
“สุริยะใส” เสนอภูมิทัศน์การเมืองไทย หลังเลือกตั้งนายก อบจ.อิทธิพลการเมืองระดับชาติลงท้องถิ่นชัดเจน ชี้ผลพวงสร้างดาบสองคมในพื้นที่ ขณะเดียวกันยุทธศาสตร์กระจายอำนาจต้องวางสมดุลให้ชัดเจนกว่านี้ มิฉะนั้นไม่สามารถขับเคลื่อนทางการเมืองอย่างแท้จริง ทุกอย่างสูญเปล่าในวังวนแค่การเลือกตั้ง
2 ก.พ.2568 – ดร. สุริยะใส กตะศิลา คณบดีนวัตกรรมสังคมและผู้นำมหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง
ภูมิทัศน์การเมืองไทย หลังเลือกตั้งนายก อบจ.
ผลการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งนี้ ชี้ให้เห็นถึงบทบาทที่เพิ่มขึ้นของพรรคการเมืองระดับชาติในเวทีการเมืองท้องถิ่น ซึ่งอาจส่งผลต่ออนาคตของการเมืองไทยในหลายด้าน
1.ผลการเลือกตั้งและการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
จากผลการนับคะแนนจากทั้ง 47 จังหวัดที่มีการเลือกตั้ง นายก อบจ.พบว่า ผู้สมัครที่สังกัดและประกาศตัวในนามพรรคการเมืองระดับชาติสามารถคว้าชัยชนะในระดับท้องถิ่นได้มากกว่าร้อยละ 90
ส่วนผู้ที่ อ้างว่าลงนามอิสระที่ได้รับเลือกตั้งก็ไม่ได้อิสระจริงทั้งหมด แสดงถึงการขยายอิทธิพลของพรรคการเมืองระดับชาติเหล่านี้เข้าสู่การเมืองท้องถิ่นอย่างชัดเจน
ก่อนหน้านี้ การเมืองท้องถิ่นมักขับเคลื่อนโดย นักการเมืองท้องถิ่นที่มีฐานเสียงจากประชาชนในพื้นที่ แต่การเลือกตั้ง อบจ. ครั้งนี้ เห็นชัดว่าพรรคการเมืองระดับชาติเป็นผู้กำหนดทิศทางของการเลือกตั้ง
เมื่อนักการเมืองระดับชาติลงมามีบทบาทในการชี้นำผลการเลือกตั้ง เช่น คุณทักษิณ ชินวัตร ที่แสดงออกชัดเจนในการสนับสนุนผู้สมัครพรรคเพื่อไทย หรือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ที่ใช้เครือข่ายของพรรคภูมิใจไทยในการสนับสนุนผู้สมัครของพรรค
ผู้สมัครที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองระดับชาติ แทบไม่มีโอกาสได้รับเลือก เพราะกระแสพรรคการเมืองมีอิทธิพลมากกว่าตัวบุคคล
2.บทบาทของนักการเมืองระดับชาติในเวทีท้องถิ่น
การที่พรรคการเมืองระดับชาติใช้การเลือกตั้งท้องถิ่นเป็นเวทีเผชิญหน้าหรือแข่งขันทางการเมือง ส่งผลให้ปัญหาท้องถิ่นอาจถูกบดบังด้วยประเด็นการเมืองระดับชาติ ผู้สมัครหลายคนมุ่งเน้นการนำเสนอนโยบายที่สะท้อนถึงทิศทางของพรรคมากกว่าการแก้ไขปัญหาเฉพาะของพื้นที่ ซึ่งอาจทำให้ความต้องการและปัญหาที่แท้จริงของชุมชนไม่ได้รับการแก้ไขอย่างตรงจุด
3.ดาบ 2 คม อนาคตของการเมืองท้องถิ่น
การเข้ามามีบทบาทของพรรคการเมืองระดับชาติในเวทีท้องถิ่น อาจทำให้การเมืองท้องถิ่นสูญเสียความเป็นอิสระ และกลายเป็นส่วนหนึ่งของเกมการเมืองระดับชาติ
อย่างไรก็ตาม หากพรรคการเมือง สามารถผสานนโยบายระดับชาติให้สอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่นได้ ก็อาจเป็นโอกาสในการพัฒนาพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ
4.นัยยะต่อ การเมือง ระดับชาติ
ผลการเลือกตั้ง อบจ. ครั้งนี้ อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงแนวโน้มในการเลือกตั้ง สส. ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต พรรคที่ประสบความสำเร็จในระดับท้องถิ่นสามารถใช้โครงสร้างและเครือข่ายที่มีอยู่เพื่อสนับสนุนผู้สมัคร สส.ของพรรค
นอกจากนี้ การที่พรรคการเมืองระดับชาติได้รับชัยชนะในระดับท้องถิ่น ยังช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้สนับสนุน และเพิ่มโอกาสในการได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมในการเลือกตั้ง
5. อนาคตผู้นำและขั้วการเมือง
ต้องยอมรับว่าบารมีทางการเมืองของคุณทักษิณ ชินวัตร หดหายไปมากพอสมควร เพราะในพื้นที่ที่มีความแน่นอนกลับไม่มีความแน่นอนอีกต่อไป การคาดหวังจำนวนสส. ในการเลือกตั้งครั้งหน้าในระดับ 200 ขึ้นไปจึงเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้
ในขณะที่ค่ายสีน้ำเงินบทบาทของคุณอนุทิน ชาญวีรกูล ที่ได้เพิ่มมาในพื้นที่สำคัญหลายจังหวัด ก็จะส่งผลให้ฐานะทางการเมืองของคุณอนุทิน เข้าใกล้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมากขึ้น เพราะมีต้นทุนเดิมจากสภาสูงอยู่แล้วและจำนวน สส. รอบหน้าก็มีแนวโน้มทะลุ 100
ยิ่งถ้ากระแสแดงและส้มอ่อนลง ก็ยิ่งเป็นประโยชน์โดยตรงกับค่ายสีน้ำเงินอยู่แล้ว
6.บทสรุป
สังคมไทยต้องตอบและวางกรอบให้ชัดถึงบทบาท และภารกิจของการเมืองท้องถิ่นกับการเมืองระดับชาติและยุทธศาสตร์กระจายอำนาจต้องวางสมดุลให้ชัดเจนกว่านี้ ไม่เช่นนั้นการเลือกตั้งบ่อยๆ ถี่ๆ ทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่นแต่ไม่สามารถสร้างผลลัพธ์ที่ขับเคลื่อนการเมืองไทยได้อย่างมีรูปธรรมและเกิดการพัฒนา ทางการเมืองอย่างแท้จริงสุดท้ายก็อาจสูญเปล่า ทำให้การเมืองไทยอยู่ในวังวนแค่การเลือกตั้งเท่านั้น.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โบนัสต้องมา! องครักษ์ ดาหน้าป้องแพทองธาร คุณแม่ต้องกลับไปเลี้ยงลูก
ก่อแก้ว-องครักษ์พิทักษ์นาย โต้ฝ่ายค้าน หลังมีเสียงวิจารณ์แพทองธาร อาจไม่อยู่ฟังการอภิปรายจนครบกำหนด 37 ชั่วโมง อ้างนอกจากเป็นนายกฯแล้ว ยังมีภาระหน้าที่ในฐานะ “คุณแม่” ที่ต้องเลี้ยงดูลูกเล็ก ติงฝ่ายค้านว่าไม่ควรแขวะเกินเลย หลังวิปสามฝ่ายตกลงเวลาร่วมกันแล้ว
อึ้งทั้งบาง! 'องครักษ์' หา 'ปชน.' วางแผนประทุษกรรมซักฟอก 'ตระบัดสัตย์' จับมือลุง
สส.อนุสรณ์-องครักษ์พิทักษ์นาย โจมตี 'พรรคประชาชน' วางแผนประทุษกรรมซักฟอก สร้างความโกลาหลในสภา ก่อนนำไปขยายต่อโซเชียล พร้อมโชว์ตรรกะพิสดาร หา 'พรรคส้ม' ตระบัดสัตย์ 'จับมือลุง' ร่วมศึกซักฟอกแพทองธาร
ลือ 'เหลิม' ร่วมซักฟอก! รังสิมันต์ ลั่นโรยเกลือ 'แพทองธาร'
'รังสิมันต์' ย้ำศึกซักฟอก หลักฐานแน่ พร้อมเปิด 'ยุทธการโรยเกลือ' เอาผิดนายกฯแพทองธารหลังจบอภิปราย เย้ยฝ่ายรัฐบาลส่งสัญญาณเครียดจัดผ่านดินเนอร์ของพรรคร่วมรัฐบาล ขณะที่กระแสข่าว 'เหลิม' เข้าร่วมอภิปรายด้วยยังไม่คอนเฟิร์ม
โฆษกรัฐบาล ยืนยันนายกฯอิ๊งค์ 'เก่งจริง' จี้ฝ่ายค้านซักฟอกสร้างสรรค์ ไม่บูลลี่ด้อยค่า
จิรายุ-โฆษกรัฐบาล มั่นใจในความสามารถของ นายกฯแพทองธาร จะสามารถชี้แจงทุกประเด็นในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พร้อมเรียกร้องฝ่ายค้านทั้งรุ่นใหม่และรุ่นเก๋าอภิปรายในเชิงสร้างสรรค์เพื่อร่วมแก้ปัญหาประเทศ
'นันทเดช-ไพบูลย์' ทะลวงศึกอภิปราย ปิดฉากดีลลับทักษิณ I อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร
'นันทเดช-ไพบูลย์' ทะลวงศึกอภิปราย ปิดฉากดีลลับทักษิณ อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร : วันเสาร์ที่ 22 มีนาคม 2568
ฝ่ายค้านได้เปรียบ 3:1 ยก 4 เหตุผลทำประชาชนจับตาศึกซักฟอก
อดีตหัวหน้า ศรภ. ยกเหตุผล 4 ข้อทำให้ประชาชนให้ความสนใจการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลครั้งนี้ พร้อมวิเคราะห์สถานการณ์ในสภา ฝ่ายค้านมีความได้เปรียบ 3:1