ผบ.ตร. แจงส่งกำลัง 'ชุดควบคุมฝูงชน' ประจำพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ตามการร้องขอทหาร

ผบ.ตร. ย้ำสั่งชุดควบคุมฝูงชนสแตนด์บายชายแดนไทย-กัมพูชา ตามการร้องขอของทหาร เตรียมพร้อมหากเกิดการกระทบกระทั่ง

23 กรกฎาคม 2568 - ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณีการเตรียมกำลังตำรวจชุดควบคุมฝูงชน เพื่อประจำพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณจุดพิพาทใกล้ประสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า ขณะนี้ยังไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติเกิดขึ้น เป็นเพียงการเตรียมความพร้อมล่วงหน้าเท่านั้น ตามการร้องขอจากทางกองทัพภาคที่ 2 เพื่อรองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น

หน่วยงานที่รับผิดชอบหลักในพื้นที่ชายแดนคือกองกำลังสุรนารีและกองทัพภาคที่ 2 ส่วนตำรวจถือเป็นหน่วยสนับสนุน ในกรณีที่มีการร้องขอให้ช่วยดูแลความเรียบร้อย โดยเฉพาะในช่วงที่อาจมีประชาชนบางกลุ่มเดินทางไปชมบริเวณประสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นพื้นที่อ่อนไหว เสี่ยงต่อการเกิดการกระทบกระทั่งระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ

“ที่ผ่านมาเคยมีเหตุการณ์กระทบกระทั่งกันเล็กน้อยในพื้นที่ชายแดน จึงเป็นห่วงว่าจะเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ขึ้นอีก ทางทหารจึงร้องขอให้ตำรวจเตรียมกำลังไว้ล่วงหน้า หากสถานการณ์จำเป็น ตำรวจพร้อมสนับสนุนเพื่อแยกผู้ที่มีปัญหา ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุทะเลาะวิวาทหรือความรุนแรง” ผบ.ตร. กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมไม่ใช้กำลังตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ซึ่งมีหน้าที่ดูแลแนวชายแดนโดยตรง ผบ.ตร. ชี้แจงว่า แม้ ตชด. จะมีความชำนาญในพื้นที่เช่นกัน แต่ปัจจุบันมีภารกิจอื่นอยู่ จึงเห็นว่าการใช้กำลังตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งมีความใกล้ชิดกับประชาชน และรู้จักพื้นที่เป็นอย่างดี น่าจะเหมาะสมและเกิดประสิทธิภาพมากกว่า ตนได้หารือกับ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 แล้ว และเห็นตรงกันว่าการใช้กำลังตำรวจในพื้นที่น่าจะเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนการเตรียมความพร้อมเท่านั้น ยังไม่มีการปฏิบัติการใดๆ จนกว่าจะมีคำสั่งที่ชัดเจนจากฝ่ายทหารหรือมีสถานการณ์จำเป็นเกิดขึ้น

นอกจากนี้ ผบ.ตร. ยังกล่าวถึงกรณีหากมีการนัดรวมพลในพื้นที่ชายแดนในช่วงวันที่ 26-27 ก.ค.นี้ โดยยืนยันว่าตำรวจได้เตรียมกำลังควบคุมฝูงชนไว้แล้ว หากการชุมนุมเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อยก็จะไม่มีปัญหาใดๆ แต่หากมีแนวโน้มว่าจะเกิดความวุ่นวาย ก็พร้อมเข้าระงับเหตุเพื่อไม่ให้บานปลาย

ผบ.ตร.กล่าวย้ำว่า ตนเองได้แสดงเจตนารมณ์ ยืนยันแล้วว่า ว่าจะช่วยเหลือและปกป้องอธิปไตยไว้อย่างสุดชีวิตและการทำงานก็ขึ้นอยู่กับกองทัพบกและแม่ทัพภาคที่ 2 กองกำลังสุรนารี ดังนั้นตนเองคิดว่าเมื่อมีข่าวเรื่องที่จะมีการชุมนุมการปฏิบัติก็เป็นเรื่องโดยชอบธรรมที่ทางทหารจะให้ตำรวจเข้าไปช่วยให้เกิดความเรียบร้อย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปิดด่าน 5 เดือน การค้าชายแดนคลองใหญ่เสียหาย 5 พันล้าน สินค้าเถื่อนทะลัก วอนรัฐบาลเยียวยา

เศรษฐกิจการค้าชายแดนคลองใหญ่ทรุดหนัก เสียหาย 5 พันล้าน ท่องเที่ยววูบปิดท่าเรือหนี ผู้ประกอบการจี้รัฐเยียวยา หลังปิดด่าน 5 เดือน ขณะสินค้าเถื่อนทะลักเข้า-ออก

นายกฯ ลั่นหากเกิดเหตุชายแดนหลังยุบสภา รัฐบาลรักษาการยังมีอำนาจสนับสนุนเต็มที่

นายกฯ ย้ำไม่มีปัจจัยบอกเหตุ ก็ต้องมีแผนป้องกัน โดยเฉพาะตามแนวชายแดน มั่นใจผู้ว่าฯ ดูแลได้ หากอยู่ในช่วงยุบสภา ปฎิเสธข่าวการเจรจาที่ออตตาวาไม่เป็นผล

นายกฯ สั่งผู้ว่าฯ 7 จว.ชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องมีความพร้อมเต็มที่ ดูแล-อพยพประชาชน

นายกฯ มอบนโยบายชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน สั่งผู้ว่าฯ 7 จังหวัดเตรียมแผนดูแลประชาชน เผย ยืมสตาร์ลิงค์ทหารไว้สื่อสารแล้วเปรียบ ”ชรบ.“ เป็นกำแพงมหึมาดูแลแนวหลังให้ปลอดภัย - สร้างความสบายใจให้ทหารไม่ต้องพะวงหลังห่วงครอบครัว ชี้ ใครคิดรบกับไทยคงประสาทไม่ดี

โถ! ทภ.2 เรียกร้องกัมพูชาหยุดวางทุ่นระเบิด ย้ำธำรงความสัมพันธ์ฉันมิตรเพื่อนบ้าน

รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากการรวบรวมหลักฐานเชิงประจักษ์ในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ที่พื้นที่เกิดเหตุเมื่อปี พ.ศ. 2568

หวิดเสียขาที่ 8! ทภ.2 แจงทุ่นระเบิดที่ห้วยตามาเรีย เป็นของเก่ากัมพูชาวางไว้

กองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงเหตุการณ์เสียงระเบิดในพื้นที่ห้วยตามาเรีย มีรายละเอียดดังนี้ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 เวลา 14.20 น. หน่วย ร้อย.ร.1622 ซึ่งปฏิบัติภารกิจในพื้นที่

‘คนจีน’ถึงคราวซวย! เหยียบทุ่นระเบิดเขมร

กองทัพภาคที่ 1 เผยชาวจีนเหยียบทุ่นระเบิดเขมรที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว หลังลักลอบเข้าเมือง ด้านสถานทูตจีนติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด ระบุชายชาวจีนอาการทรงตัว