
22 ธันวาคม 2567 – ดร.ณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า บุคลากรในกระบวนการยุติธรรม ทุกท่านต้องไม่ลืมว่า ท่านมีหน้าที่ตามบทบัญัตติ รัฐธรรมนูญ มาตรา 50 (1)(2)ในฐานะปวงชนชาวไทยอีกหนึ่งหน้าที่ ฉะนั้นในการปฏิบัติหน้าที่ต้องคำนึงถึงหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ดังกล่าว มิใช่มีหน้าที่ในตำแหน่งเท่านั้นดังที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เช่นการใช้กฎหมาย“ปิดปาก”กรณี มีผู้ร้องว่าการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา ที่ผ่านมาเป็นไปโดยไม่สุจริต และเที่ยงธรรม ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญส่งผลกระทบต่อสถาบันนิติบัญญัติ และประชาชนเกือบทั้งประเทศก็เห็นเป็นการเลือกตั้งที่ไม่สุจริต
แต่ทั้งผู้ตรวจการแผ่นดิน ศาลรัฐธรรมนูญ กลับใช้กฎหมายไม่รับพิจารณา ซึ่งพิจารณาตามบทบัญญัติกฎหมายก็ถูกต้อง แต่ถ้าพิจารณาถึงหลัก“แห่งความยุติธรรม”ตามพระบรมราโชวาทรัชกาลที่ 9 พระราชคำดำรัส เกี่ยวกับกฎหมาย““…กฎหมายนั้นไม่ใช่ตัวความยุติธรรม เป็นแต่เพียงเครื่องมืออย่างหนึ่ง สำหรับใช้ในการรักษาและอำนวยความยุติธรรมเท่านั้น การใช้กฎหมายจึงต้องมุ่งหมายใช้เพื่อรักษาความยุติธรรมไม่ใช่เพื่อรักษาตัวบทของกฎหมายเอง และการรักษาความยุติธรรมในแผ่นดิน ก็มิได้มีวงแคบอยู่เพียงแค่ขอบเขตของกฎหมาย หากต้องขยายออกไปให้ถึงศีลธรรมจรรยาตลอดจนเหตุและผลตามความเป็นจริงด้วย…” ผมในฐานะ”นักกฏหมาย“จึงมีคำเตือนถึง บุคคากรในกระบวนการยุติธรรม ครับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ดร.เสรี' จัดหนักผู้รักษากฎหมาย หลิ่วตา ใส่เกียร์ว่าง บดขยี้กระบวนการยุติธรรม
ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊กว่า กลัวความอำมหิต เกรงใจคนคุ้นเคย เป็นหนี้บุณคุณ อยากได้ตำแห
จับตาคดีชั้น14 เดินหน้าต่อ ที่ประชุมศาลฎีการ่วมรักษาหลักนิติรัฐ-นิติธรรม
อดีตสมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊กให้จับตาคดีชั้น14 เดินหน้าต่อ ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ร่วมรักษาหลักนิติรัฐนิติธรรม
'ดิเรกฤทธิ์' จี้ 'แพทองธาร' ต้องเป็นผู้พิสูจน์เรื่องป่วยทิพย์ของพ่อ
ดร.ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.)
'พิชิต' ชี้ 'ทวี' ต้องรับผิดชอบทางการเมือง! ปมป่วยทิพย์ชั้น 14
นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.)
ไม่รอด! บุก ป.ป.ช. ทวงถาม ‘รมต.ทวี’ หลุดโผเอื้อนักโทษเทวดาชั้น 14
สืบเนื่องจากกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่ง (ป.ป.ช.) มีมติรับเรื่องไว้พิจารณาและดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง
'หมอวรงค์' จวกยับพักโทษคดีโกง เท่ากับร่วมมือกันทำลายประเทศ!
เราต้องยอมรับว่า คดีทุจริตที่เกิดจากนักการเมือง ต้องถือว่าเป็นคดีร้ายแรง พอๆกับคดีค้ายาเสพติด หรือแม้แต่คดีฆ่าข่มขืน เพราะการทุจริตเป็นการทำลายโอกาสของประชาชน มีผลกระทบต่อการ