
11 ก.พ. 2568 – นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” อภิปรายไม่ไว้วางใจ ทักษิณปากกล้าขาสั่น
หลังจากพรรคฝ่ายค้าน จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลชุดนี้ ทำให้เกิดกระแสโหมโรงญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ จนเกิดวิวาทะกันระหว่างพรรคฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ซึ่งสรุปประเด็นเกี่ยวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ดังนี้ คือ
1.การอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ อาจมีการพาดพิงถึงนายทักษิณกรณีชั้น14 ซึ่งนายทักษิณออกมายืนยันว่า พร้อมชี้แจงถ้าพาดพิงมา เพียงแต่ไม่สามารถจะเข้าไปประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ แต่จะลากเก้าอี้มาเพื่อชี้แจงที่ถูกพาดพิงทั้งหมดถ้าถูกฝ่ายค้านอภิปรายมา และเชื่อมั่นว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สามารถตอบคำถามได้อย่างแน่นอน ซึ่งเป็นการแสดงความเชื่อมั่น และสร้างขวัญกำลังใจให้กับรัฐมนตรีผู้ถูกอภิปราย ในฐานะเจ้าของรัฐบาลตัวจริง การออกมาพูดเช่นนี้ของนายทักษิณ น่าจะเป็นการพูดแบบปากกล้าขาสั่นมากกว่า
2.มีรัฐมนตรีหลายคน ส.ส.พรรคเพื่อไทยและลิ่วล้อของนายทักษิณ ออกมาตีกันพรรคฝ่ายค้าน ไม่ให้อภิปรายพาดพิงถึงบุคคลภายนอก คือนายทักษิณ โดยอ้างระเบียบข้อบังคับ และไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง อาจจะถูกฟ้อง จากบุคคลภายนอกได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นการตีกันพรรคฝ่ายค้านไม่ให้พาดพิงถึงนายทักษิณมากกว่า ทั้งที่นายทักษิณได้แสดงบทบาทเสมือนนายกรัฐมนตรีตัวจริง การจะอภิปรายถึงตัวนายทักษิณได้หรือไม่นั้น อยู่ที่เทคนิคการเขียนญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งสามารถเขียนประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการครอบงำรัฐบาลของบุคคลภายนอก ถ้าเป็นประเด็นอยู่ในญัตติก็สามารถอภิปรายได้ การพาดพิงให้บุคคลภายนอกเสียหายก็สามารถฟ้องร้องได้ ผู้อภิปรายพร้อมที่จะแสดงความรับผิดชอบ แต่การออกมาขู่เช่นนี้ น่าจะเป็นการพูดเอาใจนายใหญ่มากกว่า
3.การกำหนดวันอภิปราย ซึ่งพรรคฝ่ายค้านต้องการใช้เวลา5วัน แต่ฝ่ายรัฐบาลออกมาบอกว่าให้เวลาเพียง2วันนั้น ไม่ควรกำหนดวันอภิปรายที่ตายตัวไว้ล่วงหน้า ต้องดูรายละเอียดของญัตติและจำนวนรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจเสียก่อน ถ้าหากรัฐมนตรีถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจหลายคน และมีเนื้อหาการอภิปรายจำนวนมาก ก็ต้องใช้เวลาอภิปรายตามสภาพความเป็นจริง อาจจะเป็น2วัน หรือ5วัน หรือจำนวนกี่วันก็ได้ตามความเหมาะสม
อยากให้การยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคฝ่ายค้าน เป็นเรื่องการทำหน้าที่ตรวจสอบฝ่ายบริหาร เป็นการถ่วงดุลตามหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่เป็นการยื่นอภิปรายตามฤดูกาล หรืออภิปรายแบบแก้บนให้ผ่านๆไป และฝ่ายรัฐบาลต้องนำพยานหลักฐานและเหตุผลมาหักล้างคำอภิปรายให้ได้ ถ้าทุกฝ่ายทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุดแล้ว ประโยชน์ก็จะเกิดกับประชาชนและประเทศชาติอย่างแน่นอน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อิ๊งค์' โพสต์ภาพคู่ 'ทักษิณ' สุขสันต์วันพ่อ อดทนไว้ เราจะได้ไปเที่ยวรอบโลกด้วยกัน
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ภาพถ่ายร่วมกับนายทักษิณ ชินวัตร พร้อมระบุข้อความผ่านอินสตาแกรมว่า
'ไอติม' เลี่ยงยื่นซักฟอก ใช้กลไกอื่นตรวจสอบรัฐบาลแทน
'พริษฐ์' ปัดตอบยื่นซักฟอกรัฐบาล ขอใช้กลไกอื่นของสภาตรวจสอบเข้มข้นแทน เชื่อถกแก้ รธน. วาระ 2 จบภายใน 3 วัน นัดประชุมวิปฝ่ายค้านวางกรอบ 9 ธ.ค.
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ
'อนุทิน' ยันไม่มีดีลเพื่อไทยชะลอยื่นซักฟอกรัฐบาล
"อนุทิน" ลั่นเตรียมทุกอย่างให้พร้อมรอเลือกตั้ง ยังไม่บอกพร้อมจับมือหลังลต.กับพรรคใด ไม่กังวลกระแสตกห่วงแต่แก้ปัญหาน้ำท่วมได้ไม่ทันใจ
ขนลุก! กูรูใหญ่ สาปแช่งพรรคเพื่อไทย หลังข่าวซูเอี๋ยพรรคส้ม
ความคิดที่เพื่อไทยและประชาชนจะจับมือกันตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งแล้วเลื่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ คือท่าดีทีล้มละลายทางการเมือง
‘เทพไท’ เปิดสาเหตุ 'เพื่อไทย' ไม่กล้ายื่นซักฟอก ทั้งที่ตัวเองได้เปรียบ
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิประบุว่า


