ศูนย์ทนายฯ จับตา ย้ายผู้ต้องขังทางการเมืองจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไปเรือนจำอื่น

26 ก.พ.2568- เพจ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. 2568 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับแจ้งว่าเริ่มมีการย้ายตัวผู้ต้องขังในคดีทางการเมืองที่เคยถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไปยังเรือนจำอื่น ๆ พร้อมการย้ายผู้ต้องขังทั่วไปด้วย โดยการโยกย้ายครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงการย้ายผู้ต้องขังที่คดีถึงที่สุดแล้ว ซึ่งทางราชทัณฑ์เคยระบุว่าเพื่อลดความแออัดในเรือนจำ แต่ผู้ต้องขังที่คดียังไม่สิ้นสุดก็ถูกย้ายไปด้วยเช่นกัน

จนถึงวันที่ 26 ก.พ. นี้ พบว่ามีการย้ายผู้ต้องขังทางการเมืองไปแล้ว 3 คน โดยทุกกรณีไม่มีการแจ้งญาติล่วงหน้า ได้แก่

1. ทีปกร ผู้ต้องขังในคดีตามมาตรา 112 กรณีโพสต์และแชร์คลิปตั้งคำถามถึงสถาบันกษัตริย์ เขาถูกคุมขังหลังถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุก 3 ปี และไม่ได้รับการประกันตัว ทำให้ตัดสินใจถอนอุทธรณ์ไม่ต่อสู้คดีต่อ

ทีปกรถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 19 มิ.ย. 2566 รวม 1 ปี 8 เดือนเศษ และเมื่อวันที่ 20 ก.พ. เขาถูกย้ายตัวไปคุมขังที่ #เรือนจำกลางพระนครศรีอยุธยา

2. ขจรศักดิ์ ผู้ต้องขังคดีถูกกล่าวหาปาระเบิดปิงปองเข้าใส่อาคาร สน.พญาไท และวางเพลิงป้อมจราจรที่แยกพญาไท ในการชุมนุมย่านดินแดงเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2564 ซึ่งถูกคุมขังระหว่างอุทธรณ์หลังถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุก 11 ปี 6 เดือน โดยไม่ได้รับการประกันตัว

คดีของขจรศักดิ์ ยังไม่สิ้นสุดลง ยังอยู่ระหว่างรอฟังคำพิพากษาในชั้นอุทธรณ์ แต่เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา มีรายงานว่าเขาถูกย้ายตัวไปยัง #เรือนจำกลางคลองเปรม โดยที่คดีของขจรศักดิ์ ยังมีคู่คดี คือคเชนทร์ ที่ถูกคุมขังหลังศาลอาญาพิพากษาจำคุก 10 ปี 6 เดือน แต่จนถึงขณะนี้คเชนทร์ก็ยังไม่ได้ถูกย้ายเรือนจำไปแต่อย่างใด

3. เชน ชีวอบัญชา หรือ “ขุนแผน” ผู้ต้องขังในคดีมาตรา 112 และดูหมิ่นศาล ซึ่งถูกคุมขังระหว่างอุทธรณ์กรณีทำกิจกรรมหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ หลังศาลพิพากษาจำคุก 3 ปี 6 เดือน

ในวันที่ 26 ก.พ. นี้ มีรายงานว่าขุนแผนถูกย้ายตัวไปยัง #เรือนจำกลางบางขวาง โดยไม่มีใครทราบล่วงหน้าอีกด้วย

ก่อนหน้านี้ ทางเรือนจำมีนโยบายการลดความแออัดของผู้ต้องขัง โดยการย้ายตัวผู้ต้องขังที่คดีถึงที่สุดแล้ว ไปยังเรือนจำอื่น ๆ โดยพบว่ามีการอ้างอิงระเบียบกรมราชทัณฑ์ ว่าด้วยหลักเกณฑ์การคัดเลือกและย้ายนักโทษเด็ดขาดไปเรือนจำชั่วคราวและทัณฑสถานเปิด พ.ศ. 2564

เมื่อปี 2566 เรือนจำมีการย้ายตัวผู้ต้องขังทางการเมืองในคดีสหพันธรัฐไท 2 ราย ได้แก่ กฤษณะ และวรรณภา ที่คดีสิ้นสุดแล้ว จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลาง ไปยังเรือนจำกลางพระนครศรีอยุธยา และทัณฑสถานหญิงชลบุรี ตามลำดับ ซึ่งส่งผลให้ญาติเดินทางไปเยี่ยมได้ค่อนข้างลำบาก (ทั้งสองคนได้รับการปล่อยตัวในช่วงปี 2567 แล้ว)

แต่กรณีการย้ายตัวผู้ต้องขังที่คดียังไม่สิ้นสุดเช่นนี้ ยังไม่เคยมีรายงานมาก่อน ญาติของผู้ต้องขังที่ถูกย้ายเรือนจำครั้งนี้ ได้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ ได้รับข้อมูลเบื้องต้นว่าในรอบนี้ ทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มีแผนจะย้ายผู้ต้องขังที่มีคำพิพากษาแล้วไปยังเรือนจำอื่น ๆ ให้เหลือเฉพาะผู้ต้องขังในคดีที่ยังไม่มีคำพิพากษา

หากเป็นไปตามข้อมูลดังกล่าว ผู้ต้องขังในคดีที่มีคำพิพากษาในศาลชั้นต้นแล้ว แม้คดียังไม่สิ้นสุด ก็อาจถูกย้ายตัวได้ แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะมีการย้ายตัวผู้ต้องขังที่เข้าข่ายลักษณะนี้ทั้งหมดเลยหรือไม่ และมีเกณฑ์ที่ชัดเจนกว่านี้อย่างไร ยังต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เด้งเพิ่มอีก 4 ราย ผอ.-จนท.เรือนจำพิเศษฯ เห็นขบวนการคุกวีไอพี แต่ไม่ระงับยับยั้ง

'รมว.ยุติธรรม' เผย มีคำสั่งเด้ง 'ผอ.ส่วนควบคุมผู้ต้องขัง' พร้อมเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ออกจากราชการไว้ก่อนเพิ่มอีก 4 นาย หลังพยานหลักฐาน-พยานบุคคลให้การมัดพฤติกรรมรู้เห็นขบวนการคุกวีไอพีแต่ไม่ระงับยับยั้ง แย้มวันเข้าตรวจเรือนจำวันแรก มีเจ้าหน้าที่เขียนจดหมายน้อยยัดใส่มือคอยให้เบาะแสความผิดปกติในเรือนจำฯ

นายกฯ ลั่น ฟันไม่เลี้ยง ​ใครเอี่ยว​เอื้อนักโทษจีนวีไอพี ปาร์ตี้มั่วเซ็กซ์ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

'นายกฯอนุทิน​' ลั่นฟันไม่เลี้ยง ​ใครเอี่ยว​เอื้อนักโทษจีนวีไอพี ปาร์ตี้มั่วเซ็กซ์ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ซัด​ จงใจเลี่ยงกฎระเบียบ​

'ราชทัณฑ์' ส่งชุดจู่โจม ค้นเพิ่มแดน 8 เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

นายยุทธนา นาคเรืองศรี รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ นำกำลังเข้าจู่โจมตรวจค้นที่แดน 8 เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นแดนที่มีผู้ต้องขังมากที่สุดของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร กว่า 900 คน

เดือด! แกนนำคปท. จวก เรือนจำพิเศษ โกงความผิดจากคนทำผิด สมควรประหาร ให้สิ้นความชั่ว

นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า เรือนจำ (พิเศษ)

'อดีตผู้พิพากษา' เห็นด้วยคำสั่งบังคับโทษจำคุกทักษิณ 1 ปี แต่ไม่เห็นพ้องวันเริ่มนับโทษ จับตาขังนอกเรือนจำ

นายวัส ติงสมิตร นักวิชาการอิสระ อดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา และอดีตประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) โพสต์เฟซบุ๊ก เรื่อง ศาลฎีกาตัดสินจำคุกทักษิณ 1 ปี โดยไม่เอาเวลาที่อยู่ในโรงพยาบาลตำรวจมาหักเป็นวันคุมขัง มีเนื้อหาดังนี้

อุต๊ะ! ถึงขั้นล้างเรือนจำรับ 'ทักษิณ' ปิดห้ามเยี่ยมญาติ 8-9 ก.ย.

จากกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำสั่งคดีหมายเลขดำที่ บค.1/2568 กรณีตรวจสอบข้อเท็จจริงการ