
'แพทยสภา' แจงยิบสอบจริยธรรมหมอรักษา 'ทักษิณ' ยันมีไทม์ไลน์ชัดเจน ยังอยู่ในขั้นตอนที่ 4 ไม่ถึงกรอบเวลา 6 เดือน จับตาหากพิจารณาแล้วเสร็จส่งต่อสภานายกพิเศษรับรองคือ 'รมว.สาธารณสุข' ถ้ามีข้อโต้แย้งต้องนำกลับบอร์ดแพทยสภาพิจารณาอีก ด้าน 'หมออมร' อิสระเต็มที่ ระบุ 3 ขั้นตอนที่้เหลือต้องผ่าน กก.แพทยสภา 70 คน
11 เม.ย.2568- ที่แพทยสภา วันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา พร้อมด้วย รศ.(พิเศษ) นพ.เมธี วงศ์ศิริสุวรรณ กรรมการแพทยสภา และ รศ.นพ.ต่อพล วัฒนา กรรมการแพทยสภา แถลงข่าวภายหลังการประชุมแพทยสภา ถึงกรณีการสอบสวนจริยธรรมทางวิชาชีพเวชกรรมของแพทย์ รพ.ราชทัณฑ์และแพทย์ รพ.ตำรวจ กรณีการพักรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร ที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยมี ศ.เกียรติคุณ นพ.อมร ลีลารัศมี เป็นประธานคณะอนุกรรมการสอบสวนเฉพาะกิจ อยู่ภายในการแถลงข่าวด้วย
รศ.(พิเศษ) นพ.เมธี วงศ์ศิริสุวรรณ กรรมการแพทยสภา กล่าวว่า ขออธิบายขั้นตอนการพิจารณาสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีที่มีแพทย์ถูกร้องเรียน โดยเริ่มต้นจากเมื่อมีผู้ร้องเรียนเข้ามา ก็จะมีการส่งเรื่องไปยังลำดับที่ 1 คณะอนุกรรมการจริยธรรมพิจารณา ซึ่งมีกรอบเวลาในการทำงาน 4 เดือน ขยายเวลาได้ 2 เดือน จากนั้นจะนำมติเข้าสู่ลำดับที่ 2 อนุกรรมการกลั่นกรอง ให้ความเห็นเพิ่มเติมประกอบในสำเนา มีกรอบเวลาทำงาน 1-2 เดือน จากนั้นก็จะส่งมายังลำดับที่ 3 คณะกรรมการแพทยสภาชุดใหญ่ที่มีการประชุมเดือนละ 1 ครั้ง โดยขั้นตอนนี้มีกรอบเวลา 1-2 เดือนในการพิจารณาว่าคดีที่ถูกร้องมีมูลหรือไม่ หากไม่มีมูลก็จะจบไป แต่ถ้ามีมูลก็ต้องสอบสวนเพิ่มเติมในลำดับที่ 4 อนุกรรมการสอบสวนพิจารณาคดีต่อ ซึ่งมีการกำหนดกรอบเวลาชัดเจนว่าจะต้องสิ้นสุดลงเมื่อใด โดยนับเวลาตั้งแต่วันที่อนุกรรมการสอบสวนได้รับเอกสาร จะให้เวลาประมาณ 180 วันหรือ 6 เดือน ให้มีมติว่ามีการ “ยกข้อกล่าวหา” หรือ “ผู้ถูกร้องมีความผิด”
“กรณีที่มีความจำเป็นจริงๆ ถ้าเห็นว่าสอบสวนไม่ทัน เช่น ต้องใช้เวลารอเอกสาร ติดต่อไม่ได้ จะมีการขยายเวลาได้ครั้งละ 1 เดือน เต็มที่ไม่เกิน 120 วัน 4 เดือน ดังนั้นระยะเวลาที่อยู่ในอนุกรรมการสอบสวน ถ้าไม่มีการต่ออายุจะจบสิ้นภายใน 6 เดือน ขยายเต็มที่ก็ไม่ให้เกิน 4 เดือน” รศ.(พิเศษ) นพ.เมธีกล่าว
รศ.(พิเศษ) นพ.เมธีกล่าวต่อว่า จากนั้นสำเนาจะถูกส่งไปยังลำดับที่ 5 อนุกรรมการกลั่นกรองที่มีบุคคลภายนอกซึ่งไม่ใช่แพทย์ แต่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิทางกฎหมายระดับประเทศ ให้ความเห็นต่อคดีเพื่อให้มีความแน่นหนาต่อการทำสำนวน ต่อมาก็จะส่งมาลำดับที่ 6 คณะกรรมการแพทยสภาอีกครั้ง เพื่อพิจารณาว่ามีผู้ถูกร้องมีความผิด ต้องลงโทษอย่างไร หรือต้องมีการยกข้อกล่าวหาไป สุดท้ายจะเป็นลำดับที่ 7 เสนอต่อสภานายกพิเศษ ซึ่งถ้ามีการพิจารณาโต้แย้ง ก็จะต้องย้อนกลับมายังคณะกรรมการแพทยสภาลงความเห็น ถ้า 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม ก็จะมีการยื่นต่อศาลปกครองต่อไป แต่ถ้าเสียงไม่ถึง 2 ใน 3 ก็จะถือว่ายึดตามความเห็นของสภานายกพิเศษ
ส่วนคดีที่เป็นประเด็นนั้น ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่ 4 คือ อนุกรรมการสอบสวน และในกรอบเวลายังไม่ครบ 6 เดือนตามที่กำหนด ยังมาไม่ถึงอนุกรรมการกลั่นกรอง หรือคณะกรรมการแพทยสภา ตามที่เป็นข่าว ไม่ได้มีการบรรจุวาระตั้งแต่ต้น ไม่ได้มีการเลื่อนวาระใดๆ และอนุกรรมการสอบสวนยังไม่ได้ขอขยายเวลา สมมติทำทันตามกรอบเวลา ก็จะมีการเสนอเข้าคณะกรรมการแพทยสภาภายใน 1-2 เดือนนี้ เป็นข้อเท็จจริงเบื้องต้น ซึ่งทุกกรณีดำเนินการเช่นนี้ทั้งสิ้น เพราะเป็นไปตามข้อบังคับแพทยสภา ถ้าไม่ทำก็อาจจะมีความผิด เนื่องจากใช้อำนาจทางปกครอง อาจจะถูกตรวจสอบโดยศาลปกครอง
“คำตอบของคดีนี้ ความเร็วที่จะเข้ามาถึงการพิจารณาของคณะกรรมการแพทยสภาชุดใหญ่อยู่ที่ 1-2 เดือนนี้ ไม่เดือน พ.ค.-มิ.ย.2568 หากอนุกรรมการสอบสวนดำเนินการได้ทันตามกรอบเวลา 6 เดือน และไม่ได้ขอขยายเวลา”
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการรับเอกสารเพิ่มเติมหลังครบกำหนดการส่งมอบแล้ว รศ.(พิเศษ) นพ.เมธีกล่าวว่า ตามข้อบังคับ หากอนุกรรมการสอบสวนเห็นว่าควรจะรับเพิ่มก็สามารถทำได้ โดยที่เอกสารนั้นไม่ได้เป็นไปในลักษณะการประวิงเวลา หรือไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่สอบสวน
ด้าน ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา คนที่ 1 กล่าวว่า การดำเนินการตามขั้นตอนมีความสำคัญ เนื่องจากเคยมีคดีที่แพทยสภาเคยตัดสินไป แต่เมื่อไปถึงศาลปกครอง หากกระบวนการทำไม่ถูกต้อง เรื่องมีโอกาสย้อนกลับมา อาจทำให้เรื่องนั้นเสียไปเลย จึงต้องทำตามขั้นตอนที่กำหนดเอาไว้ตามกรอบเวลา
“ขณะนี้การทำงานของอนุกรรมการสอบสวนชุดพิเศษ ที่มี ศ.เกียรติคุณ นพ.อมร ลีลารัศมี ประธาน อยู่ที่ระยะเวลา 5 เดือน ยังทำงานเต็มที่อย่างอิสระ แต่กระบวนการสอบสวน ข้อมูลต่างๆ จะต้องไม่มีการเผยแพร่ออกมาก่อน เพราะอาจทำให้การสอบสวนผิดไปจากที่ควรเป็น” ศ.นพ.ประสิทธิ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า สภานายกพิเศษแห่งแพทยสภาที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขนั้น มีผลต่อการตัดสินของคณะกรรมการแพทยสภาหรือไม่ รศ.นพ.ต่อพล วัฒนา ผู้ช่วยเลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า เมื่อคณะกรรมการแพทยสภาพิจารณาแล้วเสร็จ ไม่ว่าจะพิจารณาว่ายกข้อกล่าวโทษหรือมีความผิด ตามกฎหมายก็จะส่งเรื่องให้สภานายกพิเศษให้การรับรอง หากไม่ให้การรับรองภายใน 15 วัน ก็จะถือว่ามติมีผล หากไม่ให้การรับรองแล้วมีข้อโต้แย้งกลับมา คณะกรรมการแพทยสภาจะต้องกลับมาพิจารณาใหม่ ลงมติเสียงเกิน 2 ใน 3 ยึดมติของคณะกรรมการแพทยสภา แต่ถ้าเสียงน้อยกว่านี้ไปที่สภานายกพิเศษ
ทั้งนี้ ศ.เกียรติคุณ นพ.อมร ซึ่งนั่งอยู่ในห้องแถลงข่าว ไม่ได้มีการกล่าวในรายละเอียดใดๆ แต่ได้มีการแจกแถลงการณ์ในนามประธานคณะอนุกรรมการสอบสวน ชุดเฉพาะกิจ แพทยสภา ให้กับผู้สื่อข่าว โดยรายละเอียดแถลงการณ์ระบุว่า เอกสารที่ได้รับมาเพิ่มจากทั้ง 2 หน่วยงาน เป็นเอกสารสำคัญซึ่งมีเนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี และคณะอนุกรรมการสอบสวนเป็นผู้ร้องขอเพิ่มเติมในเดือน มี.ค. ทางคณะอนุกรรมการสอบสวนจึงได้นำเอกสารจำนวนหลายร้อยหน้าดังกล่าวมาพิจารณา และเห็นว่าเอกสารมีความครบถ้วนเพียงพอแล้ว โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการให้ความเห็นและสรุปสำนวนการสอบสวน เพื่อเสนอตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งยังคงเป็นไปตามกรอบการทำงานที่กฎหมายกำหนดไว้
ประธานคณะอนุกรรมการสอบสวนทราบดีว่ากรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ และมีความห่วงใย พร้อมทั้งขอยืนยันว่ามีความเป็นอิสระในการทำงานอย่างเต็มที่ในฐานะผู้รับผิดชอบในขั้นตอนหนึ่งของกระบวนการพิจารณาของแพทยสภา ซึ่งมีทั้งสิ้น 7 ขั้นตอน ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่ 4 แล้ว และในอีก 3 ขั้นตอนที่เหลือนั้น จะต้องผ่านการพิจารณาจากกรรมการแพทยสภา ซึ่งเป็นแพทย์ จำนวน 70 ท่านที่มาร่วมกันทำงานในนามของแพทยสภา เพื่อรักษามาตรฐานจริยธรรมของวิชาชีพแพทย์ และให้ความคุ้มครองประชาชนผู้รับบริการทางการแพทย์อย่างดีที่สุด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'นิพิฏฐ์' สดุดี 'เวช - การ์ดคปท.' ต่อสู้เพื่อกระบวนการยุติธรรม จากไปอย่างวีรบุรุษที่ตายแล้ว
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พัทลุง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า วีรบุรุษที่ตายแล้วพัชสณัชต์(เวช) คงเรืองรวย เป็นการ์ดรักษาความปลอดภัย ของคปท
เปิดผลที่ตามมา หลัง 'มติแพทยสภา' ฟันจริยธรรม 3 หมอ
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า มติลงโทษของแพทยสภา มีผลอะไรตามมาบ้าง
ปิดฉากทักษิณ! มติแพทยสภาท่วมท้น ตอกฝาโลง 'ป่วยทิพย์'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า มติแพทยสภา ตอกปิดฝาโลง “ป่วยทิพย์”
'ประชาคมแพทย์' กางประกาศแพทยสภาชี้ชัดคดีชั้น14ต้องสอบแพทย์เวร!
เพจประชาคมแพทย์ โพสต์เนื้อหาพร้อมกราฟฟิกในหัวข้อ
วัดใจ"แพทยสภา" ไม่เขียนด้วยมือ ลบด้วยเท้า สวน"สมศักดิ์"รักษาศักดิ์ศรีแพทย์
มติแพทยสภา 12 มิ.ย.จะออกมาอย่างไร ต้องติดตามกันว่าจะมีกรรมการคนใดไม่กล้าเข้าประชุม เพราะกลัวโดนแรงกดดันทางการเมืองหรือไม่ และผลการลงมติจะออกมาอย่างไร จะยืนยันมติเดิม หรือจะเอาด้วยกับการวีโตของสมศักดิ์ ซึ่งหากเป็นแบบหลัง คงไม่ต่างอะไรกับ การชักเข้าชักออก-เขียนด้วยมือ ลบด้วยตีน นั่นเอง
เปิด 6 เหตุผล คะแนน 'แพทยสภา' สู้การวีโตของ 'สมศักดิ์' น่าจะชนะขาด
น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า คะแนนแพทยสภาน่าจะชนะขาด ผมเชื่อว่า วันประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ที่จะลงมติ สู้การวีโต้ของนายสมศักดิ์ น่าจะได้คะแนนเสียงท่วมท้น


