้อื่นในหมู่คณะ มนุษสัมพันธ์ในการทำงานที่สามารถร่วมกับผู้อื่นได้มาประกอบการพิจารณาด้วย
การพิจารณาคัดเลือกให้ผู้มีอำนาจพิจารณาคัดเลือกหรือแต่งตั้งเรียงลำดับอาวุโส โดยคำนึงถึงผู้ที่ได้รับการพิจารณา จะต้องมีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งที่จะแต่งตั้งเป็นสำคัญ ขั้นตอนดำเนินการดังนี้
1. ผบก. จัดทำบัญชีข้อมูลผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นและบัญชีผู้ที่ยังไม่เหมาะสมฯ(ถ้ามี) ของข้าราชการตำรวจระดับ รอง. ผบก. เรียงลำดับผู้เหมาะสมมากที่สุดลงไปจนถึงน้อยที่สุดส่งไปยัง บช.
2. ผบช. จัดทำบัญชีข้อมูลผู้เหมาะสม เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นและบัญชีผู้ที่ยังไม่เหมาะสมฯ(ถ้ามี) ระดับ รอง ผบก. เลื่อนเป็น ผบก. และระดับผบก. เลื่อนเป็น รอง ผบช. โดยพิจารณาเป็นรูปคณะกรรมการฯ เรียงลำดับผู้เหมาะสมมากที่สุดลงไปจนถึงน้อยที่สุดส่งไปยัง ตร.
3. ผบ.ตร. จัดทำบัญชีผู้อยู่ในเกณฑ์ที่สมควรได้รับการเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น เรียงตามลำดับอาวุโส และข้อมูลของ ผบก.และผบช. ประกอบการพิจารณา เสนอไปยังคณะกรรมการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร. เป็นประธาน จตร. รอง ผบ.ตร. และผู้แทน กพ. เป็นกรรมการ) พิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติและความเหมาะสม โดยกฎหมายกำหนดให้ ผบ.ตร. ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจคัดเลือกหรือแต่งตั้งจะต้องพิจารณาจากรายชื่อข้าราชการตำรวจ ที่คณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจมีมติเสนอแนะก่อนเสนอ ก.ตร.พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป
4. ก.ตร. มีหน้าที่และอำนาจ พิจารณาให้ความเห็นชอบ หากตรวจสอบแล้วเห็นว่าไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ พ.ร.บ.นี้กำหนด ให้แจ้ง ผบ.ตร. เพื่อดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง
5. ก.ตร. มีมติเห็นชอบแล้ว นายกรัฐมนตรี นำความกราบบังคมทูล เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป
ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ จะต้องจัดทำบัญชีข้อมูลผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น บัญชีผู้อยู่ในเกณฑ์ที่สมควรจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นและการพิจารณาต้องเป็นไปตามที่กฎหมาย และกฎ ก.ตร. กำหนดทุกประการ
มิฉะนั้นแล้วหาก ก.พ.ค.ตร. หรือศาลปกครองสูงสุด วินิจฉัยหรือพิจารณาว่า การเรียงลำดับอาวุโสหรือในการแต่งตั้ง ผู้บังคับบัญชาไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ให้ถือว่าผู้บังคับบัญชาผู้นั้น กระทำผิดวินัย และให้ผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจพิจารณา ลงโทษผู้นั้นตามควรแก่กรณี ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจาก ก.พ.ค.ตร. หรือศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษา หรือคำสั่ง แล้วแต่กรณี โดยไม่ต้องทำการสอบสวนอีก แล้วรายงานให้ ก.ตร. ทราบ
ในกรณีที่ ก.ตร. มีมติเห็นว่าการไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นการจงใจหรือช่วยเหลือบุคคลหนึ่งบุคคลใด หรือเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใด ให้ถือว่าผู้บังคับบัญชาผู้นั้น กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง และให้ผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจ ดำเนินการลงโทษผู้นั้น โดยไม่ต้องดำเนินการสอบสวน
ผู้ใดให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด หรือแอบอ้างอำนาจของบุคคลใดหรือเรียก รับ ยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด หรือกระทำการใดอันมิชอบ เพื่อให้มีการแต่งตั้งหรือไม่แต่งตั้งผู้ใดให้ดำรงตำแหน่งใด ไม่ว่าการแต่งตั้งหรือไม่แต่งตั้งนั้นจะชอบด้วยหลักเกณฑ์ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 หรือไม่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี
ผมมั่นใจว่าก.ตร. จะพิจารณาให้ความเห็บชอบการแต่งตั้ง ระดับ รอง ผบช. และผบก. ตามกฎหมาย กฎก.ตร. และคำวินิจฉัยของก.พ.ค.ตร. เช่นเดียวกับการพิจารณาการแต่งตั้งระดับ ผบ.ตร. ,รอง ผบ.ตร. ,ผู้ช่วย ผบ.ตร. และผบช. ตามที่ได้พิจารณามาแล้วโดยเคร่งครัดต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โจรใต้เหิม! ยิง M79 ถล่มโรงพัก 2 ลูก ห่างอีก 5 กิโล จุดบึ้มซ้ำ
ขณะที่ พ.ต.อ.สินชัย พาบับพา ผกก.สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี กำลังปฎิบัติหน้าที่อยู่ภายในห้องทำงานชั้นล่าง และเตรียมที่จะร่วมแถวกำลังหน้า สภ. ปรากฏว่าได้ยินเสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหว
'นายกฯอิ๊งค์' คิกออฟ 30 ม.ค. ล้างบางยาเสพติด-คอลเซ็นเตอร์-ค้ามนุษย์
'ภูมิธรรม' ประกาศรัฐบาลดีเดย์ 30 ม.ค. ลุยล้างบางยาเสพติด-คอลเซ็นเตอร์-ค้ามนุษย์ ขีดเส้น 6 เดือนไม่ดีขึ้น เข้มข้นอีก ซีลชายแดน 2 ชั้น ลั่น จนท.คนใดคิดว่างานนี้ไม่เหมาะให้สมัครใจย้ายได้
‘อดีตตร. มือปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์’ แนะ 4 วิธีสำคัญ ปราบโทรหลอกลวงคนไทย
จากสภาพที่เห็น ข้าพเจ้าซึ่งเคยร่วมในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทั้งในไทย และนำทีมไปร่วมกับตำรวจจีนและประเทศอื่นๆ
นักแสดงจีนขอบคุณ 'ตร.ไทย' ช่วยรอดหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ดาราและนายแบบจีนขอบคุณตำรวจไทยช่วยเหลือกลับประเทศโดยปลอดภัย ด้านจเรตำรวจแห่งชาติเตรียมดำเนินการตามกฎหมายกับสื่อนำเสนอเฟคนิวส์การทำงานของตำรวจ
หวั่น'การเมือง'ล้วงลูก ตั้งประมุข'อลป.ไทย' ส.สื่อกีฬาฯแถลงปกป้องอธิปไตยกีฬา
จากที่หลายสมาคมกีฬาได้มีความกังวลต่อการเลือกตั้งประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยคนใหม่ ที่อาจจะสร้างความแตกแยก และอาจจะส่งผลกระทบต่อการพัฒนากีฬาของชาติอย่างมาก โดยเชื่อกันว่าจะมีการใช้อำนาจทางการเมืองเข้ามาแทรกแซงด้วยนั้น
กองปราบหอบสำนวน ส่งอัยการสั่งฟ้อง 'ทนายตั้ม' กับพวก ฉ้อโกง-ฟอกเงิน
กองปราบนำสำนวน 'ทนายตั้ม' กับพวกรวม 7 คน ฉ้อโกง-ฟอกเงิน ส่งอัยการคดีพิเศษพิจารณาสั่งฟ้องศาล 2 คดี 4 กรรม ลั่นทันกรอบฝากขัง 30 ม.ค.นี้ ส่วนคดีนอกราชพิจารณาส่งอัยการสูงสุดฟัน