นักวิชาการเปิดตัวเลขย้ำการต่อต้านจีนคือการทำร้ายประเทศไทย

10 ก.ค.2568 - นายกมล กมลตระกูล นักวิชาการอิสระ และประธานอนุกรรมการด้านการเงินและการธนาคาร สภาผู้บริโภค โพสต์เฟซบุ๊กในลักษณะบทความเรื่อง “การต่อต้านจีน คือ การทำร้ายประเทศไทย” ระบุว่า ตามตัวเลขนี้ ถ้าไทยหลวมตัว ถอนตัวออกจากองค์กรบริกส์ (BRICS) เพื่อเลี่ยงการถูกอเมริกาเก็บภาษีเพิ่ม ทั้งๆ BRICS ซึ่งจีนเป็นหัวเรือใหญ่ มีขนาดเศรษฐกิจ และ ขนาดตลาด เกินกว่าร้อยละ 50 ของการค้าโลก ตามแรงบีบของอเมริกาที่ใช้ภาษีตอบโต้เป็นอาวุธ เศรษฐกิจไทยจะล้มพังพาบ โดยเฉพาะภาคเกษตร

สินค้าส่งออกไปจีน หรือที่จีนซื้อจากไทย ยังไม่รวมรายได้จากนักท่องเที่ยวจีน นั้นเม็ดเงินอยู่กับคนไทยล้วนๆ ส่วนสินค้าส่งออกของไทยไปอเมริกาส่วนใหญ่ไม่ใช่สินค้าเกษตร แต่เป็นสินค้าอิเลกโทรนิกส์ แผงวงจรไฟฟ้า หรืออื่นๆบริษัทต่างชาติเข้ามาลงทุนเพื่ออาศัยแรงงานราคาถูก หรือเพื่ิอสวมสิทธิ์ ในการเลี่ยงถูกเก็บภาษี เม็ดเงินตัวกลมๆ ไทยได้แค่ค่าจ้างขั้นต่ำที่คนไทยได้รับ บริษัทเหล่านี้ได้รับการยกเว้นภาษีจากนโยบายของ บีโอไอ อีกด้วย

กระแสต่อต้านจีนที่ถูกปลุกขึ้นมา โดยไม่ได้แยกแยะจีนเทา ซึ่งเป็นอาชญากรข้ามชาติ ออกจาก ประเทศจีน นั้นเป็นเรื่องของคนไร้เดียงสา ที่ไม่มองโลกจากความเป็นจริง

ในปี 2567 สัดส่วนการส่งออกของไทยไปจีนมีการเปลี่ยนแปลงและเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในสินค้าบางประเภท เช่น ยางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง, เม็ดพลาสติก, และเคมีภัณฑ์. จีนยังคงเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญของไทย โดยมีการส่งออกสินค้าหลายประเภทไปยังจีน เช่น ผลไม้สด, อาหารแปรรูป, และสินค้าอุตสาหกรรม 

ภาพรวมการส่งออกของไทยไปจีนในปี 2567:
ตลาดส่งออกหลัก: จีนเป็นหนึ่งในตลาดส่งออกหลักของไทย

สินค้าส่งออกสำคัญ: ยางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง, เม็ดพลาสติก, เคมีภัณฑ์, ผลไม้สด, อาหารแปรรูป, และสินค้าอุตสาหกรรม

การเติบโต: การส่งออกของไทยไปยังจีนมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีบางช่วงที่มีการขยายตัวในอัตราที่สูง.

ปัจจัยที่มีผล: การส่งออกไปยังจีนได้รับอิทธิพลจากปัจจัยต่างๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก, ความต้องการสินค้าไทยในตลาดจีน, และนโยบายการค้าของทั้งสองประเทศ

ตัวอย่างสินค้าส่งออกที่สำคัญ: ยางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง มีบทบาทสำคัญในการส่งออกไปยังจีน โดยเฉพาะในช่วงที่มีความต้องการสินค้าขั้นกลาง

เม็ดพลาสติก: เป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญอีกชนิดหนึ่งที่มีส่วนช่วยในการเติบโตของการส่งออกไปยังจีน

เคมีภัณฑ์: การส่งออกเคมีภัณฑ์ไปยังจีนก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตของการส่งออกโดยรวม

ผลไม้สด: จีนยังคงเป็นตลาดผลไม้สดที่สำคัญของไทย โดยมีการส่งออกผลไม้หลายชนิด เช่น ทุเรียน, มังคุด, และลำไย

อาหารแปรรูป: การส่งออกอาหารแปรรูปของไทยไปยังจีนก็มีการเติบโตเช่นกัน

หมายเหตุ: ข้อมูลที่ระบุอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์จริงและข้อมูลล่าสุด ในปี 2567 การส่งออกของไทยไปจีนในช่วง 8 เดือนแรก (มกราคม-สิงหาคม) มีมูลค่ารวม 31,805 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2.9 ล้านล้านบาท, ในรายงานจาก thansettakij ระบุ จีนยังคงเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย โดยมีมูลค่าการค้ารวม 88,842 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 2.9 ล้านล้านบาท