
9 ก.พ.2568-ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ ครม.สัญจรภาคใต้ “สามีเป็นคนใต้ ไม่ละเลยภาคใต้” ระบุว่า น่าดีใจที่ท่านนายกรัฐมนตรีจะจัดให้มีการประชุม ครม.นอกสถานที่ หรือ “ครม.สัญจร” ครั้งแรกของปี 2568 ณ จ.สงขลา ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 พร้อมทั้งตรวจราชการกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยระหว่างวันที่ 16-18 กุมภาพันธ์ 2568 นับว่าท่านนายกฯ ให้ความสำคัญกับภาคใต้ไม่น้อยกว่าภาคอื่น สมกับวาทะเด็ดของท่าน “สามีเป็นคนใต้ ถ้าละเลยคนใต้ หรือไม่รักคนใต้ คงแต่งงานกับคนใต้ไม่ได้”
แม้ว่าการตรวจราชการครั้งนี้ได้มีการบรรจุเรื่องสำคัญไว้หลายเรื่องแล้วก็ตาม แต่ผมขอถือโอกาสนี้ฝากท่านนายกฯ พิจารณาติดตามความคืบหน้าของโครงการดังต่อไปนี้ด้วย
(1) โครงการแก้ปัญหาน้ำท่วม ช่วงปลายปีมักจะเกิดน้ำท่วมในหลายจังหวัดของภาคใต้ เป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นซ้ำซากทุกปี รัฐบาลควรเร่งแก้ปัญหานี้อย่างเร่งด่วน อย่าให้น้ำท่วมเป็นฝันร้ายของคนใต้อีกต่อไป ผมเชื่อว่าหากรัฐบาลเอาจริงเอาจัง ต้องการแก้ปัญหาน้ำท่วมให้ได้ น้ำท่วมในหลายพื้นที่ของภาคใต้จะทุเลาเบาบางลงอย่างแน่นอน
(2) โครงการโมโนเรลหาดใหญ่ ผมอยากให้รัฐบาลเร่งผลักดันให้มีการก่อสร้าง “โมโนเรล” หรือรถไฟฟ้ารางเดียว ในเมืองหาดใหญ่เป็นรูปธรรมโดยเร็ว ซึ่งได้มีการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบเบื้องต้นไว้แล้ว การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ก็ผ่านการพิจารณาให้ความเห็นชอบแล้ว พร้อมที่จะก่อสร้างระยะที่ 1 ระยะทางยาว 13 กิโลเมตร วงเงินประมาณ 16,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหารถติดในเมืองหาดใหญ่ได้เป็นอย่างดี
(3) โครงการสะพานเชื่อมเกาะสมุย ผมเป็นผู้ริเริ่มแนวคิดโครงการก่อสร้างสะพานเชื่อมเกาะสมุย โดยได้เสนอความเห็นไว้ในเฟซบุ๊กเมื่อเดือนพฤษภาคม 2560 หากมีสะพานเชื่อมเกาะสมุยจะใช้เวลาข้ามทะเลแค่เพียงประมาณ 20 นาทีเท่านั้น ต่างกับในปัจจุบันที่ต้องใช้เวลานั่งเฟอร์รี่ถึงประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ขณะนี้การทางพิเศษแห่งประเทศไทยกำลังศึกษาความเหมาะสมและออกแบบเบื้องต้น ผมอยากให้รัฐบาลเร่งรัดให้มีการก่อสร้างโดยเร็ว เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของสมุยและพื้นที่ใกล้เคียง
(4) โครงการแลนด์บริดจ์ ระนอง-ชุมพร โครงการแลนด์บริดจ์ ระนอง-ชุมพร มีการโพรโมตกันอย่างครึกโครมในสมัยท่านนายกฯ เศรษฐา อีกทั้ง ผู้รับผิดชอบคุยว่ามีนักลงทุนต่างชาติจากหลายประเทศให้ความสนใจที่จะมาลงทุน แต่มาถึงวันนี้เงียบ (แทบสนิท) ไม่รู้ว่ารัฐบาลนี้ยังคงผลักดันโครงการนี้อยู่อีกหรือไม่? จะเอายังไง ก็ควรพูดความจริงออกมาให้พี่น้องประชาชนคนที่ติดตามโครงการนี้อยู่รับทราบ โดยเฉพาะผู้ที่มีส่วนได้เสีย สำหรับผมนั้นเห็นว่าถ้ามีคนสนใจมาลงทุนแทนเราจริงๆ ก็เอาเลย อย่ารีรอ!
ผมยังมีอีกหลายโครงการที่จะฝากถึงท่านนายกฯ เช่น เร่งก่อสร้างรถไฟทางคู่จากปาดังเบซาร์มาเชื่อมกับทางคู่ที่เวลานี้ก่อสร้างไปถึงชุมพรแล้ว และเร่งก่อสร้างมอเตอร์เวย์จากสุไหงโกลกมานครปฐม ซึ่งจะเชื่อมกับมอเตอร์เวย์ที่กำลังก่อสร้างบนถนนพระราม 2 ที่วังมะนาว จ.ราชบุรี เป็นต้น เพื่อทำให้ภาคใต้ “เชื่อมไทย-เชื่อมโลก” ให้ได้ ซึ่งจะส่งผลให้ปลายด้ามขวานไทยเป็นขุมทองทางเศรษฐกิจของประเทศ
หากท่านนายกฯ รักคนใต้จริง ไม่เลือกปฏิบัติ ก็เร่งสร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ต่อชาวใต้ แล้วจะรู้ว่าคนใต้จะรักท่านเช่นเดียวกัน ไม่เชื่อก็ลองดู!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
🛑LIVE สถานีต่อไป "คุก" !? | รายการพิเศษ ไทยโพสต์
ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ : วันพุธที่ 26 มีนาคม 2568
นายกฯอิ๊งค์ เสียงแข็ง! '7 งูเห่า' ไม่มีผลต่อรองเก้าอี้ คุยทักษิณแล้ว ยังไม่ปรับ ครม.
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังที่ประชุมสภามีมติไว้วางใจอย่างท่วมท้น ว่า ขอบคุณทุกท่านที่ไว้วางใจ ก็ดีใจ ตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่าพิธีการเป็นอย่างไร เพราะเป็นครั้งแรกที่เข้าไป พอประธานสภาพูดจบเสียบบัตรปุ๊บเลขขึ้นเลย
🛑LIVE โรยเกลือ เผาไฟ | ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ เปิดแผล 'ตระกูลชินฯ'
ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ : วันอังคารที่ 25 มีนาคม 2568
🛑LIVE “ศึก(ไม่)สมศักดิ์ศรี”? | รายการพิเศษ ไทยโพสต์
ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ : วันอังคารที่ 25 มีนาคม 2568
ทุบ 'นายกฯอิ๊งค์' ขาดภาวะผู้นำแก้ฝุ่น PM 2.5 รัฐมนตรีไม่เห็นค่า หน่วยงานไม่เห็นหัว
นายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.เชียงใหม่ พรรคประชาชน อภิปรายว่า ปี 2567 เป็นปีที่ประเทศของเราต้องเจอกับภัยพิบัติที่รุนแรง เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ ภัยแล้ง และฝุ่นพิษ แต่ภัยพิบัติหนักที่สุดที่ประเทศไทยต้องเจอ คือการมีนายกรัฐมนตรี
🛑LIVE เปิดแผลสอง รัฐบาล คางดำ หรือ คางเหลือง
ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ : วันจันทร์ที่ 24 มีนาคม 2568