
13 มิ.ย.2568 - นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา' 35 และรักษาการเลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า
ภายหลังการอสัญกรรมของ พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีตผู้บัญชาการทหารบก แกนนำคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) ซึ่งก่อรัฐประหารในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2534 นำมาสู่เหตุการณ์พฤษภาทมิฬในปี 2535 ที่รัฐบาลทหารของพล.อ.สุจินดาและพวก ปราบปรามประชาชนที่ออกมาชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยจำนวนมาก ทำให้มีผู้เสียชีวิตล้มตายถึง 44 คน สูญหายอีกหลายร้อยคน และมีประชาชนบาดเจ็บอีกหลายพันคน แต่รัฐบาลประกาศรับรองรายชื่อผู้สูญหายเพียง 38 คนนั้น
พี่ชายของผมชื่อนายอภิวัฒน์ มาสขาว ผู้ร่วมเขียนป้าย "สองมือเชื่อมประสาน สร้างตำนานประชาชน" เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนั้นด้วยการถูกกระสุนปืน M16 ตัดขั้วหัวใจ 2 นัดและมีรอยฉีกขาดที่แขนใต้ราวนมเพราะแรงระเบิดตามคำวินิจฉัยของแพทย์ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐและมติชนลงชื่อผู้เสียชีวิตว่า นายอภิวัฒน์ มกรขาว และมาตรขาว ทั้งที่เขาไม่ได้พกบัตรประชาชน พวกเราเรียกเขาว่า "วีรชนประชาธิปไตย" ในเวลาต่อมา
พี่ชายคนรองไปตามหาเขาที่สนามหลวงก่อนเหตุการณ์สงบและถูกจับขึ้นรถยีเอ็มซีแต่หนีรอดมาได้หลังหนีลงที่วัดแค (นางเลิ้ง) ก่อนที่บ้านจะอ่านข่าวพบและไปรับศพที่ห้องเย็นสถาบันนิติเวช ก่อนนำมาฌาปนกิจศพที่วัดนวลจันทร์ ย่าน กม.8 รามอินทรา
ขณะนั้นผมเรียนอยู่ประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนแย้มจาดวิชชานุสรณ์ คุณครูให้เขียนบทกวีไปอ่านผ่านห้องโสตให้ทั้งโรงเรียนฟังชณะเข้าแถวหน้าห้องก่อนเข้าเรียนในภาคบ่าย ผมเขียนว่า "ชูมือเหนือฟ้า เลือดทาถนน บังเกิดวีรชน ด้วยคนหมื่นพัน, กรรมใดใครก่อ สานต่อโทษทัณฑ์ ชนขึ้นสวรรค์ ยึดมั่นอุดมการณ์" วรรคสุดท้ายนั้น แม่ต่อจบให้ผมขณะนั่งเย็บผ้าอยู่บนจักร
ในเหตุการณ์พฤษภา 2535 แกนนำนักศึกษานำโดย นายสุภัทร ฮาสุวรรณกิจ เลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) ปี 2534 และนายปริญญา เทวานฤมิตรกุล เลขาธิการ สนนท. ปี 2535 ขณะที่ คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) นำโดยนายโคทม อารียา ประธาน นายสมชาย หอมลออ เลขาธิการ และนายวิทิต มันตาภรณ์ โฆษก ครป. ในสมัยนั้น นอกจากสมาพันธ์ประชาธิปไตย และพล.ต.จำลอง ศรีเมือง ที่นำมวลชนชุมนุมในท้องสนามหลวงก่อนสั่งการเคลื่อนออกไปยังถนนราชดำเนิน
บันทึกสีดำและเหตุการณ์ประวัติศาสตร์นั้นทำให้ผมเข้าใจการเมืองมากขึ้น ต่อมาผมจึงเข้ามาหาความหมายในขบวนการนิสิตนักศึกษาและรับช่วงต่อในหน้าที่ เลขาธิการ สนนท.ปี 2544 ปีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีปีแรก และในปีนั้นนายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง "คณะกรรมการอิสระเพื่อติดตามผู้สูญหายและช่วยเหลือผู้เสียหายจากเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม 2535" ขึ้นโดยมี นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ
คณะกรรมการอิสระฯ เสนอให้รัฐบาลจ่ายค่าชดใช้ให้แก่ญาติวีรชนในอัตราก้าวหน้าตามหลักสากล โดยจ่ายในอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในกทม. คูณห้าเท่าและคูณวันเดือนปีที่ผ่านพ้นมา และเยียวยาด้านจิตใจ โดยกระทรวงกลาโหมได้มีหนังสือขอโทษและแสดงความเสียใจในเหตุการณ์ดังกล่าวเพื่อการปรองดอง จากภายหลังที่ญาติวีรชนและองค์กรประชาธิปไตยได้ยื่นฟ้องต่อศาลอาญา แต่ศาลไม่รับฟ้องเนื่องจากอ้างว่ามีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมดนเองไว้แล้วหลังเหตุการณ์นองเลือดไม่นาน
ภายหลังมีมติ ครม.เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2546 ที่รัฐบาลรับข้อเสนอคณะกรรมการอิสระฯ และประกาศให้วันที่ 17 พฤษภาของทุกปี เป็นวัน "พฤษภาคมประชาธรรม" โดยเป็นวันสำคัญของชาติที่ไม่ใช่วันหยุด รวมทั้งให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจ่ายค่าชดใช้แก่ญาติวีรชน แต่ต่อมาไม่มีกฎหมายให้จ่ายในอัตราก้าวหน้าตามข้อเสนอ จึงไปใช้การเยียวยาทดแทนความเสียหาย เทียบเคียงจากผู้ช่วยเหลือราชการแล้วประสบอันตรายตามพระราชบัญญัติสงเคราะห์ผู้ประสบภัยอันเนื่องมาจากช่วยเหลือราชการ การปฏิบัติงานของชาติหรือการปฏิบัติหน้าที่มนุษยธรรม พ.ศ. 2543 แทน ซึ่งได้รับการท้วงติงจากญาติวีรชนว่าไม่ถูกต้อง
ผมมารับหน้าที่เป็นเลขาธิการคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 ในเวลาต่อมา เพื่อสืบสานเจตนารมณ์วีรชนประชาธิปไตยที่เสียสละในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ซึ่งยังคงมีภารกิจ 4 ข้อ คือ 1.การเรียกร้องให้รัฐบาลจ่ายค่าชดใช้แก่วีรชนในอัตราก้าวหน้า เพื่อสร้างบรรทัดฐานของรัฐไทย 2.การค้นหาคำตอบผู้สูญหายในเหตุการณ์ เพื่อคืนกระดูกแก่ญาติวีรชนเพื่อนำไปทำบุญตามประเพณีและความเชื่อตามหลักศาสนา 3.เรียกร้องให้รัฐจัดสร้างอนุสาวรีย์วีรชนพฤษภาและอนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม ตามมติ ครม.เดิม ที่อนุมัติให้จัดสร้าง ณ สวนสันติพร บริเวณกรมประชาสัมพันธ์เดิม เพื่อเป็นอุทาหรณ์ทางสังคมและเตือนใจไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความสูญเสียเกิดขึ้นอีก
แม้ว่าประชาชนและญาติวีรชนจะไม่สามารถฟ้องร้องเอาผิดนายพลผู้ออกคำสั่งสังหารประชาชนเฉกเช่นบทเรียนจากเกาหลีใต้ และประธานญาติวีรชนประกาศอโหสิกรรมแล้วตามเจตนารมณ์ประมุขของรัฐที่ออกมาคลี่คลายสถานการณ์ลงเพื่อสร้างความปรองดอง แต่ญาติวีรชนพฤษภา 35 ก็ยังคงคาดหวังความจริงจากรัฐไทยว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นความจริงเป็นอย่างไร คนสูญหายถูกนำศพไปซ่อนที่ไหน และจะชำระประวัติศาสตร์เป็นแบบเรียนและอุทาหรณ์ให้สังคมไทยได้หรือไม่
วันนี้ผู้ที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ หัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ เสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2542 พล.อ.อิสระพงศ์ หนุนภักดี เสียชีวิตไปในปี 2560 พล.อ.อ.เกษตร โรจนนิล เสียชีวิตไปเมื่อปี 2567 และ พล.อ.สุจินดา คราประยูร เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ผมไม่คิดว่าประวัติศาสตร์จะสูญหายไปกับผู้นำกองทัพเหล่านั้น เพราะยังมีทหารประชาธิปไตยอีกจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำในเหตุการณ์ดังกล่าว
เมื่อหลังเหตุการณ์พฤษภา 35 ไม่กี่ปี มีนายทหารนิรนามรายหนึ่งอ้างว่าตนเองมียศระดับนายพัน และทราบว่ามีการขนศพคนตายในเหตุการณ์พฤษภาไปทิ้งไว้ที่ไหนบ้าง เขาโทรศัพท์แจ้งคุณอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 หลังได้พบกับพล.อ.สุจินดาได้ไม่นาน และชี้เบาะแสไปที่กองพลทหารราบที่ 9 จังหวัดกาญจนบุรี มีการขุดหลุมฝังศพขนาดใหญ่และทำลานปูนประทับกลบทับไว้ เบาะแสที่ 2 เขาชี้ไปที่ตู้คอนเทนเนอร์หลายตู้กลางทะเลแสมสาร ซึ่งมีข่าวชาวประมงค้นพบโครงกระดูกคนภายในหลายตู้ในเวลาต่อมา ซึ่งอยู่เลยชายฝั่งไปหลายสิบไมล์ทะเลและหลายพิกัด
ในเดือนพฤษภาคม 2552 ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ นำคณะสื่อมวลชน ทหารเรือ ตำรวจ ขึ้นเรือรบหลวงภูเก็ต ออกสำรวจทะเลสัตหีบเพื่อไปยังจุดพบซากตู้คอนเทนเนอร์ตามที่มีกระแสข่าว แต่สรุปว่าจากปฏิบัติการส่งนักประดาน้ำของกรมสรรพาวุธ ทหารเรือ พร้อมสื่อมวลชนลงไปเก็บภาพตู้คอนเทนเนอร์ปริศนาใต้ทะเลในความลึก 24 เมตรนั้น พบตู้คอนเทนเนอร์เพียงตู้เดียวเท่านั้น ไม่ได้มีถึง 7-8 ตู้ตามที่ชาวบ้านแจ้งให้ทราบ และตู้แรกที่เปิดนั้นไม่พบโครงกระดูก และปล่อยให้เรื่องเงียบต่อไปโดยไม่สืบค้นพิกัดอื่นต่อ
นอกจากนี้ การอุ้มหายนายทนง โพธิ์อ่าน ประธานสภาองค์การลูกจ้าง สภาแรงงานแห่งประเทศไทย และรองประธานสมาพันธ์แรงงานเสรีระหว่างประเทศภาคพื้นเอเซียแฟซิฟิค หายสาบสูญไปหลังการรัฐประหารไม่กี่เดือน ในวันที่ 19 มิถุนายน 2534 ก่อนเดินทางไปประชุมองค์กรแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ณ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์เพียงไม่กี่วันนั้น ยังเป็นเรื่องใหญ่ระดับโลกที่รัฐบาลไทยยังไม่มีคำตอบให้แก่ "คณะทำงานแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการกระทำให้บุคคลสูญหายโดยถูกบังคับหรือไม่สมัครใจ" ที่กำลังค้างตรวจสอบอยู่ในปัจจุบัน
คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 ขอเรียกร้องให้รัฐบาลและกองทัพบก เริ่มสอบสวนอีกครั้งเพื่อหาคำตอบให้แก่สังคมไทย กรณีวีรชนผู้ถูกทำให้สูญหายในเหตุการณ์พฤษภา 35 เพราะชื่อว่ายังมีหลักฐานและความทรงจำอยู่ในหมู่ทหารอาวุโสไม่มากก็น้อย เพื่อขอคืนอัฐิวีรชนให้แก่ญาติพี่น้องของเขาไปทำบุญตามความเชื่อศาสนา ซึ่งญาติวีรชนไม่ได้มุ่งมาดปรารถนาจะอาฆาตมาดร้ายต่อผู้กระทำการหลังเหตุการณ์ได้ผ่านพ้นไปเนิ่นนานแล้ว
แต่คาดหวังว่ารัฐบาลและสังคมไทยจะชำระประวัติศาสตร์ให้กระจ่าง สร้างบรรทัดฐานทางสังคมขึ้นใหม่อีกครั้ง ไม่ให้เหตุการณ์ความสูญเสียของคนไทยเกิดขึ้นอีก เพื่อเปลี่ยนผ่านจากความขัดแย้งไปสร้างสังคมแห่งภราดรภาพที่สมานฉันท์และปรองดองกันอย่างแท้จริง โดยมีอนุสาวรีย์เป็นสัญลักษณ์และเครื่องเตือนใจของประเทศและประชาชน ซึ่งรัฐบาลควรประกาศสนับสนุนงบประมาณให้ กทม.สร้างอนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรมให้แล้วเสร็จโดยเร็ว รวมถึงชดใช้เยียวยาและหาคำตอบของเหตุการณ์ให้แก่ญาตีวีรชนพฤษภา 35
อย่างน้อยวันนี้ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ยังคงเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด และพล.อ.เจิดวุธ คราประยูร นายทหารประชาธิปไตยผู้ลูกเป็นที่ปรึกษาพิเศษ กองบัญชาการกองทัพไทย อาจจะร่วมมือกับรัฐบาลหาคำตอบให้กับพวกเราได้บางส่วน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘อดุลย์’ แนะฝ่ายค้านไม่ควรยื่นซักฟอก เหตุทำแก้รธน.เสียของ
“อดุลย์”เบรกฝ่ายค้านไม่ควรยื่นญัตติซักฟอกเพราะนายกฯจะชิงยุบสภาฯก่อนทำให้ร่างแก้ไขรธน.ตกไปทั้งหมด แนะไม่ต้องมีสสร.จะขัดคำวินิจฉัยศาลรธน.และเสียเวลา กมธ.ยกร่างรธน.ต้องมาจากหลากลายปิดช่องการครอบงำ ‘คนละครึ่งพลัส’ ช่วยกระตุ้นศก.แต่ไม่ควรทำต่อเนื่องสร้างภาระหนี้ให้ลูกหลาน จี้นายกฯใช้ความเด็ดขาดล้างบ้างขรก.ทุจริตต้นเหตุทุนสีเทา
ยิ่งชี้แจงยิ่งไม่เข้าใจ! อ.ปริญญา แนะ 'รมว.ศธ.' แก้คำสั่ง 'ดนตรี' เป็นกิจกรรมเรียนรู้ ไม่ใช่รื่นเริง
อ.ปริญญา ระบุฟังการชี้แจงของ รมว.ศึกษาธิการแล้วเหมือนจะดีขึ้น ก็กลายเป็นหนักเข้าไปอีก
‘อดุลย์’ บี้ 'อนุทิน' ยึด MOA เคร่งครัด วอนหนุนร่างนิรโทษฯ
‘อดุลย์’บี้นายกฯอนุทิน ทำตาม MOA อย่างเคร่งครัด เร่งพิสูจน์ผลงานเป็นที่ประจักษ์อย่าให้ประชาชนผิดหวังเหมือนรัฐบาลที่ผ่านมา เตือนอย่าให้เกิดทุจริตคอร์รัปชันจะเกิดวิกฤตศรัทธานักการเมืองซ้ำรอยอีก วอนหนุนร่างกฎหมายนิรโทษกรรมคดีการเมืองให้มีผลบังคับใช้ก่อนเลือกตั้ง และสร้างอนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม ตามติครม.30ธ.ค.46ให้แล้วเสร็จ
พท.ซัดรัฐประหารทำพัง คุณหญิงกัลยาซบดร.เอ้!
“พท.” โอด รัฐประหาร 19 ก.ย.49 สะเทือนถึงปัจจุบัน “ทักษิณ” นอนน้อย ความดันขึ้น
ผบ.ทสส. นำประชุม ผบ.เหล่าทัพ เห็นชอบปิดด่าน จนกว่า กัมพูชา ไม่เป็นภัยคุกคามต่อไทย
ผบ.ทสส. นำประชุม ผบ.เหล่าทัพ พร้อมไว้อาลัย ทหาร-ประชาชน เสียชีวิตเหตุปะทะไทย-กัมพูชา เห็นชอบปิดด่าน จนกว่า กัมพูชา ไม่เป็นภัยคุกคามต่อไทย เดินหน้าสร้างรั้ว ลั่น ยึกหลักป้องกันตนเอง กับผู้ที่กระทำเป็นปรปักษ์-สอดแนม-โจมตี
'โรม' ชี้สร้างกำแพงถาวรต้องตอบโจทย์จัดการสิ่งผิดกฎหมายมากกว่าแค่กันคนข้ามไปมา
'โรม' ชี้ สร้างกำแพง ไทย-กัมพูชา ต้องตอบโจทย์จัดการสิ่งผิดกฎหมายได้ ไม่ใช่แค่กันคนข้ามไปมา พร้อมเชื่อ 'เขมร' ใช้ปมกับระเบิด สร้างจิตวิทยาหวังให้เกิดความรุนแรง


