อธิบดีดีเอสไอ ตั้งทีมสอบคนไทยเป็นนอมินีจีนสร้างตึก สตง. ล็อกเป้าเอาผิดฐานเดียวก่อน

"อธิบดีดีเอสไอ" รับคดีนอมินี บริษัทไชน่าฯ ผู้ก่อสร้างตึก สตง. 30 ชั้นถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว เป็นคดีพิเศษแล้ว พร้อมเซ็นตั้งคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษกว่า 35 คน ลุยสอบสวนกรรมการผู้ถือหุ้นใหญ่ชาวไทยบังหน้ากรรมการตัวจริง

2 เมษายน 2568 - สืบเนื่องจากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เร่งพิจารณาคดีโครงการก่อสร้างที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (อาคาร สตง.) แห่งใหม่ ความสูง 30 ชั้น บริเวณตรงข้ามย่านการค้าตลาดนัดจตุจักร ใกล้ MRT กำแพงเพชร ติดสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (บางซื่อ) ตรงข้ามศูนย์การค้า JJ MALL เกิดถล่มลง เนื่องด้วยเเรงสั่นสะเทือนจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ขนาด 7.7 ความลึก 10 กม. บริเวณรอยเลื่อนสะกาย ประเทศเมียนมา เพื่อพิจารณาพยานหลักฐานว่าเข้าข่ายรับไว้เป็นคดีพิเศษ ใน 3 ฐานความผิด คือ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 พ.ร.บ.ว่าด้วยมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 ตามที่มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า สำหรับกรณีดังกล่าว เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (1 เม.ย.) ตนได้ใช้อำนาจอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รับดำเนินการกรณีความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 หรือนอมินี ไว้เป็นคดีพิเศษที่ 32/2568 เรียบร้อยแล้ว รวมถึงได้มีการเซ็นแต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษกว่า 35 ราย โดยมีทั้งในส่วนของกองคดีคุ้มครองผู้บริโภค กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ และเจ้าหน้าที่คดีพิเศษชำนาญการ เป็นต้น ทำให้ในวันนี้ตนได้มีการมอบหมายงานให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษแต่ละรายไปดำเนินการสืบสวนสอบสวน แสวงหาข้อมูลพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับฐานความผิดเพื่อใช้ในสำนวนคดี ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลตัวบุคคลที่เป็นกรรมการหุ้นส่วนต่าง ๆ ของบริษัทผู้ก่อสร้างตึก รวมไปถึงผู้ถือหุ้นสัญชาติไทย เพื่อพิสูจน์ทราบเรื่องสัดส่วนการถือหุ้น และที่สำคัญคือต้องได้ข้อมูลมาให้ได้ว่าเหตุใดจึงมีการไปถือหุ้นแทนชาวต่างชาติ และรวบรวมเอกสารที่เป็นของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นต้น

พ.ต.ต.ยุทธนา เผยอีกว่า ตอนนี้ดีเอสไอรับดำเนินการเป็นคดีพิเศษในส่วนของฐานความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 หรือนอมินี ฐานเดียวก่อน ส่วนความผิดอื่นนอกจากนี้ หากพบเจอเพิ่มเติม ก็สามารถรับเป็นคดีพิเศษเข้าไปได้ เนื่องด้วยเป็นเรื่องเกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันกัน ย้ำว่าตอนนี้ดีเอสไอจะเน้นสืบสวนสอบสวนขยายผลในฐานความผิดหลักก่อน แต่จะไม่ละทิ้งประเด็นการจัดซื้อจัดจ้างวัสดุอุปกรณ์ ภายในสำนักงาน ซึ่งต้องดำเนินการไปทีละขั้นตอนก่อน

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานเพิ่มเติมว่า ในวันพรุ่งนี้ (3 เม.ย.) อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะได้มีการนัดหมายประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ภายหลังจากที่วันนี้พนักงานสอบสวนได้ไปดำเนินการสืบสวนสอบสวน ขยายผล และรวบรวมพยานหลักฐานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความผิดเรื่องนอมินี เพื่อที่จะได้รับทราบข้อมูลอย่างพร้อมเพรียงกันว่าพบเจอข้อมูลอย่างไรบ้าง

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า บริษัทแห่งนี้ได้จดทะเบียนเมื่อวันที่ 10 ส.ค.2561 โดยพบว่าบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด มีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท จำแนกเป็นสัดส่วนผู้ถือหุ้นสัญชาติไทย 51 ล้านบาท จำนวน 510,000 หุ้น สัดส่วน 51% เป็นบุคคล 3 ราย คือ 1.นายโสภณ มีชัยถือหุ้น 40.7997% 2.นายประจวบ ศิริเขต ถือหุ้น 10.2% และ 3.นายมานัส ศรีอนันท์ 0.0003% ส่วนสัดส่วนผู้ถือหุ้นสัญชาติจีน 49 ล้านบาท จำนวน 490,000 หุ้น สัดส่วน 49% เป็นบุคคล 1 ราย คือ นายชวนหลิง จาง .

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จ่อฟันซ้ำ! 'ผบ.คุก - 19 ผู้คุม' พักราชการ-ให้ออกไว้ก่อน

'โฆษกกรมราชทัณฑ์' เผยอีก 1-2 วันนี้ เตรียมเปลี่ยนแปลงคำสั่ง 'ผบ.เรือนจำฯ-จนท.' รวม 20 ราย ส่อ 'พักราชการ-ให้ออกจากราชการไว้ก่อน ขณะที่ 'ดีเอสไอ' ลุยสอบปากคำเก็บหลักฐานมัดผิด

ลุ้นกันยาวๆ 24 ธ.ค.ศาล รธน.นัดไต่สวนพยานคดี 'ภูมิธรรม-ทวี' จุ้นคดีฮั้ว สว.

ศาล รธน.นัดไต่สวนพยานคดีสถานะ 'ภูมิธรรม-ทวี' จุ้นคดีฮั้วเลือก สว. 24ธ.ค.นี้ พร้อมไม่อนุญาต 'สราวุธ' ถอนตัวจากการพิจารณาคดี

บุกรวบ ‘นอมินีจีน’ เปิดโรงแรมเถื่อนกลางเชียงใหม่

เจ้าหน้าที่หลายหน่วยบุกตรวจ “โรงแรมเยลโล่ฯ” พบเปิดให้บริการรายวัน 18 ห้อง เต็มทุกห้อง จ่ายค่าพักผ่านแอพ–โอนตรงเข้าบัญชีชาวจีน คนไทยเพียงเป็นตัวแทนดำเนินกิจการ สุดท้ายยอมรับไม่มีใบอนุญาต ก่อนถูกแจ้งข้อหาทันที