เด้งรับทันควัน! 'ก๊วนสามนิ้ว' ยื่นพรรคปชน. ซักฟอกนายกฯอิ๊งค์ เคยหาเสียงกลุ่มต้าน ม.112

"ก๊วนสามนิ้ว" ภายใต้ชื่อกลุ่มนิรโทษกรรมประชาชน ยื่นหนังสือถึงพรรคประชาชน ขอบรรจุประเด็นสิทธิเสรีภาพ-ม.112 ในหัวข้ออภิปรายไม่ไว้วางใจ "ทนายแจม" รับลูกยันซักฟอกนายกฯแน่

20 มีนาคม 2568 - ที่รัฐสภา กลุ่มนิรโทษกรรมประชาชน ยื่นหนังสือถึงนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจในประเด็นสิทธิเสรีภาพของประชาชน และคดีทางการเมืองด้วย เนื่องจาก 2 ปีที่ผ่านมายังไม่มีการแก้ไขปัญหาแต่อย่างใด ซึ่งมีน.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม.พรรคประชาชน เป็นตัวแทนรับหนังสือ

โดยตัวแทนกลุ่มฯ กล่าวว่า สืบเนื่องจากในช่วงเวลาที่กำลังจะมาถึงจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจถึงการทำงานของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พวกตนจึงอยากเรียนถึงนายณัฐพงษ์ ในสภาพปัญหาด้านสิทธิเสรีภาพทางการเมืองที่เกิดขึ้น ปัญหาทางคดีความทางการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี และเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองก่อนหน้านั้น ทำให้มีคนออกมาชุมนุมประท้วง และใช้สิทธิเสรีภาพทางการเมือง จำนวนมาก ซึ่งต้องถูกดำเนินคดี และมีหลายคนที่ต้องลี้ภัยทางการเมืองออกไปต่างประเทศ มีอีกหลายคนที่ยังถูกจองจำในเรือนจำ โดยไม่สมควรตั้งแต่แรก

ตัวแทนกลุ่มฯ กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล เคยมองเห็นประเด็นดังกล่าวเป็นหนึ่งในปัญหา และเคยกล่าวว่าเป็นประเด็นหนึ่งที่ต้องการจะแก้ไข แต่ขณะนี้ใกล้จะครบ 2 ปี รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยตั้งแต่ยุคของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี จนมาถึงน.ส.แพทองธาร ยังไม่เห็นว่าฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติ จะเอาจริงเอาจังในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลที่ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ วาระ 2568-2570 ซึ่งมีภารกิจในการจัดการสถานการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนให้เป็นไปตามพันธกิจด้านสิทธิมนุษยชน

ตัวแทนกลุ่มฯ กล่าวอีกว่า ในความเป็นจริงรัฐไทยสามารถดำเนินการบรรเทาปัญหาให้เบาลง เพื่อคุ้มครองสิทธิให้สอดคล้องตามมาตรฐานสิทธิมนุษยชนสากล และข้อเสนอจากองค์การระหว่างประเทศต่างๆ เช่น ผู้รายงานพิเศษแห่งสหประชาชาติ ด้านเสรีภาพในการแสดงออกความคิดเห็นและการแสดงออกสหภาพยุโรป และการทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนตามวาระครั้งล่าสุดในปี 2564 แนะนำให้ประเทศไทยใช้มาตรา 112 และระบุว่าควรมีการนิรโทษกรรมผู้ต้องขังคดีการเมืองแต่รัฐบาลกับเลือกที่จะไม่ทำอะไรให้เป็นรูปธรรมเลย ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมในสังคม และทำให้ประเทศได้รับความเสียหายในเชิงเศรษฐกิจ และสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ดังนั้น จึงอยากฝากให้นายณัฐพงษ์เห็นถึงปัญหาดังกล่าว และฝากเสียงของผู้รักในเสรีภาพ และประชาธิปไตย ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ หวังว่าคดีทางการเมืองของทุกคน จะได้รับการแก้ไขอย่างเร็ววัน และการออกกฎหมายนิรโทษกรรมคดีความทางการเมือง โดยรวมคดีมาตรา 112 ด้วย เพราะ 1 วันที่ยังไม่ดำเนินการคือ 1 วันที่พวกเขาเสียสิทธิเสรีภาพไป

ขณะที่นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข นักกิจกรรมทางการเมือง กล่าวว่า จริงๆ น.ส.แพทองธาร เป็นคนที่รู้เรื่อง หรือพูดว่ารู้สี่รู้แปดก็ได้ เพราะเคยพูดหาเสียงว่า หากได้เป็นรัฐบาลจะขอร้องต่อศาล หรือขอความเมตตาจากศาล เพื่อปล่อยตัวพวกเขา รวมถึงการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และนายเศรษฐาก็เคยกล่าวไว้เช่นเดียวกัน

ดังนั้น จึงอยากให้เป็นเรื่องที่ฝ่ายค้านหยิบยกมาอภิปรายว่า สิ่งที่เคยหาเสียงไว้นั้น ไม่ได้ดำเนินการ และขณะนี้สถานการณ์ของผู้ต้องขังทางการเมืองก็เลวร้ายลงไปด้วย ทั้งการที่มีการย้ายผู้ต้องขังจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ไปที่เรือนจำกลางบางขวาง ซึ่งเป็นที่คุมขังนักโทษประหารชีวิต เราเห็นว่าทางกรมราชทัณฑ์รวมถึงรัฐมนตีว่าการกระทรวงยุติธรรม การย้ายผู้ต้องเช่นนี้ เป็นการกลั่นแกล้งให้ได้รับความทุกข์ทรมาน หรือมีเจตนาแฝงฆาตรกรรมคนเหล่านี้ด้วยหรือไม่ และอยากให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้

ด้าน น.ส.ศศินันท์ กล่าวยืนยันว่า จะมีการบรรจุเรื่องนี้เป็นหนึ่งในหัวข้ออภิปราย ส่วนเรื่องการย้ายเรือนจำนั้น ตนและนายณัฐพงษ์ได้เข้าไปเยี่ยมนักโทษทางการเมืองเป็นการส่วนตัว ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยหนึ่งในบทสนทนาเป็นเรื่องของการย้ายเรือนจำ ซึ่งนักโทษทางการเมืองก็มีความประสงค์ว่า จะไม่ย้ายเรือนจำ และยืนยันว่า ไม่ได้เป็นผู้ต้องขังอุกฉกรรจ์ แต่เป็นผู้ต้องขังทางความคิด

ปัจจุบันการอยู่ในเรือนจำ ก็มีความยากลำบากแล้ว เขาจึงขอเพียงแค่ได้อยู่ด้วยกัน และวันนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก็รับปาก รวมถึง ผบ.เรือนจำพิเศษด้วย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าการรับปากในวันนั้น จะเป็นการรับปากส่งๆ หรือไม่ เพราะหลังจากนั้น ก็มีการย้ายผู้ต้องขังทางการเมืองไปเรือนจำอื่น

นอกจากนั้น ในส่วนของรัฐบาล สิ่งหนึ่งที่สามารถทำได้ คือการกำหนดนโยบาย โดยไม่ต้องรอกฎหมายนิรโทษกรรม หากรัฐบาลมีความจริงใจที่จะแก้ปัญหา จึงอยากเรียกร้องไปยังรัฐบาลให้ลองคิดว่า ทุกคนที่อยู่ในเรือนจำเป็นญาติพี่น้องของท่าน หากเป็นเช่นนั้น ท่านจะดำเนินการอย่างไร

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' ยังนิ่ง! ไม่ตอบโต้ 'เท้ง' ปิดประตูร่วมรัฐบาลกับภูมิใจไทย

"อนุทิน" บอกหลังเลือกตั้งพร้อมจับมือกับพรรคที่สร้างประโยชน์ให้บ้านเมือง ไม่อยากพูดก่อน ผลลต.ออก เดี๋ยวทำไม่ได้ใครพูดก่อนต้องกลืนน้ำลาย

ศึกเลือกตั้งรอบใหม่ กับ 'สามก๊กฉบับชาติวิบัติ' ภาค 3

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า สามก๊กฉบับชาติวิบัติ ภาค 3 (มีการปรับเปลี่ยนฝ่ายและชื่อตัวละครให้สอดคล้องสถานการณ์)

'โรม' โวยโดนปั่นกระแส 'ทหารมีไว้ทำไม' หวังดิสเครดิตเลือดตั้ง ลั่น ปชน.แค่อยากเห็นทหารอาชีพ

'โรม' เดือดซัด 'นักการเมือง' ฝั่งตรงข้าม ใช้เหตุปะทะชายแดนมาโจมตีพรรคส้ม กล่าวหา 'ปชน.' เกลียดทหาร ฉะ นักการเมือง-ข้าราชการสีเทา เอื้อประโยชน์แก๊งสแกมเมอร์-กินเงินเดือนจาก 'ฮุน เซน'

ปชน. เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส. 5 เขตจังหวัดพิษณุโลก ส่ง 'ณฐชนน' แก้มือเขต 1 อีกรอบ

พรรคประชาชนจังหวัดพิษณุโลกจัดการประชุมไพรมารีโหวต (Primary Vote) เพื่อรับรองว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค

รัฐบาลพรรคเดียวในทางทฤษฎี กับการเมืองจริงของพรรคส้ม

พรรคประชาชน หรือที่ถูกเรียกกันทั่วไปว่า “พรรคส้ม” ตั้งเป้าหมายทางการเมืองไม่ใช่แค่การชนะเลือกตั้ง แต่คือการได้เสียงเกินครึ่งสภา มากกว่า

เลขาฯ ปชน. สุดมั่นใจกวาดครบทุกเขต 33 พื้นที่กรุงเทพฯ ใกล้เลือกตั้ง 'เท้ง' คะแนนพุ่ง

เลขาฯพรรคประชาชน มั่นใจ กวาดครบ 33 พื้นที่ กทม. แม้ผลโพลความนิยมพรรคประชาชนลดลง เหตุ หนุน "อนุทิน-ปัญหาชายแดน" เชื่อ เวลาที่เหลือสมามรถชี้แจงได้ โว ใกล้เลือกตั้ง "เท้ง" เจิดจรัสคะแนนนิยมพุ่งแน่ ปัดตอบจุดยืน 112 ห่วงขัดศาล รธน. ชี้ "ณัฐพงษ์" ยังไม่ปิดโอกาสจับมือ 100% แต่ต้องการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ด้าน"กาย" ยัน คว้าชัยกทม.ได้แน่นอน