
27 พ.ค.2568-พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์ข้อความว่านายก ปู รู้ 100% ว่ามีการทุจริตข้าวแต่ก็ไม่ได้ออกมา ห้ามปราม เพราะอะไร
คนในพรรคเพื่อไทย ต่างก็ออกมาช่วยแก้ตัวให้ นายก ปู โดยอ้างเหตุผลมุ่งไปสู่ “ เรื่องการรัฐประหาร ” เพื่อกลั่นแกล้งครอบครัวชินวัตร นั้น ซึ่งผมว่าเลิกพูดได้แล้ว เพราะ (1) คุณทักษิณ ก็ยอมรับว่าทำผิดเอง ถึงขนาดประกาศลงใน ราชกิจจานุเบกษามาแล้ว (2) ผู้ที่ออกมาพูดเรื่องนี้ส่วนใหญ่ก็รู้ดี แต่น่าจะแค่เอาใจ นายก อิ๊ง เท่านั้น และ (3) คดี นายก ปู นี้ ศาลก็ชี้ให้เห็นอย่างก็ชัดเจน ยิ่งกว่าตำราเรียนเสียอีก ดังนั้น ก่อนจะพูดอะไร ก็ควรจะได้ อ่านคำพิพากษา กันสักนิดเดียวก็พอ จะได้รู้4รู้8กับเขาบ้าง
ส่วนคนนอกพรรค เช่น คุณปิยบุตร ออกมาพูดไปไกลถึง คดีนี้ทำนองว่า ต่อไป คนเป็นนายก จะทำอะไรไม่ได้ นี่ก็เป็นพวกที่ไม่ได้อ่านคำพิพากษาอีกคนหนึ่ง แต่ก็ยังดีที่ไม่อ้างเรื่องรัฐประหาร เพราะ
เรื่องนี้ ศาลไม่ได้บอกว่า “ห้าม“นายก ปู ทำ แต่บอกว่า ทำให้รอบคอบ อย่าปล่อยปละละเลย ทั้งๆที่รู้ว่าเสียหาย จนถึงขั้นตัวนายกถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็ยังไม่หาทางป้องกันการทุจริต ผมจึงขอคัดคำพิพากษาย่อๆ มาให้อ่านกันนิดหนึ่งครับ ในข้อความต่อไปนี้
ส.ต.ง.และ ป.ป.ช. ได้แจ้งผลการตรวจสอบต่อนายก สอดคล้องต้องกันโดยสรุปว่า ”โครงการรับจำนำข้าวเปลือกมีปัญหาเกิดขึ้นมากมาย ก่อให้เกิดความสูญเสียงบประมาณแผ่นดินเป็นจำนวนมาก มีการทุจริตเชิงนโยบายเกิดขึ้นในหลายขั้นตอน ขอให้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามข้อเสนอแนะและข้อสังเกตต่อไปด้วย” แต่นายก ปู ไม่ได้ดำเนินการใดๆ
แม้นายก ตั้งคณะอนุกรรมการแล้ว แต่ก็มิได้ติดตามให้คณะอนุกรรมการรายงานผลการดำเนินการให้ทราบว่า มีปัญหาในการดำเนินการโครงการรับจำนำข้าวเปลือกตามที่ได้รับรายงานจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินและสำนักงาน ป.ป.ช.หรือไม่
และสภายังมีการตั้งกระทู้ถามและการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยกล่าวหา และมีข้อสังเกตุเกี่ยวกับการทุจริตในการระบายข้าวด้วยวิธีการขายแบบรัฐต่อรัฐ (G to G) อีก
จึงถือว่า นายกรัฐมนตรีและประธานกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ “ได้รับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการตามนโยบายรับจำนำข้าวเปลือกตามนโยบายของรัฐบาลว่า มีปัญหาการทุจริตทุกขั้นตอน” แต่ก็มิได้สั่งการให้คณะอนุกรรมการดำเนินการตรวจสอบว่ามีปัญหาการทุจริตหรือไม่
จึงเป็นกรณีที่ “ไม่คำนึงถึงข้อทักท้วงและข้อเสนอของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินและสำนักงาน ป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์กรที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการดำเนินการตามโครงการต่างๆของรัฐ รวมทั้งการใช้จ่ายเงินงบประมาณแผ่นดินอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากที่สุด” แต่กลับปล่อยให้ดำเนินโครงการต่อไป
จึงถือได้ว่า “ปล่อยปละละเลย ไม่ใช้อำนาจหน้าที่ของตนเพื่อป้องกันมิให้เกิดปัญหาการทุจริต จึงเป็นช่องทางให้เจ้าหน้าที่ในระดับปฏิบัติการ กระทำการทุจริตได้โดยง่าย” เป็นการที่คุณยิ่งลักษณ์ ละเมิดต่อกระทรวงการคลัง ทำให้ได้รับความเสียหายตาม ป.พ.พ.มาตรา 420
อ่านจบแล้ว แสดงให้เห็นชัดเจนว่า นายก ปู รู้ว่ามีการทุจริต แต่กลับวางเฉย ไม่ออกมาห้ามปราม ปล่อยให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ ครับ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ยิ่งลักษณ์โพสต์โชว์เมนู ‘เยี่ยมใต้’ บินตรงถึงดูไบ เผยคิดถึงสะตอผัดกุ้ง-แกงเหลือง
อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อัปเดตภาพมื้ออาหารใต้ระบุว่าร้าน “เยี่ยมใต้” ส่งเมนูโปรดบินตรงถึงดูไบ เจ้าตัวบอกดีใจได้ทานหลา
'สอบสวนกลาง' แถลงผลปฏิบัติการ ทวงทรัพย์สินหมื่นล้าน คืนวัดพระบาทน้ำพุ
สอบสวนกลางปฏิบัติการ “คืนศรัทธา บอกลางมงาย สไตล์ CIB” ทวงคืนทรัพย์สินสู่วัดพระบาทน้ำพุ มูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท
ซ้อนแผนจับ หัวหน้าช่าง-คนสนิทนายก อบต. รีดเงิน 6.5 ล้าน แลกใบอนุญาตก่อสร้างโกดัง
บุกจับถึงห้องทำงานหัวหน้าช่าง อบต.หัวหว้า-เลขาฯนายกอบต. รีดเงินผู้ประกอบการ 6.5 ล้าน แลกใบอนุญาตสร้างโกดัง
'ทร.' สั่งย้ายด่วน ฟันทุจริตทหารเรือตราด ลงโทษทั้งวินัย-อาญา
ทร. สั่งย้ายด่วนทหาร ปมทุจริตในหน่วยทหารเรือจังหวัดตราด ตั้งคณะกรรมการสอบ หากผิดจริงโดนโทษวินัยและอาญา
ทบ. สรุปคดีทุจริตน้ำมัน ส่งต่อ ป.ป.ช. ฟันนายทหาร อึ้งพบน้ำมันเกินกว่า 1 แสนลิตร คาดลอบซื้อมาคืน
กรมจเรทหารบก สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ตรวจสอบพบมีการทุจริตน้ำมันเชื้อเพลิงในหน่วยงานกองทัพบกจริง ส่งต่อสำนวนสอบสวนให้ ปปช.ดำเนินคดีอาญา และฟ้องแพ่งค่าเสียหาย เผยมีน้ำมันเกินกว่าแสนลิตร คาดผู้กระทำผิดลักลอบซื้อมาคืน
'ป.ป.ช.พิจิตร' ลุยตรวจถนนทางหลวง งบ 1.4 พันล้าน ใช้ 3 เดือนพังยับ
'ป.ป.ช.พิจิตร' ตรวจทางหลวงสาย 11 งบสร้าง 1.4 พันล้าน เปิดใช้งานไม่ถึงปีถนนพังยับ ไล่บี้ผู้รับเหมาเร่งซ่อม


