22 พ.ค.2568 - นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหาบนเฟซบุ๊กในหัวข้อ “ศึกฮั้ว สว. เกมกินรวบอำนาจ” ระบุว่า มีการตั้งคำถามว่าศึกฮั้ว สว. ระหว่างสีแดงกับสีน้ำเงิน หรือระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย มีอะไรอยู่เบื้องหลัง ที่ทำให้ 2 พรรคนี้ ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน ฟาดฟันกัน ต่อสู้กันแบบถึงพริกถึงขิง ไม่ลดราวาศอกกันเลย คำตอบก็คือ เบื้องหลังของศึกฮั้ว สว.ครั้งนี้ มาจากการต้องการอำนาจเบ็ดเสร็จ หรือต้องการกินรวบทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย
ในอดีตที่ผ่านมานายทักษิณ ชินวัตร ในฐานะเจ้าของพรรคเพื่อไทย ซึ่งพัฒนามาจากพรรคไทยรักไทย เคยทำการเมืองแบบเบ็ดเสร็จ มีอำนาจกินรวบทางการเมืองมาก่อน หรือที่เรียกกันว่าการกินรวบประเทศไทยของระบอบทักษิณ แต่ว่าการเมืองยุคนี้ ระบอบทักษิณก็อ่อนล้าไป ไม่เข้มแข็งเหมือนในอดีต ไม่มีอำนาจเบ็ดเสร็จ เห็นได้จากรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ ไม่มีอำนาจอะไรเบ็ดเสร็จ ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ พรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคภูมิใจไทย กดดัน ขี่คอตลอด และยิ่งพรรคภูมิใจไทยมีคอนเน็คชั่นที่ดีกับส.ว.สายสีน้ำเงิน และคุมเกมสภาสูงได้อย่างเบ็ดเสร็จ ทำให้พรรคเพื่อไทยทำงานลำบาก จึงเป็นที่มาของการต้องการแชร์อำนาจของพรรคเพื่อไทยต่อพรรคภูมิใจไทย เพราะในขณะนี้พรรคภูมิใจไทยคุมสมาชิกวุฒิสภา กินรวบอำนาจทางการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอำนาจขององค์กรอิสระ
เมื่อองค์กรอิสระได้รับการสรรหาจากสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งมีคอนเน็กชั่นหรือเครือข่ายกับพรรคภูมิใจไทย ก็ทำให้พรรคภูมิใจไทยคุมอำนาจองค์กรอิสระอย่างเบ็ดเสร็จ และยิ่งยุคนี้องค์กรอิสระมีบทบาทเปลี่ยนแปลงทางการเมืองได้มากกว่าอำนาจอื่น มากกว่าอำนาจนอกระบบ อำนาจกองทัพด้วยซ้ำไป และยิ่งในยุคนิติสงครามเกิดขึ้น การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองใดๆ ที่จะเกิดขึ้นในห้วงเวลานี้ ก็เกิดจากการดำเนินการจัดการขององค์กรอิสระทั้งสิ้น
ถ้าหากพรรคภูมิใจไทยสามารถควบคุม สว.และส่งผลถึงองค์กรอิสระอย่าง กกต. ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ คตง. หรือองค์กรอื่นๆ ที่มาจากการเห็นชอบของสมาชิกวุฒิสภา ก็ทำให้พรรคภูมิใจไทยสามารถใช้อำนาจทางการเมืองแทรกแซง และควบคุมสถานการณ์ได้ จึงทำให้พรรคเพื่อไทยต้องการที่แชร์อำนาจด้วย เมื่อไม่สามารถแชร์อำนาจทางการเมืองกับพรรคภูมิใจไทยได้ ก็จำเป็นต้องใช้อำนาจผ่านดีเอสไอดำเนินคดี เปิดโปงข้อมูลพยานหลักฐาน เพื่อต่อรองให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง หวังให้พรรคภูมิใจไทยแชร์อำนาจกับพรรคเพื่อไทยด้วย
สุดท้ายของคดีฮั้ว สว. จบลงได้ถ้าฮั้วอำนาจกันลงตัว เคลียร์ปัญหากันได้ แชร์อำนาจกันได้ ผลประโยชน์แบ่งกันได้ ทุกอย่างก็จบได้ เพราะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเดียวกัน ไม่มีประชาชนอยู่ในสมการใดๆ เลย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ
เพื่อไทยกระอัก! 'อนุทิน' ย้อนเจ็บ มีภาพคู่ทักษิณเยอะ ไม่เห็นมีปัญหา
"อนุทิน" เหน็บ "สุริยะ-โฆษกเพื่อไทย" ไม่รู้เรื่องอะไรเพราะไม่ได้ร่วมวง การสนทนาสำหรับผมต้องระดับสูงขึ้นไป ย้อนเจ็บภาพถ่ายคู่ทักษิณก็มีตั้งเยอะ ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย
โฆษกภูมิใจไทย โต้เดือด โทรโข่งเพื่อไทยแกล้งตาบอด ไม่เห็นภาพทักษิณกับเบน สมิธ
โฆษกภูมิใจไทย สวนโฆษกเพื่อไทย อย่าแกล้งตาบอด ปีนี้ใครถ่ายรูปกับ "เบน สมิธ" ยัน "อนุทิน" แค่รู้จักแต่ไม่สนิท ผลงานประจักษ์ยึดทรัพย์หมื่นล้านสแกมเมอร์รายใหญ่ บีบพ้น มท.1 เหตุไม่ให้สัญชาติใครหรือไม่ เย้ย 4 เดือนใครบริหารน้ำท่วมเหลว ขณะที่ "2 เดือน" นายกฯอนุทิน" เข้ามาแก้วิกฤติ
เพื่อไทย เปิดตัว 'อดีตปลัด ก.เกษตร' ลงสนามชนบ้านใหญ่ 'ศิลปอาชา'
พท.เปิดตัว “ประยูร อินสกุล” อดีตปลัด ก.เกษตรฯ ลงสนามชนบ้านใหญ่ “ศิลปอาชา” ไม่ฟันจะปักธงเมืองสุพรรณได้หรือไม่ ชี้ขึ้นกับ ปชช. อ้อนกาเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค
'เทพไท' ชี้ 5 ปัจจัยทำเพื่อไทยยึกยักสางแค้นซักฟอกรัฐบาล
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหา
ปลด 'กัณวีร์ สืบแสง' พ้นเลขาฯพรรคเป็นธรรม แอบอ้างมติพรรคหนุน 'อนุทิน' นั่งนายกฯ
เพจเฟซบุ๊ก พรรคเป็นธรรม แจ้งว่ามีมติให้ปลด นายกัณวีร์ สืบแสง ออกจากตำแหน่ง “เลขาธิการพรรคเป็นธรรม” มีผลนับแต่บัดนี้เป็นต้นไป

