
3 ก.พ.2568-นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” เรื่อง “เครดิตทักษิณ ต่อฝ่ายอนุรักษ์นิยม ลดลง?” ระบุว่า หลังจากผลการเลือกตั้งนายกอบจ. 47 จังหวัดเสร็จสิ้นลง และพรรคเพื่อไทยได้รับเลือกตั้งจำนวน 10 จังหวัด จากจำนวนที่ส่งสมัครทั้งหมด 16 จังหวัด และพลาดเป้าในจังหวัดสำคัญที่ถูกจับตามอง เช่นจังหวัดเชียงราย จังหวัดลำพูน และจังหวัดศรีสะเกษ ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า บารมีของนายทักษิณที่ขึ้นเวทีปราศรัย ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงอย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จพ่ายแพ้ไป อาจจะเป็นเพราะบารมีลดน้อยลง เสื่อมถอยและขาดมนต์ขลังไป
จนทำให้สมาชิกพรรคเพื่อไทยหลายคนออกมาประสานเสียงว่า นายทักษิณยังมีมนต์ขลังอยู่ ถ้าไม่ได้นายทักษิณเป็นผู้ช่วยหาเสียง ผู้สมัครในนามพรรคเพื่อไทย คงจะไม่ได้รับเลือกตั้งมากเท่านี้ ซึ่งเป็นการพูดเพื่อเอาใจนายใหญ่ ไม่ให้เสียกำลังใจ แต่สังคมรับรู้ว่าถ้านายทักษิณยังมีบารมีหรือกระแสฟีเวอร์จริง เป้าหมายจังหวัดสำคัญของพรรคเพื่อไทย น่าจะชนะทั้งหมด อย่างจังหวัดเชียงรายและจังหวัดศรีสะเกษ ที่แพ้ให้แก่ผู้สมัครกลุ่มสีน้ำเงินอย่างหลุดลุ่ย
ซึ่งตอนปราศรัยหาเสียง นายทักษิณได้คุยโม้โอ้อวด เยาะเย้ยคู่แข่งด้วยวาทะกรรมไล่หนูตีงูเง่าภาค2 และหวังจะยึดที่นั่งส.ส.ศรีสะเกษทั้งจังหวัด แต่ในที่สุดก็พ่ายแพ้ไปอย่างหมดรูป จนนายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ต้องเดินทางไปแสดงความยินดีกับชัยชนะของนายวิชิต ไตรสรณกุล ทันที เพื่อแสดงความสะใจ และเป็นการเยาะเย้ย หวังตบหน้านายทักษิณทางอ้อมไปในตัว
เมื่อผลการเลือกตั้งนายกอบจ. ออกมาเช่นนี้ ทำให้เครดิตของนายทักษิณที่มีต่อฝ่ายอนุรักษ์นิยม ที่ต้องการให้นายทักษิณเป็นตัวแทนสู้กับพรรคประชาชน และนายทักษิณเองก็ต้องการจะได้ใบอนุญาตเพื่อไปต่อทางการเมือง หวังกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง ย่อมถดถอยลง ซึ่งรับรู้ได้จากผลการเลือกตั้งนายกอบจ.ครั้งนี้ นายทักษิณไม่ได้มีบารมีจริง และหมดยุคทักษิณไปแล้ว
ขอให้จับตาดูว่า หลังจากนี้นายทักษิณจะพลิกเกม เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากฝ่ายอนุรักษ์นิยม ให้ตัวเองได้ใบอนญาตเข้าสู่อำนาจทางการเมืองได้อย่างไร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ส่งกลับ“อุยกูร์”เกมเสี่ยงหวังผลสูง คว้ากระแสลมเปลี่ยนทิศ
เหตุผลสำคัญที่รัฐบาลพยายามอธิบายเรื่องการส่งชาวอุยกูร์กลับคืนให้ทางการจีน คือ “แรงบีบจากจีน”
'นายกฯอิ๊งค์' เผยที่มาไอเดีย 'ทักษิณ' ซื้อหนี้ประชาชน
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีแนวคิดของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เรื่องการซื้อหนี้ของประชาชนออกจากระบบธนาคาร ซึ่งเมื่อประกาศออกไปประชาชนก็ว้าวมากว่าจะซื้ออย่างไร
'อิ๊งค์' ชี้ฝ่ายค้านไม่สมเหตุสมผล ซักฟอกนายกฯคนเดียว 30 ชม.
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคประชาชน (ปชน.) ยอมตัดชื่อ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกจากญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นคำว่า “บุคคลในครอบครัว” นายกฯพอใจหรือไม่
'เทพไท' เตือนประธานสภาฯ ตั้งหลักนิยามให้ชัด อภิปรายคนนอกได้แค่ไหน
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิป เปลี่ยนชื่อแล้ว อย่าวินิจฉัยอัปยศ
ประกาศไล่รัฐบาล ไม่สามัคคี 'ทักษิณ' เปิดหัวโหมโรงดีลแลกประเทศ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ชวนประชาชนมาร่วมแสดงพลังต่อต้านรัฐบาลกาสิโนและการพนันออน
จับตาศึกซักฟอก ไม่เอ่ยชื่อก็รู้ว่าใคร ตามต่อ “ฝ่ายค้าน” ขอเวลา จะสมหวังดั่งใจหรือไม่
เริ่มจะมีความชัดเจนขึ้นสำหรับเวทีอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 หรือที่รู้จักกันว่า เวทีซักฟอกรัฐบาล เพราะล่าสุด เมื่อวันที่ 17 มี.ค. “เท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน และผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ได้แก้ญัตติซักฟอก โดยขีดทับชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” และคำว่า "ผู้เป็นบิดา" ออก และเปลี่ยนเป็นคำว่า "บุคคลในครอบครัว" แทน