
8 ก.ค. 2568 – นางสาวรสนา โตสิตระกูล อดีตสว.กรุงเทพมหานคร โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กพรรคประชาชนควรยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแพทองธารโดยไม่ชักช้า!!
พรรคประชาชนมีทัศนะว่าไม่ควรใช้ศาลรัฐธรรมนูญในการตัดสินเรื่องจริยธรรมนักการเมือง และมองว่ามันคือกลไกนิติสงครามของพวกอนุรักษ์นิยม ใช่หรือไม่?
ดังนั้น กรณีนายกรัฐมนตรี แพทองธารที่กำลังรอการตัดสินอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ พรรคประชาชนจึงต้องเร่งชิงตัดหน้าโดยใช้กลไกตัดสินทางรัฐสภาโดยเร็วที่สุด
ดิฉันขอฟันธงว่า ไม่มีโอกาสไหน ที่เหมาะสมยิ่งไปกว่า ณ เวลานี้ ที่พรรคประชาชนจะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีแพทองธาร เพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้ทำหน้าที่ในการถอดนายกรัฐมนตรีออกจากตำแหน่งเพราะสภาผู้แทนราษฎรมีอำนาจปลดนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีที่ทำหน้าที่ไม่เป็นที่ไว้วางใจของประชาชนด้วยการลงมติเสียงข้างมากไม่ไว้วางใจฝ่ายบริหารได้
แต่เครื่องมืออภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรี เพื่อให้หลุดจากตำแหน่งเป็นกลไกในสภา(เท่าที่จำได้)ที่ไม่เคยประสบความสำเร็จ แต่กลับทำให้บรรดาผู้แทนราษฎร ร่ำรวยจากเสียงแลก “กล้วย” หรือแลก “ตำแหน่ง” จนทำให้กลไกที่มีอยู่พิกลพิการ กระทั่งสังคมต้องหันไปพึ่งอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ แม้ไม่ใช่แฟน ก็ทำแทนพรรคประชาชนได้ ใช่หรือไม่
ในการอภิปรายไม่ไว้างใจแพทองธารเมื่อเดือนมีนาคม 2568 แม้มีข้อมูลที่เข้มข้น แต่ก็รู้ๆกันอยู่ว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจปีละครั้ง ก็เป็นแค่การแสดงและก็จบลงด้วยการ แจกกล้วยแลกเสียง และไว้ซื้องูเห่าเท่านั้น ดังที่เห็นว่าการลงมติเมื่อ26 มีนาคม 2568 ที่ประชุม สส.ไว้วางใจ “แพทองธาร” นั่งนายกฯ ต่อแบบฉลุยด้วยเสียงถึง 319 เสียง !!
ขนาดรู้ๆอยู่ว่าโอกาสชนะเป็นศูนย์ เสียของแน่ๆ แต่พรรคฝ่ายค้านก็ยังเดินหน้าชนอย่างไม่ลังเล
แต่การอภิปรายครั้งนี้ ที่ประชาชน (ไม่ใช่พรรค) ไม่สามารถไว้วางใจให้แพทองธารเป็นนายกรัฐมนตรีอีกต่อไป ท่ามกลางรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ความนิยมติดลบ เรตติ้งแพทองธารต่ำสิบเปอร์เซนต์ แค่ศาลรัฐธรรมนูญให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ หุ้นก็ดีดขึ้นรับคำตัดสินศาลซะงั้น การคงอยู่ในตำแหน่งของเธอคือภาระของประเทศ เวลานี้จึงเป็นโอกาสทองของพรรคประชาชน ที่จะอภิปรายถอดถอนนายกรัฐมนตรี เพราะขนาดโอกาสชนะเป็นศูนย์ พรรคประชาชนยังท้าชน แต่ ณ เวลานี้แม้โอกาสชนะไม่เต็มร้อยแต่ก็ไม่น้อยกว่า 90 %ที่มีโอกาสชนะ จึงไม่มีเหตุผลอันใด ที่พรรคประชาชนจะมัวประดิษฐ์วาทกรรมอันเลิศหรูเพื่อหลบหลีกการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจแพทองธารด้วยกลไกของรัฐสภาอย่างแท้จริง และเป็นโอกาสที่พรรคประชาชนจะเป็นผู้นำจัดการกับฝ่ายบริหารด้วยเครื่องมือของฝ่ายนิติบัญญัติในสภา แทนที่จะปล่อยไว้ในมือของศาลรัฐธรรมนูญ ที่พรรคประชาชนไม่ยอมรับ ใช่หรือไม่
ถ้าพรรคประชาชนไม่ใช้โอกาสนี้ ที่มีลุ้นชนะมากกว่าแพ้ เพื่อปลดล็อคประเทศด้วยกลไกทางรัฐสภา ประชาชนก็อาจตั้งข้อสงสัยได้ว่า เพราะพรรคประชาชนยังคิดว่าพรรคเพื่อไทยในกำกับของตระกูลทักษิณ ชินวัตร คือพรรคในฝ่ายอุดมการณ์ประชาธิปไตยที่พรรคประชาชนยังฝันกลางวันว่าจะจับมือด้วยกันได้ในอนาคต ใช่หรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' ถามใครหลอกประชาชนกันแน่ พรรคส้มคิดแก้ ม.112 ชัดเจน แถมยังจะล้างคดีให้ด้วย
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงโอกาสในการจัดตั้งรัฐบาล แต่หลายพรรคกลับปฏิเสธไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคกล้าธรรม ทำให้เกิดความกดดันกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ ว่า ฟังการตัดสินจากประชาชน
'เท้ง' โวย 'อนุทิน' สร้างวาทกรรม ปชน. แก้ ม.112 ทั้งที่พูดเรื่องนิรโทษกรรมคดีหมิ่นสถาบัน
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวตอบโต้นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า ต้องบอกว่าการยกมือในวันนั้น ไม่ใช่การเห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 112 แต่เป็นการผลักดันเรื่องนิรโทษกรรมของนักโทษที่โดนคดีทางการเมือง
'ปชน.' กระจายแกนนำสมัคร สส. 'เท้ง' หัวเรือ กทม. 'ไหม' บุกถิ่นน้ำเงิน
'ปชน.' กระจายแกนนำให้กำลังใจผู้สมัครแบบเขตทุกภูมิภาค 'เท้ง' นำทีม กทม. 7 โมงเช้าถึงกีฬาเวสน์ 2 'ไหม' บุกถิ่นน้ำเงินบุรีรัมย์ 'อ.ต้น' ลงใต้ 'ต๋อม' ปักหลักหัวเมืองเหนือ
กังขา 'ปชน.' ไม่จับมือ 'กธ.' แต่จับมือ 'พท.' แม้ 'ทักษิณ-ประเสริฐ' แนบแน่น 'เบน สมิธ'
นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊กระบุว่า พรรคประชาชนไม่จับมือตั้งรัฐบาลกับพรรคกล้าธรรม เพราะ ธรรมนัส สนิทกับ เบนสมิธ
‘แก้วสรร’ แพร่บทความ ‘เกาะติด คดีจริยธรรม 44 สส.ส้ม’
นายแก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความเรื่อง เกาะติด “คดีจริยธรรม ๔๔ สส.ส้ม” มีเนื้อหาดังนี้
'เท้ง' ลั่นเลือกตั้งครั้งนี้ แข่งกันจัดตั้งรัฐบาลระหว่างพรรคประชาชนกับภูมิใจไทย
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน เปิดเผยว่า ในเมื่อคุณอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ประกาศชัดว่าจะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาชน

